14 มิ.ย. เวลา 06:38 • ความคิดเห็น
ที่จริงแล้ว จิตของเรานั้น ที่อาศัยอยู่ในเรือนกาย ก็เหมือนอยู่ในถ้ำที่มืดมิด มองไม่เห็นอะไรเลย ถ้ไม่เปิดตาขึ้นมา ลืมตาขึ้นมา ก็ไม่รู้ มีีภาพอะไรอยู่้ข้างหน้า ไม่รับรู้ว่ามีอะไร เกิดขึ้นบ้าง ใครมาทำกิริยาดีไม่ดี ก็ไม่รับรู้ได้ หูก็เหมือนกันอยู่ดีๆ หูมันไม่ได้ยิ่ง เสียงก็ไม่รับรู้อะไรเลย จิตที่อาศัยอยู่ในกาย ก็ไม่รับรู้แสงสีภาพอะไรภายนอกได้
คราวนี้ เวลาที่เราอยู่ในถ้า เราก็ทำให้ถ้ำมัน อยู่นิ่งซิ อย่าให้มัขยับเขยื้อน เราก็นั่งดู ให้ถ้ำมันนิ่ง ..เราก็ดูลมเข้าออกภายในถ้ำ มันโล่งโปร่งนั่งสบาย อากาศในถ้ำเป็นยังไงบ้าง มีผีหลอกมั้ย น่าตาเป็นอย่างไง มองเห็นผีในเรือนกายนี้มั้ย ในถ้ำนีมั้ย เอ้านั่งบังคับถ้ำให้มันนิ่งมันทนไม่ไหว เสือมันจะมตะครุบทั้งถ้ำเอาไปกิน เสือนั่นก็คือ อารมณ์กรรมคือกรรม
แม้แต่ในชีวิตประจำ ตาที่เรามองเห็น ภาพแสงสี รูปอะได้ หูได้ยินเสียงได้ เราก็ไม่รู้ว่า ในแต่ละวันจะเจอะเจออะไรบ้าง ไม่เหมือนกันเลย ในเรื่องราวต่างๆ ที่เรากำหนดเองไม่ได้ คราวนี้ เรามาดูสิ่งต่างๆ มีอะไร ที่ผลักไส เหมือนอยู่ข้างเรา ให้ต้องไปทำมาหากิน ไปสถานที่ตรงนั้นตรงนี้ ..มันมาจากเรื่องราวอะไรบ้าง ถ้ามันไม่มีเรืรองที่ผลักไส เราจะไปสถานที่ ตรงนั้นตรงนี้มั้ย สิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นอารมณ์ ทีครองทั้งกายห้อมล้อมจิตเราอยู่ เหมือนจิตเราอยู่ในถ้ำ ถูกเค้าปกปิด ไม่รับรู้ว่า อารมณ์นึกคิดมาจากไหนบ้าง ภายในถ้ำ.
โฆษณา