12 มิ.ย. เวลา 12:00 • ธุรกิจ

จากสุกี้ตี๋น้อย สู่ GENTLEWOMAN สร้างธุรกิจ 10,000 ล้าน ได้ในรุ่นเดียว

ผู้หญิงอายุน้อย สร้างธุรกิจให้มีมูลค่าเป็น 10,000 ล้านบาท ใน Generation เดียว
ถ้าเป็นในยุคก่อนแล้ว สำหรับประเทศไทย ก็คงดูเป็นเรื่องชวนเพ้อฝัน
2
- สุกี้ตี๋น้อย ขยายสาขาเป็นว่าเล่น ปีล่าสุดกำไร 907 ล้านบาท
- GENTLEWOMAN แบรนด์ยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ปีล่าสุดกำไร 525 ล้านบาท
1
ประเทศไทยเฝ้าหา ผู้ประกอบการ STARTUP ที่จะเป็นยูนิคอร์น
ทุกคนมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจเทคโนโลยี จะได้สเกลเร็ว ๆ
แต่ผลปรากฏว่า บริษัท TECH STARTUP ของไทยส่วนใหญ่ ไปไม่รอด และมีน้อยมากที่ก้าวไปถึงบริษัทที่มีมูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท
1
ในขณะที่ทุกคนท้อแท้ มีบริษัทหน้าใหม่อยู่กลุ่มหนึ่ง ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาได้ไม่นาน กำลังแข่งกันเติบโต
บริษัทกลุ่มนี้ขายสิ่งเดิม ๆ เช่น อาหาร เสื้อผ้า
1
ถึงจะไม่ได้ทำธุรกิจเทคโนโลยีที่ดู Sexy แต่ก็ประสบความสำเร็จ ผู้คนนิยมกัน
มีหลายบริษัทในกลุ่มนี้ก่อตั้งได้ไม่ถึง 10 ปี แต่ก็มีแววที่จะเป็นบริษัทมูลค่าระดับหมื่นล้านบาทได้..
ภาพจำเศรษฐกิจไทยของใครหลายคน พูดกันว่าเติบโตช้า บริษัทไม่ไปไหน ย่ำอยู่กับที่ มาเป็นสิบปี..
แต่จริง ๆ แล้ว ประเทศไทย มีบริษัทเติบโตเร็วซ่อนอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะบริษัทหน้าใหม่นอกตลาดหุ้น..
หากพูดถึงบริษัทมูลค่า 10,000 ล้านบาท
ถ้าวัดกันโดยไม่ได้สนใจเลยว่า ทำธุรกิจอะไร
ก็คงต้องเป็นบริษัท ที่ผลิตกำไรได้อย่างน้อย 500 ล้านบาทขึ้นไป
ถามว่าทำไมต้องกำไรเท่านี้ ?
นั่นก็เพราะว่าใช้หลักการคำนวณหามูลค่าบริษัทอย่างง่าย ซึ่งมาจาก กำไรทั้งหมด คูณกับ P/E ซึ่งค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นไทย ณ ตอนนี้ อยู่ที่ 17 เท่า
1
ซึ่งถ้าให้คำนวณอย่างง่าย กำไร 500 ล้านบาท x P/E 20 เท่า ก็จะเป็น 10,000 ล้านบาท พอดี..
ยกตัวอย่างบริษัทมูลค่าระดับ 10,000 ล้านบาท ในตลาดหุ้นไทย
- MAJOR ทำธุรกิจโรงหนัง
มูลค่าบริษัท 10,600 ล้านบาท
ปี 2566 มีกำไร 1,041 ล้านบาท
P/E 10 เท่า
เรามาดูธุรกิจ “สุกี้ตี๋น้อย”
บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ก่อตั้งมาเพียง 7 ปี มีผลประกอบการ 3 ปีล่าสุด
2
ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 5,262 ล้านบาท กำไร 907 ล้านบาท
รายได้เติบโตเฉลี่ย 83%
กำไรเติบโตเฉลี่ย 148%
2
จะเห็นว่าสุกี้ตี๋น้อย ก่อตั้งมา 7 ปี ตอนนี้มีกำไรใกล้เคียงกับโรงหนัง MAJOR ที่ก่อตั้งมาแล้ว 29 ปี ซึ่งถ้าให้มูลค่าเท่า MAJOR สุกี้ตี๋น้อยก็จะมีมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท
1
หาก P/E 20 เท่า สุกี้ตี๋น้อย ก็จะมีมูลค่าบริษัทราว 18,000 ล้านบาท
ต่อมาเป็นธุรกิจเสื้อผ้า
- SABINA อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ทำธุรกิจขายชุดชั้นใน
มูลค่าบริษัท 8,900 ล้านบาท
ปี 2566 มีกำไร 463 ล้านบาท
P/E 19 เท่า
2
เจ้าของแบรนด์ GENTLEWOMAN
บริษัท เจนเทิลวูแมน จำกัด ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2561 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน มีผลประกอบการ 3 ปีล่าสุด
3
ปี 2564 รายได้ 168 ล้านบาท กำไร 32 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 594 ล้านบาท กำไร 184 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 1,507 ล้านบาท กำไร 525 ล้านบาท
4
รายได้เติบโตเฉลี่ย 200%
กำไรเติบโตเฉลี่ย 305%
จะเห็นว่า GENTLEWOMAN ก่อตั้งมา 6 ปี ตอนนี้มีกำไรใกล้เคียงกับ SABINA ที่ก่อตั้งมาแล้ว 29 ปี..
หาก P/E 20 เท่า GENTLEWOMAN ก็จะมีมูลค่าบริษัทราว 10,000 ล้านบาท
จากตรงนี้ จะเห็นได้ชัดว่าทั้ง 2 บริษัท
อายุยังไม่ถึง 10 ปี แต่กลับเติบโตแบบก้าวกระโดด
และผลิตกำไร ชนิดที่เทียบชั้นกับบริษัทในตลาดหุ้นไทย กันได้แล้ว
จริง ๆ แล้ว ในประเทศไทย ยังมีบริษัทที่คล้ายแบบนี้อีกเป็น 10 บริษัท ที่กำลังเติบโตแรงไม่แพ้กัน ไว้ลงทุนแมนจะพูดถึงในคราวต่อ ๆ ไป
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ฟาดหน้าคนที่บอกว่า เศรษฐกิจไทยไม่โตแล้ว เราทำธุรกิจอะไรไม่ได้
1
เมื่อดูเหล่าบริษัทหน้าใหม่ที่ก้าวขึ้นมา
จะเห็นได้ชัดว่า โอกาสยังมีอยู่เสมอ
อยู่ที่ตัวเราเองมากกว่า ว่าเราจะมองเห็นโอกาสหรือไม่
1
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เราตระหนักได้ว่า ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องมีความรู้เขียนโปรแกรมที่ซับซ้อน
ไม่ต้องยอมขาดทุน ทุ่มตลาดเพื่อให้ได้ User แล้วค่อยทำกำไรทีหลัง
เพราะจากตัวอย่างที่ยกมา
ไม่ว่าจะธุรกิจขายสุกี้ ขายเสื้อผ้า กระเป๋า
ก็ดูจะเป็นธุรกิจเข้าใจง่าย ที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ตลาดนั้นมีขนาดใหญ่พอ ที่พร้อมจะให้แบรนด์ใหม่ไปแย่งผู้เล่นเดิม
2
ซึ่งก็อาจจะเป็น DNA ของตัวผู้ก่อตั้งเองด้วย ที่สร้างแบรนด์ หาจุดเด่น หาช่องว่างของตลาด และสามารถนำมาตอบโจทย์ลูกค้าได้สำเร็จ
เรื่องราวของสุกี้ตี๋น้อย สู่ GENTLEWOMAN คงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ เห็นตัวอย่างความสำเร็จว่ามันยังเป็นจริงได้ในยุคนี้
1
ที่สร้างธุรกิจ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ได้ในรุ่นเดียว..
References
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-settrade
โฆษณา