MOCA : งานศิลปะ และประติมากรรม ด้านหน้าอาคาร
ประติมากรรม KAMA (ตันหา)
ประติมากรรม ชื่อ Kama By ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ .. แทนที่หน้าอกคู่นั้นจะอยู่บนร่างบอบบางของผู้หญิง กลับอยู่บนหน้าขาของสัตว์ร้ายหางเป็นงู แต่ท่อนบนเป็นเทวดาหนุ่ม มือซ้ายถือดอกบัวอย่างสง่า
Kama .. คือกิเลส แสดงถึง ตันหา 3 ประการ
กามตัณหา .. สิ่งที่ตอบสนองความต้องการของประสาททั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
ภวตัณหา .. ความอยากจะเป็น อยากมี
วิภวตัณหา .. ความไม่อยากมี ไม่อยากเป็น
KAMA : Sculpture installation at Chiangmai By Thongchai
ประติมากรรม พุ่มดอกบัวปิติสุข
กลางสระมีพุ่มดอกบัวสีขาวขนาดใหญ่ สะท้อนเงาลงบนผืนน้ำเรียบสงบ
ประติมากรรม พุ่มดอกบัวปิติสุข สร้างสรรค์โดย นนทิวรรธ์ จันทนะผลิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ผู้ออกแบบพระมหาชนก)
- ลักษณะเป็นประติมากรรมรูปดอกบัว 8X8 = 64 และที่ยอดอีก 1 ดอก รวม 65 ดอก
- หมายถึง มรรค 8 อันเป็นแนวทางอันประเสริฐของชีวิต เพื่อดับทุกข์
สัมมาทิฐิ .. ความรู้ในอริยสัจ 4
สัมมาสัมกัปปะ .. คิดชอบ ไม่พยาบาท ไม่เบียดเบียน
สัมมาวาจา .. วาจาที่ถูกต้อง ไม่พูดเท็จ ไม่ส่อเสียด หยาบคาย เพ้อเจ้อ
สัมมากัมมันตะ ... การปฏิบัติที่ถูกต้อง ละเว้นการฆ่า โจรกรรม ประพฤติผิดในกาม
สัมมาอาชีวะ .. เลี้ยงชีพชอบ เว้นการทำมิจฉาชีพ การฆ่า
สัมมาวายามะ .. เพียรชอบ ทำกุศลที่ยังไม่เกิด และรักษากุศลที่เกิดแล้ว
สัมมาสติ ... สติปัฏฐาน 4
สัมมาสมาธิ .. ฌาน 4
พญาเต่าเรือน
สระน้ำเล็กๆใกล้ประติมากรรม Kama .. เป็นประติมากรรมรูปเต่าหายาก บนกระดองของเต่ามองเห็นลายก้นหอยสวยงาม ดูแปลกตา เป็นประติมากรรมกลางแจ้ง สร้างสรรค์โดย ท่านอาจารย์ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ
คนไทยนั้น เชื่อกันว่า พญาเต่าเลือน คือ พระโพธิสัตว์ผู้ช่วยมนุษย์ให้รอดจากอันตราย ซึ่งมีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกตอนหนึ่งว่า ครั้งนั้นสมเด็จพระทศพลเสวยพระชาติเป็นพญาเต่า มีร่างกายอันใหญ่โตกินแต่ใบไม้ และพลาหารต่างๆ บนยอดเขาบนเกาะร้างกลางทะเลและร่างกายของพระองค์ใหญ่เท่ากับเรือนหลังใหญ่ ๆ เรียกกันว่า เต่าเรือน
พญาเต่าเรือน พญาเต่าเลือน
ท่านเสวยสุขอยู่จนกระทั่งวันหนึ่งมีสำเภาของพ่อค้ามาอับปางลงที่หน้าเกาะ ส่วนลูกเรือและพ่อค้ารอดชีวิตจากความตายในทะเลได้แต่ก็ต้องมาผจญกับความอดยาก เพราะบนเกาะไม่มีอาหารการกินแม้แต่สัตว์ใดๆ ก็ไม่มี ยกเว้นพญาเต่าเรือน จึงได้แต่นอนรอคอยความตาย บ้างก็ร่ำๆ จะเข้ากินกันเป็นอาหาร
พระโพธิสัตว์เจ้าเห็นพ่อค้าและลูกเรือทั้งหลายจะพากันมาอดตายกันหมดก็เกิดความสลดใจและเห็นว่าตัวเราก็มีเนื้อมาก อีกทั้งอายุก็มากแล้วหากต้องตายไปตามอายุร่างกายก็จะเน่าเปื่อยหาประโยชน์ไม่ได้ ซึ่งชีวิตนั้นก็เกิดแก่เจ็บตาย
… ก็เลยอธิษฐานเอาร่างกายตนเป็นทาน จึงคลานมาที่หน้าผาแล้วทิ้งตัวลงไปทำให้กระดองกระแทกกับแง่หินแตกกระจาย เนื้อก็ไหลออกมากองอยู่ที่พื้นเบื้องล่าง และทำให้พ่อค้ากับลูกเรือทั้งหลายได้อาศัยเนื้อเต่ากินเป็นอาหาร จึงรอดตาย จนกระทั่งมีเรือผ่านมารับไป และจากการกระทำของพระโพธิสัตว์ในการอุทิศร่างโดยการเลื่อนลงมาจากหน้าผานั้นเลยเรียกกันว่า “พญาเต่าเลื่อน”
คำว่า “เต่าเรือน” จึงเป็นนามของพระโพธิสัตว์ที่มีรูปร่างใหญ่และคำว่า “เต่าเลือน” จึงเป็นนามของพระโพธิสัตว์ขณะเลื่อนตัวเองลงมาจนกระดองแตกถึงแก่ความตายเพื่อเอาเนื้อเป็นทาน
ดังนั้นครูบาอาจารย์ในสมัยโบราณจึงได้สร้างวัตถุมงคลเป็นรูปพญาเต่าเรือน ด้วยเชื่อว่าจะทำให้ทำมาค้าขายดี เพราะถือว่าพญาเต่าเรือนอยู่ในชาติหนึ่งขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์เคยเสวยชาติเป็นพญาเต่าเรือน ได้สละเลือดเนื้อชีวิตเพื่อเป็นทานแก่สัตว์ผู้ยากไร้
ประติมากรรม Hornbill (นางนกเงือก)
เมื่อเปิดประตูเข้าไปในอาคาร .. สิ่งแรกที่รอทักทายผู้มาเยือน คือ ประติมากรรมสีทอง ชื่อ Hornbill บนฉากหลังสีดำ เหมือนพนักงานต้อนรับ นกเงือกสาวสีทอง สยายปีกกว้างทักทาย
ว่ากันว่า .. "ความรัก" มักสร้างสิ่งมหัศจรรย์ไว้บนโลกเสมอ ประติมากรรม "นางนกเงือก" (Great Hornbill Lady) ตำนาน แห่งรักนิรันดร์ ...สร้างสรรค์ประติมากรรมบนผิวโลหะมันวาววับขนาดเท่าคนจริง หล่อด้วยวัสดุแสตนเลสโดย ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ
นกเงือก เป็นสัญลักษณ์ของรักแท้ .. ด้วยนกเงือกจะมีคู่เพียงตัวเดียว
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
