15 มิ.ย. เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เลือกกองทุนไหนดี ? เมื่อหุ้นกำลังจะโต ดอกเบี้ยกำลังจะลด

แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีทิศทางชะลอตัวลงในปี 2024 - 2025 แต่โอกาสที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือ Recession นั้นกลับลดลง โดยนักวิเคราะห์ของ Bloomberg คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเติบโตที่ 3.1% ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มคาดการณ์จากไตรมาสก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 2.6% เท่านั้น
โดยเศรษฐกิจของ ‘สหรัฐอเมริกา’ คาดว่าจะเติบโตลดลงเล็กน้อยที่ 2.1% แม้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอย่างดัชนี PMI และตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงสู่เป้าหมาย 2% ได้
ส่งผลให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะมาช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี มีการปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 4.6% ซึ่ง BBLAM มองว่าเป็นจุดที่การถือตราสารหนี้แล้วให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี
สำหรับสินทรัพย์เสี่ยงในประเทศต่างๆ BBLAM มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไต้หวัน และอินเดีย ยังคงเป็นกลุ่มประเทศที่มีระดับกำไรเพิ่มขึ้น แต่ก็มีราคาหุ้นที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เกาหลี และฮ่องกง แม้จะเป็นกลุ่มประเทศที่มีระดับกำไรเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ราคาหุ้นก็ยังไม่ปรับสูงขึ้นมากนัก ทำให้ตลาดกลุ่มนี้มีความน่าสนใจที่จะลงทุนในระยะต่อไปมากกว่า
โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่มีปัจจัยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงนโยบายการกำกับดูแลกิจการ เพื่อส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนผ่านการซื้อหุ้นคืน การส่งเสริมการสื่อสารระหว่างบริษัทกับนักลงทุนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ และมีนัยสำคัญต่อการลงทุนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน การปรับค่าแรงเพิ่มขึ้นถึง 5.8% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่สูงที่สุดในรอบ 30 ปีของญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความกังวลเรื่องต้นทุนด้านแรงงาน แต่ตลาดกลับมองว่าเป็นการสร้างความมั่นใจ ให้กับนักลงทุนว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเติบโต จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่าบริษัทจดทะเบียนของญี่ปุ่นน่าจะยังมีกำไรในปีนี้กว่า 11%
แล้วในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นกำลังจะเติบโต และอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กำลังจะพลิกกลับเป็นขาลงนี้ ควรเลือกลงทุนในกองทุนไหนดี ? BBLAM ก็ไม่พลาดที่จะนำกองทุน ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้ามาแนะนำ โดยกองทุนที่เป็น B-SELECT ในไตรมาสที่ 2/2024 นี้ ได้แก่
1. B-DYNAMIC BOND กองทุนรวมตราสารหนี้แบบยืดหยุ่นที่จะได้รับประโยชน์เต็มๆ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือสิ้นสุดวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้น
2. B-GLOBAL กองทุนรวมหุ้นคุณภาพทั่วโลกที่มีนโยบายกระจายการลงทุนไปยังประเทศต่างๆ จากทั่วโลกในหลากหลายอุตสาหกรรม จึงช่วยกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุนจากการกระจุกตัวในตลาดใดตลาดหนึ่ง และเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในแต่ละภูมิภาค
3. B-USALPHA กองทุนรวมหุ้นสหรัฐฯ ที่เน้นลงทุนแบบ Growth Style เนื่องจาก BBLAM มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะยังคงสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี สินค้าฟุ่มเฟือย และ Healthcare
4. B-NIPPON กองทุนรวมหุ้นญี่ปุ่นที่เน้นการลงทุนในบริษัทที่มีความยั่งยืนของการเติบโตของกำไรและยอดขาย ซึ่งอุตสาหกรรมที่มีน้ำหนักมากที่สุดในกองทุนตอนนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต กลุ่มเทคโนโลยี และ Healthcare
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ BBLAM
• โทร. 0 2674 6488 กด 8
• เว็บไซต์ www.bblam.co.th
• ลงทุนด้วยตนเองง่ายๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ หรือแอป BF Fund Trading จาก BBLAM ได้ที่ https://www.bblam.co.th/BFTTrade
คำเตือน : การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
 
#BBLAM #กองทุนบัวหลวง #BFFundTrading #MobileBanking #ธนาคารกรุงเทพ #BSELECT
โฆษณา