13 มิ.ย. 2024 เวลา 03:49 • ธุรกิจ
วัดพระธาตุดอยสะเก็ด

เคล็ดลับง่ายๆในการฝึกให้คุณไม่กลายเป็นคนท๊อกสิกใส่คนอื่นตามหลักพระพุทธศาสนา

พระพุทธเจ้าได้ทรงค้นพบความจริงที่ว่า มนุษย์เราจำเป็นต้องอยู่ร่วมกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้ทรงเผยเคล็ดลับการอยู่ร่วมกันในสังคม หรือ "สันติแห่งโลก 4 ประการ" ขึ้นมาให้ชาวโลกได้นำไปปฏิบัติเพื่อการมีชีวิตที่ดีขึ้นตั้งแต่ทางโลก ไปจนถึงทางธรรม
ธรรมะของพระพุทธเจ้ามีจุดเด่นหรือท่าไม้ตายตรงที่สามารถประยุกต์ให้เข้ากับอุปนิสัยหรือบุคลิกภาพของแต่ละประเภทบุคคลได้ ไล่ไปตั้งแต่ปุถุชน สัมมาทิฏฐิบุคคล โสดาบัน สกิททคามี อนาคามี ไปจนถึงพระอรหันต์ และแน่นอนหลัก "สันติแห่งโลก 4 ประการ" ก็เช่นกัน
หลักสันติแห่งโลกคือคุณสมบัติของผู้ที่สามารถใช้ธรรมะเพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จทางโลก มีทั้งหมดสี่ประการ ได้แก่ ความซื่อตรง การข่มจิตใจ ความอดทน และการเสียสละบริจาค
ความซื่อตรงจะทำให้เรามีนิสัยรักสัจจะ เป็นคนมีสัจจะ สัญญาอะไรไว้ก็ทำ พูดจริงทำจริง หนักแน่นมั่นคงไม่หวั่นไหว แม้ใครจะโน้มน้าวให้ไปทำชั่วก็จะไม่มีวันทำตาม ได้รับความเชื่อถือ มีแต่คนยกย่องยำเกรงและให้เกียรติ ความซื่อตรงนี้แหละคือคุณากรนำส่งให้ก้าวไปสู่เส้นทางโสดาบันได้ง่าย เพราะโสดาบันจะไม่หวั่นไหวต่อสิ่งอื่นๆ จะจดจ่อเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยเท่านั้น
การข่มจิตใจ เมื่อหมั่นข่มจิตข่มใจจนเป็นอนุสัยติดตัว จะทำให้ต่อรองกับเพื่อนร่วมงานหรือคู่ค้าและผู้คนได้อย่างมีอีคิวสูง ไม่ไหลไปตามแรงกระตุ้นทางอารมณ์ ไม่หงุดหงิดง่ายจนทำให้ตัวเองดูไม่น่าเคารพ ไม่อิจฉาลูกน้อง ไม่หลงระเริงในอำนาจหน้าที่ของตน ไม่กลัวว่าใครจะมีบทบาทเด่นกว่าตน เมื่อสั่งสมบ่อยเข้าก็จะทำให้ปัญญาเลิศเพราะยับยั้งชั่งใจในเรื่องชั่วได้เก่งมาก ปัญญานี้เองจะนำไปสู่การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณจนกลายเป็นอริยบุคคลได้
ความอดทน ถือเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ที่พระพุทธองค์ทรงยกย่องว่าชนใดก็ตามที่มีความอดทนมากจะถือเป็นผู้ประเสริฐ มีหิริโอตตัปปะ สังเกตได้ว่าคนที่อดทน จะไม่ขี้น้อยใจ จะไม่ฟุ้งซ่าน มีแต่คนเข้าอกเข้าใจและได้รับความเห็นใจ และเมื่อมีความทุกข์จะผ่านพ้นความทุกข์ไปได้เร็วกว่าคนที่ไร้น้ำอดน้ำทน เมื่อรู้จักอดทนก็จะไม่หาเรื่องร้ายเข้าตัว มองการทะเลาะเบาะแว้งเป็นเรื่องไร้ค่า ไร้ประโยชน์ มีแต่โทษ เมื่ออดทนเก่งก็บากบั่นพากเพียรสู้งานหาเงินและเป็นเสาหลักให้ลูกน้องกับครอบครัวได้นั่นเอง
การเสียสละและบริจาค จะปลูกฝังการมีอารมณ์ผ่องใส เบาใจ และเพาะเลี้ยงนิสัยเสียสละให้เติบใหญ่ขึ้นในตัว เป็นการสร้างความปลอดภัยแก่ตนเองเนื่องจากยินยอมสละละวางสิ่งอันเป็นที่รักให้แก่ผู้อื่นได้ เป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไป ครอบครัวและสังคมเป็นสุข มีกัลยาณมิตรรอบตัว ไม่มีใครมาตำหนิติเตียนหรือมาพูดจาถากถางให้ต้องเสียน้ำใจ กล่าวคือได้รับความสบายใจอยู่ชั่วนาตาปี
สรุปแล้วคุณากรของการมีสันติแห่งโลกโดยรวม ก็คือ เมื่อซื่อตรงมีสัจจะก็ย่อมมีเกียรติยศชื่อเสียง เมื่อหมั่นข่มใจไม่ทำสิ่งไม่ดี ย่อมได้รับปัญญา เมื่อมีความอดทนต่อสิ่งยั่วยุและความลำบาก ย่อมเกิดทรัพย์สินเพิ่มพูน และเมื่อหมั่นบริจาค สละละวาง ย่อมเกิดมิตรที่ดีไว้เป็นสมัครพรรคพวกในสังคม ที่สำคัญ หากปุถุชนหมั่นยึดมั่นกระทำสันติแห่งโลกนี้เป็นนิจ ก็จะนำไปสู่ความรุ่งโรจน์แห่งปัญญา (Wisdom Way) ในท้ายสุด และในบั้นปลายก็จะเป็นผู้ง่ายต่อการบรรลุธรรมกว่าคนที่ไม่มีหลัก "สันติแห่งโลก 4 ประการ"
ถ้าใครรู้ตัวว่ากำลังดำรงตน ตรงกันข้ามกับหลักสันติแห่งโลกจนไปก่อความเป็นพิษหรือท๊อกสิกใส่คนอื่นก็ให้รีบหยุดเสีย ก่อนจะสายเกินแก้ ไม่เช่นนั้นในสักวันหนึ่งก็อาจจะประสบเหตุวิบัติฉิบหายในชีวิตเอาได้ แถมยังจะหลีกหนีกฎแห่งกรรมไม่ได้ ต้องตามไปชดใช้กันต่อในปรโลกอีกต่างหาก ขอให้ทุกท่านพึงใช้ชีวิตอย่างมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ไม่ไปก่อบาปก่อกรรมใส่คนอื่นนะครับ
แอดมินเทวดินทร์ แห่งเพจเฟ๊ซบุ๊คธรรมะแฟนตาซี
โฆษณา