13 มิ.ย. เวลา 00:18 • ประวัติศาสตร์
เจิ้งโจว

บทเรียนการลงหลังเสือ อีกมุมนึงของจักรพรรดิหลิวซี(เหี้ยนเต้) หลังจากได้รับ The Second Chance

"Leaders aren't born, they are made. And they are made just like anything else, through hard work"
ตอนนี้สังคมไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (aging society) และเรื่อง เกษียณแล้วลงจากหลังเสือ วางมืออย่างไรให้สำราญ เริ่มมีการพูดถึงกัน บ่อยขึ้น ๆ ผมมีตัวอย่างหนึ่งที่หักมุมมาก ๆ เพราะ จริง ๆ แล้ว พอเจ้าตัวลงจากหลังเสือแล้วกลับสุขกายสบายใจกว่าคนที่ถีบแกลงบัลลังค์เยอะเลยครับ
มาเรียนรู้จากผู้ที่ถูกตราหน้า ลบหลู่ เหยียดหยาม และทำให้คำว่าเหี้ยนเต้ หมายถึงหมดสิ้นทุกอย่างกันครับ
อ่านสามก๊กจบสามจบคบไม่ได้
เสียดายที่นิยายสามก๊กมีการรับรู้เชิงลบ (Negative Perception) ฝังหัวคนไทยมานาน ซึ่งเป็นธรรมดาที่พอเอาประวัติศาสตร์มาแต่งเป็นวรรณกรรม ภาพลักษณ์ของบุคคลในนั้นก็ต้องโอเวอร์แอ็กติ้ง มาแนว Inspired on a true story ไส่ไข่ให้คนอ่านได้รักแรง เกลียดแรง ตราตรึง แต่ก็สร้างความเข้าใจผิดกันไปเยอะ
ทำให้นักอ่านรุ่นใหม่ ๆ หลายคนไม่กล้าหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านอย่างจริงจัง ทั้งที่จริงสามก๊กสอนเรื่องการใช้ชีวิตและการคบคนอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าเราอ่านจบเท่ากับเราอ่านชีวิตคนไปแล้วพันกว่าคน ค้นพบที่มาที่ไปและจุดจบที่หลากหลายทั้งคนที่รับผิดชอบ ผู้นำที่ดี ผู้นำโกง คนเจ้าเล่ห์ คนซื่อสัตย์แต่เลือกเจ้านายผิดพลาดจะมีจุดจบอย่างไร ซึ่งในชีวิตคนเรา เรื่องทั้งหมดนี้มันเกิดซ้ำแน่นอน เพราะมนุษย์ยังคงเป็นเหมือนเดิม
ผมค้นพบจากการอ่านสามก๊กมายาวนานว่า การ "อ่านสามก๊กให้คบได้" ต้องอ่านให้ครบ อ่านให้จบ อ่านให้ทั่วทั้งชีวิตของคนคนนั้น แล้วต้องวิเคราะห์ว่า ช่วงชีวิตของตัวละครนั้นๆ มีความจำเป็นอะไร การจะวิเคราะห์ได้ก็ต้องอ่านให้หลายเวอร์ชั่น ทั้งไทย อังกฤษ หรือแม้แต่ภาษาจีนที่เดี๋ยวนี้แปลงได้ง่ายแล้ว
ชีวิตของพระเจ้าเหี้ยนเต้ผู้แบกรับความอัปยศในช่วงปลายของราชวงศ์ฮั่น และชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ(Life at second Chance) ของท่านเป็นหนึ่งใน Case Study การอ่านสามก๊กให้คบได้ เรื่องนั้นครับ หลายสิบปีก่อนในบ้านเราคำว่า “เหี้ยนเต้” นิยมใช้ในความหมายว่า หมดเกลี้ยง สิ้นแล้ว คำว่า “เหี้ยนเต้” คำนี้ รากเดิมนั้นมาจาก “จักรพรรดิฮั่นเซี่ยนตี้” ในภาษาจีนนั่นเองสาเหตุเพราะหลังจากราชวงศ์ฮั่นรุ่งเรืองมาสี่ร้อยกว่าปี ก็มาหมดฤทธิ์สภาพเอาในรัชในสมัยของพระองค์นั่นแหละ
ข้อเท็จจริง ทางประวัติศาสตร์
แท้ที่จริงรัชสมัยของ ฮั่นเลนเต้ พระราชบิดาของเหี้ยนแต้ต่างหากที่เป็นชนวนแท้ จริงที่ก่อให้เกิดยุคสามก๊ก เนื่องจากหลังจากทรงครองราชสมบัติไป 10 กว่าปี ก็เริ่มออกห่างจากราชการบ้านเมือง หลงมัวเมาในสุรานารี มอบ ฯ ให้ขันทีทำงานแทน ขันทีก็ได้ใจไปกดขี่ราษฎร ดังนั้นใน ค.ศ. 183 จึงมีกลุ่มชาวนาในต่างจังหวัดตั้งกลุ่มกบฏโพกผ้าเหลือง ตามเนื้อเรื่องที่เป็นจุดเริ้มต้น สามพี่น้องสาบานสวนท้อของก๊วนพระเอก
หลังจากนั้นพลเอกตั๋งโต๊ะ ก็ฉวยโอกาสเข้ายึดอำนาจ คืนความสุขให้ประชาชน แต่แกมีปัญหาไม่ได้เรื่อง เพราะแกนิสัยไม่ดี ภายหลังสถาปนาโอรสพระเจ้าเลนเต้ "หลิวซี" เป็นฮ่องเต้เมื่อปี คศ 189 ทั้งที่ยังพระองค์เป็นเด็กอายุแค่ 8 ขวบ ไม่รู้เรื่องรู้ความ ภายหลังขุนนาง ร่วมมือกันทุกภาคส่วนโค่นปราบตั๋งโต๊ะสำเร็จ(ในนิยายให้เป็นตำนานรัก ลิโป้-เตียวเสี้ยน) แต่บ้านเมืองก็ยังวุ่นวาย แย่งกันเป็นใหญ่
พลเอกตั๋งโต๊ะ
โจโฉไปรับพระเจ้าเหี้ยนเต้ที่ลกเอี๋ยง และขอให้พระเจ้าเหี้ยนเต้แปรพระราชฐานไปยังเมืองใหม่ เมืองที่อยู่ในอิทธิพลของโจโฉ เมืองฮูโต๋ เมื่อพระเจ้าเหี้ยนเต้มาถึงเมืองฮูโต๋ โจโฉย้ายของออกจากตำหนักของตัวเอง แล้วมอบตำหนักนี้ให้เป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ต้อนรับฮ่องเต้อย่างนบนอบ พิถีพิถัน ครบถ้วนทั้งพิธีกรรม และมารยาท ตรงข้ามกับที่บรรดาขุนศึกทั้งหลายเคยกระทำและคิดจะทำ
ปี คศ 196 โจโฉ รวบอำนาจ แค่ห้าปี รวบรวมแผ่นดินด้านเหนือเป็นปึกแผ่น เวลานั้น พระเจ้าเหี้ยนเต้ ยังเอ๊าะๆ แค่ 15 ปี แถมไม่มี พระราชอำนาจใด ๆ พระองค์ห้าวเป้งคิดจะลองซัดกะ โจโฉ ซึ่งตอนนั้นออกาไนซ์ รัฐบาล กองทัพ และทุกสิ่งอย่างอยู่ในมือแต่ท้ายสุดคณะก่อการปฏิวัติและพรรคร่วมทั้งตังสิน ฮองเฮา และพระโอรส โดนโจโฉ เก็บหมด แต่ด้วยความล้ำลึกของโจโฉ แกไม่ปลงพระชนม์ ฮ่องแต้
โองการเลือด จุดเริ่มต้นการกวาดล้างราชสำนักครั้งใหญ่
แต่ยกเอาลูกสาวให้มาเป็นเมียใหม่แทนฮองเฮาเดิม ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พระเจ้าเหี้ยนเต้ ก็อยู่ในร่มเงาของโจโฉ จนถูกขนานนามว่าเป็น“ฮ่องเต้หุ่นเชิด Puppet Emperor” ถูกมองว่าอ่อนแอ ยวบยาบ แม้ในนิยายมีหลายเหตุการณ์ ที่ฮ่องเต้ก็ถือว่าน่าจะมีความสามารถน่าจะพอตัวและไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างง่ายๆ
แต่ด้วยมีขีดความสามารถและสติปัญญาอยู่ในระดับปานกลาง การที่จะปะทะกับกับโจโฉแล้วรอดกลับมาเป็นตัวของเองเพื่อปกครองบ้านเมือง น่าจะยาก การไม่มี Power & Authority จะปฏิวัติแผนการก็ไม่ไม่ซับซ้อน ทำให้ตกเป็นเบี้ยล่างตลอด เพราะโจโฉเหนือชั้นกว่ามาก (แต่ดูแล้วอย่างไรก็ดีคิดว่าน่าเก่งกว่าพระเจ้าเล่าเสี้ยน ผู้สืบทอดของเล่าปี่)
ในที่สุดก็หมดยุคของโจโฉ และโจผี Take Action ทำในสิ่งที่พ่อไม่กล้าทำคือปลดฮ่องเต้ แล้วขึ้นครองราชแทน เป็นการบังคับให้ฮ่องเต้สละราชสมบัติ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติจีนอีกต่างหาก และแผ่นดิน ก็แบ่งออกเป็นสามส่วน คือ โจผี เล่าปี ซุนกวน รายละเอียดการปลดฮ่องเต้ของโจผี นั้นไม่ธรรมดา
เฉาพี บอกให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ สละราชสมบัติซะ พระเจ้าเหี้ยนเต้ ก็มิรู้ทำไงดี เขียนก็เขียน โจผีบอกว่าจะให้รับตำแหน่งทันที ดูไม่สง่างาม พระเจ้าเหี้ยนเต้ ถึงกับเขียนหนังสือสละราชสมบัติ ถึง สามครั้ง แฮททริก โจผีถึงได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ ขนานนามว่า เว่ยเหวินตี้สง่างามสมใจเฮียเค้าล่ะ
ชีวิตบั้นปลายของพระเจ้าเหี้ยนเต้หลังจากถูกปลดล๊อค จากการเป็นหุ่นเชิดพระเจ้าโจผี นั้นพลิกผัน
The Second Half of your life Peter Drucker
เว่ยเหวินตี้ก็ให้ความเมตตาต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ ตั้งให้เป็นตำแหน่ง ซานหยางกง สถานะเหนือกว่าเจ้าครองแคว้นให้ไปอยู่ที่ เมืองซานหยาง ปัจจุบันคือเจิ้งโจว เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลเหอหนาน ในภาคกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีนมีคฤหาสน์หลังงาม ทรัพย์สินศฤงคารพรั่งพร้อมภูมิประเทศแถบนั้นงดงาม
เมืองซานหยาง ที่ พระเจ้าเสี้ยนเต้ มาครองหลังสละราชสมบัติ-ปัจจุบันคือเจิ้งโจว
รัฐบาลจีนผลักดัน เจิ้งโจวเป็นเมืองหลักด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ อยู่ในรายชื่อเมือง 130 อันดับแรกของโลกตามดัชนีคุณภาพงานวิจัย (Nature Index) ที่นั่นเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยระดับโลกหลายแห่งเช่นมหาวิทยาลัยเจิ้งโจว มหาวิทยาลัยเหอหนาน มหาวิทยาลัยเกษตรเหอหนาน มหาวิทยาลัยการแพทย์จีนเหอหนาน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเหอหนาน เป็นผู้นำด้านการเกษตรระดับโลกแห่งหนึ่ง
ก่อนจากกัน เฉาพี อวยพรอำลากันด้วยว่า
“ทรัพย์สมบัติในใต้หล้า ที่ได้แบ่งปันกับท่าน”
นักประวัติศาสตร์จีน วิเคราะห์ออกมาว่าเหตุที่ พระเจ้าโจผี ให้ความเมตตาต่อซานหยางกงพี่เขย เป็นพิเศษเพื่อต้องการสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นคนมีคุณธรรม หลังจากที่ลงจากราชบังลังก์มาอยู่ที่ซานหยาง ท่านก็เป็นที่รักยิ่งของประชาชนในถิ่นนั้น ด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละทรัพย์สินเพื่องารด้านการแพทย์แผนจีน เพื่อช่วยเหลือประชาชน อย่างจริงจัง
พระเจ้าเหี้ยนเต้ สิ้นพระชนม์เมื่อ ปี 234 นับได้ 54 ปี ลูกของพระเจ้าโจผี ก็สถาปนาอวยยศพร้อมสร้างหลุมพระศพ อย่างสมเกียรติ์ สถิตคงไว้ถึงปัจจุบัน
หลุมฝังพระศพ พระเจ้าเหี้ยนเต้ ที่ยังคงอยู่ แม้นกาลเวลาผ่านมาเกือบสองพันปี
ส่วนลูกหลานซานหยางกง สืบทอดต่อกันรุ่นเหลนก็กลับเกิดสงครามครั้งใหม่ หลิวอาจือ เหลนคนหนึ่งตัดสินใจย้ายหนีสงครามพาครอบครัวและคณะกว่าสองพนคนลงเรือไป ฝู่ซังชื่อเรียกญี่ปุ่นในขณะนั้น ชาวไอนุให้การต้อนรับคณะของหลิวอาจืออย่างดีฝ่ายจีนเองก็นำเทคโนโลยี การเกษตร การปศุสัตว์ ไปสอนที่แดนอาทิตย์อุทัย ต่อมาภายหลังเป็นต้นตระกูล Sakaue/Okura/Harada ทุกๆปี จะมีลูกหลานชาวญี่ปุ่น มาไหว้บรรพชนอยู่เรื่อย ๆ ครับ
บทสรุปก็คือหลังจากที่ จักรพรรดิหลิวซี(เหี้ยนเต้) แห่งราชวงศ์ฮั่นถูกลดตำแหน่งเป็นซานหลางกง(Duke Shanyang) ชีวิตของเขาเริ่มต้นขึ้นจริง ๆ บางทีก็จริงดั่งเค้าว่า กลยุทธ์ที่ 36 If All else fails, retreat "หนีคือสุดยอดกลยุทธ์" นั่นแหละครับ เพราะในอีกแง่มุมหนึ่งชาวเมืองซานหยางมีการบันทึกข้อมูล เล่าสู่กันฟัง และให้การยกย่องพระเจ้าเหี้ยนเต้ ว่าท่านมีชีวิตบั้นปลายท้ายดีที่สุด เป็นที่รักใคร่จากการทำความดี มากกกว่าการชิงอำนาจครับ
ดาราบางดวงเปล่งประกายในห้วงนภาแห่งประวัติศาสตร์
หนึ่งความฮึกเหิมเยี่ยงวีรบุรุษยังควบตะบึงไปในโลกหล้า
สามก๊กฉบับนักกลยุทธ์
โฆษณา