ขออนุญาตแยกเป็นสองประเด็น
รับมือกับสถานการณ์
ประเมินตัวเองตามความเป็นจริง ดูให้ถึงขั้นลงลึกในรายละเอียดไปเลยว่า รายรับ รายจ่าย บัฟเฟอร์ ฯลฯ ของเราอยู่ในระดับใด ประมาณไหน ทั้งนี้จะประเมินตัวเองได้ เราก็ต้องมีข้อมูลส่วนตัวของเราเสียก่อน เช่น balance sheet หรือพวกงบดุลส่วนบุคคล แล้วจึงค่อยพิจารณาผลกระทบจากภายนอก
รับมือกับการเสพข่าว
พาดหัวแนวนี้ มีให้พบเห็นทุกวัน ยิ่งคลิกเข้าไปอ่าน algorithm ยิ่งป้อนอะไรแนวนี้ให้รัวๆบางทีคลิกเข้าไปอ่าน เอ๊า!! ไม่มีรายละเอียด ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีอ้างอิง พูดลอยๆก็เยอะ จับแพะชนแกะก็เยอะ ฯลฯ
ตั้งแต่เด็กจนแก่ ไม่เคยได้ยินใครอวยว่าเศรษฐกิจดีซักกะคนนะคะ ได้ยินแต่คนบ่นกันจนชินหูว่า เศรษฐกิจไม่ดี เผาหลอกเผาจริง อะไรเทือกนี้!!
จริงๆเราค่อนไปทาง "มองภาพรวม" มากกว่าค่ะ หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง ประเทศไทยมี 2-3 อย่างที่เราอุ่นใจ คือวินัยการคลังและระบบเตือนภัย สองอย่างนี้เราเชื่อวิกฤตเศรษฐกิจจะไม่ซ้ำรอยในระดับรุนแรงเท่าต้มยำกุ้ง ส่วนที่ใช้คำว่าซบเซา ถดถอย ชะลอตัว ก็ต้องดูเป็นราย sector เอามาเหมารวมก็จะยิ่งหดหู่เสียเปล่าๆ
อีกประการคือ ธปท.และก.คลังของไทย ที่ไม่อยู่ใต้อำนาจของนักการเมืองไม่ว่าสีใด แค่นี้ก็อุ่นใจโขแล้วค่ะ ถึงจะอยู่ใต้กำกับของ deep state ในบางประเด็น แต่ก็ยังดีกว่าโดนแทรกแซงโดยอิทธิพลของนักการเมืองนะคะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
