ทริคในการพัฒนาการเขียนของทุกคน
จากหนังสือ ‘‘100 ways to improve your writing” ของนักเขียนที่ชื่อว่า GARY PROVOST เป็นหนังสือที่บอกเคล็ดลับวิธีการเขียนแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ รายงาน เรียงความ วิจัย และอื่นๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงกับงานเขียนทุกรูปแบบ โดยใช้ได้กับคนทุกวัย และทุกภาษาบนโลกใบนี้ ไม่ใช่เฉพาะแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น
เคล็ดลับจากหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้นักเขียนทั้งหลายสามารถนำไปปรับปรุงพัฒนาการเขียนของตัวเอง อุดช่องโหว่ในงานเขียนของตัวเอง และทำให้งานเขียนของตัวเองมีความสมบูรณ์และมีคุณภาพมากขึ้น
สิ่งที่หลายๆคนไม่ได้รู้ถึงวิธีการเขียนมาก่อนก็จะได้รู้จากหนังสือเล่มนี้ อ่านแล้วได้ทริคดีๆ เข้าใจง่าย พร้อมมีรูปแบบประโยคที่ยกตัวอย่างมาประกอบ ทำให้เห็นภาพและเข้าใจวิธีการเขียนที่จะดึงใจผู้อ่านได้มากขึ้น และไม่อาจละสายตาไปจากถ้อยคำขีดเขียนที่ได้รับการขัดเกลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทริคการเขียนที่น่าสนใจจากหนังสือเล่มนี้ มีดังนี้
ก่อนการเขียน
- ควรรู้ว่าเราจะเขียนหัวข้ออะไร เขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร
- หาข้อมูล หรือ สอบถาม เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในงานเขียนของตัวเอง
- ควรมีสารานุกรมหรือดิกชันนารี เพื่อคัดสรรไว้ใช้ให้เหมาะกับบริบทของประโยค และลดการ ผิดหลักไวยกรณ์
- หาที่เงียบๆ สบายใจ ในการเขียน
- เข้าเรียนคอร์สเกี่ยวกับการเขียน เพื่อที่จะได้รู้วิธีแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง รับคำวิจารณ์งานเขียนของตัวเองจากคนอื่น เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุง
เอาชนะการเขียนไม่ออก
- ไปเดินเล่น หรือ ออกกำลังกาย เพื่อให้เกิดไอเดียในการเขียนใหม่ๆ
- ลองนำวิธีการเขียนของคนอื่นมาใช้ แล้วดัดแปลงให้เข้ากับรูปแบบและภาษาการเขียนของตัวเอง
- พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับผู้อื่น
การเขียนจุดเริ่มต้น
- เขียนคำนำเปิดประเด็นให้กระตุ้นความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่าน
- เขียนคำนำให้เข้ากับหัวข้อและเรื่องราวที่จะเขียนต่อไป
- ควรเขียนให้กระชับ ชัดเจน ไม่อ้อมโลก
ในระหว่างการเขียน
- ค่อยๆ ประกอบประเด็นต่างๆในงานเขียน
- ไม่ใช้คำซ้อน และ คำฟุ่มเฟือย เกินความจำเป็น
- เขียนประโยคปิดท้ายให้ดี
- ตรวจทานว่าในองค์ประกอบงานเขียนในส่วนต่างๆ พลาดการเขียนส่วนไหนไปหรือเปล่า ต้องเพิ่มเติมหรือตัดส่วนไหนทิ้งไป สื่อสารได้ดีหรือเปล่า
- เขียนงานเขียนด้วยเอกลักษณ์ของตัวเอง เป็นธรรมชาติ และกลมกลืนกัน
การใช้คำอย่างทรงพลัง
- ไม่ควรใช้คำผิดพลาด เพราะจะทำให้ผู้อ่านสับสน
- ใช้คำศัพท์ที่คนเข้าใจกันทั่วไป ไม่ควรใช้ศัพท์เฉพาะที่รู้จักกันแค่ในวงการ อย่างพฤกษศาสตร์ สรีระวิทยา และศาสตร์เฉพาะอื่นๆ หรือเรียกว่าหลีกเลี่ยงการใช้คำ jargon ควรใช้คำที่คนทั่วไปคุ้นเคย
- อย่าใช้วงเล็บมากเกินไป เพราะแสดงถึงการไม่รู้วิธีการเขียน
- ใช้คำให้สั้น กระชับ ชัดเจน
- สอดแทรกข้อเท็จจริง และ สถิติ ในงานเขียน
- ใช้คำกริยาแสดงการกระทำ ใช้ประธานเป็นผู้กระทำหรือถูกกระทำ เพื่อให้ผู้อ่านพุ่งความสนใจไปในสิ่งที่สำคัญที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ และทำให้เห็นภาพชัดเจน หรือการใช้คำวิเศษ เช่น pink lady , white box เป็นต้น
ทำให้คนชื่นชอบงานเขียนของเรา
- เข้าใจว่ากลุ่มผู้อ่านเป็นใคร
- แสดงความคิดเห็นในงานเขียนของคุณ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน และโต้แย้งกันได้
- เขียนประสบการณ์ส่วนตัวเพิ่มเข้าไป
- ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ และแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์
อย่าปิดบังหรือเก็บงำข้อมูลไม่ให้ผู้อ่านรู้หรือต้องไปนั่งเดาเอง เพราะจะทำให้ผู้อ่านเลิกติดตามและล้มเลิกสนใจงานเขียนของคุณ
สุดท้ายงานเขียนของเราจะออกมามีคุณภาพได้ ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้และฝึกฝนซ้ำๆของเรา ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว แต่พร้อมรับคำติชมเพื่อนำมาพัฒนางานเขียนของตัวเอง โดยไม่ต้องไปทำตามวิธีในหนังสืออย่างละเอียด เพราะสุดท้ายงานเขียนที่ดี คือ งานที่ดึงสเน่ห์ของเจ้าของงานเขียนนั้นๆออกมาด้วยตัวของมันเองอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ได้ไปเลียนแบบใคร และเป็นงานเขียนที่สร้างสรรค์ด้วยถ้อยคำของตัวเอง อันเป็นเอกลักษณ์ที่จะสามารถดึงความสนใจของผู้อ่านให้เป็นแฟนตัวยงในงานเขียนของเราต่อไปได้เรื่อยๆ
___ THE END ___
- 85
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
