11 มิ.ย. เวลา 23:40 • ความคิดเห็น

"ยายๆ ผักขายยังไง?"

°
ยายชรา ก็ตอบว่ากองละ 5 บาทจ้า
คุณนายก็บอกว่า ฉันต้องการซื้อผัก 6 กำ 25 บาทได้ไหม (ที่จริงควรจะ 30 บาท) ยายชราตอบว่า แล้วแต่คุณนายเถอะ อยากซื้อเท่าไหร่จ่ายเท่าไหร่ก็ตามสะดวก วันนี้อาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีของยายก็ได้ เพราะตั้งแต่เช้า ยังขายผักไม่ได้เลย
.
แล้วคุณนายก็หิ้วผัก 6 กำ เดินไปขึ้นรถเก๋งที่มีเพื่อนๆ นั่งอยู่แล้ว ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องว่า สามารถซื้อไข่ได้ในราคาถูกกว่าที่ยายขาย
.
หลังจากนั้นคุณนายและผองเพื่อนก็ไปภัตตาคารแห่งหนึ่ง สั่งอาหารมา และกินกันอย่างเพลิดเพลิน แต่ก็ไม่หมด ยังเหลืออีกมากมายเยอะแยะ จนในที่สุดก็เรียกทางร้านมาเช็คบิล ราคาทั้งหมด 1400 บาท คุณนาย ยื่นเงินไปให้ 1500 แล้วบอกว่า "ไม่ต้องทอนนะคะ..."
.
เงินแค่นี้มันธรรมดามากสำหรับเจ้าของภัตตาคาร แต่สำหรับยายชราที่นั่งขายผัก ถ้าเขารู้มันอาจจะเจ็บปวดมากก็ได้นะ
.
จุดสำคัญคือว่า ทำไมเราชอบโชว์ว่า เวลาเราซื้อของจากพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นชาวบ้านลำบากอยู่แล้ว เรามักต่อรองราคาและรู้สึกพึงพอใจ ถ้าหากว่าเราต่อราคาได้ถูกกว่าราคาที่เขาขาย..
.
คุณคิดว่าแปลกไหมล่ะ ?
หลายคนมักไม่เคยได้ต่อรองราคาสินค้าราคาแพงๆ เหล่านั้น ที่วางขายในห้าง ในร้านอาหารใหญ่ๆ ที่เขาตั้งราคาไว้สูงเรียบร้อยหมดแล้ว
.
ลองอ่านนี้ดูอีกหน่อย..
ฉันมักจะชอบซื้อของจากคนจนๆ และให้ราคาสูง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ต้องการสินค้าเหล่านั้น ..แค่ต้องการให้เงินแก่พวกเขาเพื่อนำไปใช้เลี้ยงครอบครัวเขา
.
ถามว่าทำไมฉันทำแบบนั้น "มันเป็นการทำบุญ ที่มีคุณค่ามาก" .. (ที่จริงก็แบบว่า มันเป็นการช่วยเขา ที่ทำให้เขาไม่ต้องรู้สึกว่าเขาเสียศักดิ์ศรีค่ะ)
.
ฉันรู้ว่า ส่วนใหญ่ คุณไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ข้อความเหล่านี้หรอก แต่ลองทำดูซะหน่อยสิ... เงินเล็กน้อยของคุณอาจจะเป็นชีวิตของเขาเลยก็ได้นะ
โฆษณา