17 มิ.ย. เวลา 13:10 • ปรัชญา
ทุกข์นั้นมีเกิดขึ้นที่กาย มีกายที่่มีกรรม ธาตุทั้งสองของพ่อแม่ ที่มาประกอบกับธาตุทั้งสี่ ก็มีกรรม ขันธ์ห้าเป็นกรรม วิญญาณทั้งหกก็เป็นกรรม น้ำเลือดน้ำหนองในเริอนกายก็เป็นกรรม กรรมแปลว่าทุกข์ แล้วยังมีอารมณ์กรรมมากมายที่ห้อมล้อมจิต นำพาไห้จิตไปสร้างกรรม สร้างทุกข์ให้แก่จิตของตัวเอง เมื่อจิตไม่มีกาย ต้องไปหากายอื่นอาศัย
เราจึงเห็นคนที่เกิดมีกรรม มีอาการไม่ครบสามสิบสอง หรือ อยู่ไปที่มีอาการครบสามสิบสอง ก็ค่อยๆ ไม่ครบขึ้นมา ใช้อารมณ์ดี ก็เป็นคนดี ใช้อารมณ์ไม่ดี ก็เป็นคนไม่ดี เดี๋ยวเจ็บป่วยกาย เงินทองไม่ค่อยมี มีภาระนั้นนี้ ต้องแบกสังขารไป หาเงินทองมาเลี้ยงเรือนกาย ทั่งคนใกล้ชิด
บ้างก็เร่รอน ไร้บ้าน นอนข้างถนน ดูเศรษฐี ก็กินนอน อิ่มหมีสุขสบาย แต่กินสบายอยู่สบาย กายมันไม่ค่อยมีน้ำอดน้ำทน สู้คนจนๆชาวไร่ชาวนาไม่ได้ งานหนักหน่อย แบกหามออกแรงที จะเป็นจะตาย เหนื่อยแทบขาดใจ แม้แต่ร่างกาย คนจน กัเศรษฐี เค้าก็ไห้มาไม่เหมือนกัน กินอาหารดีๆ อนามัย มันน่าแข็งแรง ใช้ออกกำลังไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่นี่กินดีอยู่ดี ออกแรงหน่อย หน้ามืดตาลาย
ในการที่เราเรียนรู้จักเรื่องราวของทุกข์ เราก็อาศัย เรื่องราวคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างบุญกุศลขึ้นมา ให้กายมีบุญ กายเป็นบุญเกิดขึ้น แล้วก็อาศัยกายที่ อาศัยกานฝึดหัดในรอยทั้งสี่ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ค่อยๆฝึกหัดลดละ ฝึกให้จิตมีสติสัมปชัญญะขึ้น
ปฏิบัติธรรม เราก็นั่งพับเพียบ ทำกายให้นิ่ง จิตนิ่ง ..เมื่อฝึดหัดให้กายนิ่ง จิตนิ่งได้ เราก็จะเรียนรู้ ..ในสิ่งที่แสดงออกมา จากเรื่อนกาย เอ้า..มีทุกขเวทนาเกิดขึ้นมา มันทุกข์ ..รู้ว่าทุกข์ ไปยึดมันทำไม ทำกายให้นิ่ง จิตเฉย ..ดูทุกข์ต่อไปอีก มันเป็นอย่างไร ทำไปเพื่อปลดเปลื้องเรื่องราวของทุกข์ ความทุกข์ทรมาน เจ็บปวดกาย ก็เป็นอารมณ์กรรม
ดูต่อไปอีก สิ่งที่ทำให้กิริยากายเคลื่อนที่ มีกายวาจาใจ มันเป็นอย่างไร ดูไปให้เห็นสิ่งที่เรียกว่า ตัวกระทำ ..จิตมันยึดตัวกรทำสีดำๆเป็นอย่างไร จิตไม่เดินตามอารมณ์กรรมตัวกระทำ ..จิตมีกำลังมั้ย .
อาศัยกายนิ่ง จิตนิ่ง ทำกายให้เหมือนเสา ดูภายในกาย ดูสิ่งที่สะสมในธาตุทั้งสี่ มีอะไรบ้าง ค่อยลอกสีออกไปๆ ดูไปจนถึงเม็ดทราย ..เอาเม็ดนั้นมาส่องดู ..เม็ดทรายแต่ละเม็ด ก็คือชาติหนึ่งที่เราเก็บเรื่องต่างๆไว้ เกิดเป็นหมูหมากาไก่ ตัวหนอน เสือสิง ไอ้เข้ ตกนรก .เค้าก็เก็บไว้ เป็นบัญชีกรรม อยู่กับธาตุทั้งสี่
อาศัยการปฏิบัติ เรืยนรู้จักเรื่องราวของอารมณ์ ที่ห้อมล้อมจิต ที่ว่ามันไหลมาแต่เหตุ มาจากธาตุทั้งสี่ แล้วยังมีเรื่องของวิญญาณทั้งหก ที่เราใช้ ไปยึดเรื่องราวนั้นนี้ มาเป็นอารมณ์ยึดถือ .ไปเอาของๆเค้ามา อารมณ์ของคนนั้นคนนี้เข้ามา คราวนี้ ในเรื่องราวรอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า.เรารู้จักว่าสิ่งเหล่านั้นทำเป็นทุกข์เป็นกรรม เราถอยออกมา
เอ้า คราวนี้ ลองไปดู เรื่องราวของไสยศาสตร์ คาถาอาคม ตะกรุด ผ้ายันต์กันผี กันไอ้นั้นไอ้นี่ ..เราก็จะค่อยเรียนรู้ ว่า สิ่งเหล่านี้ นำพาให้จิตยึดถือ จมอยู่กับกรรม ทำให้เลือดลมเป็นสีดำๆ ติดขัด ปวดเมื่อย หงุดหงิด โมโหฉุนเฉียว ไม่มีโอกาส พบแสงธรรมได้เลย มีแต่เวรกรรมทั้งนั้น ทำลายคนที่เรารัก ทำลายคนใกล้ชิด .แต่เค้าว่าเป็นของดี ทำให้ร่ำรวย เฮงๆ ให้อารมณ์มันยึดถือ อุปโลกน์ ..สิ่งที่ได้มีแต่กรรมเป็นสีดำสนิทติดทนนาน ที่เค้าจัดอยู่ในหมวดตัวหลง ..แล้วจิตนั่นก็ยากที่จะแก้ไขตัวเอง
..มีน้องคนหนึ่ง ก็ไปหลงใหลในเรื่องเหล่านี้ เค้าบอกว่า พี่สาวจะให้ไปหาหมอจิตแพทย์ น้องที่เรารู้จักแนะนำให้โทรมาคุย เราก็บอกว่า มีทางเลือกสองทาง จะใช้ทางธรรม หรือไปหาหมอกินยา น้องคนนี้มาในสภาพที่จิตมันหลอน ด้วยเรื่องราวของไสยศาสตร์ เดี๋ยว นี้ก็เป็นปกติ ..หมั่นทำบุญปฏิบัติธรรม พวกของขลัง ก็เอาไปฝากพระแม่คงคา
เมื่อเรานำมาปฏิบัติ มันก็จะมีเรื่องราวมากมายก่ายกอง ค่อยสอนให้เราเรียนรู้ขึ้นมา ในเรื่องที่เรามีกรรม มีอารมณ์ ต่างๆ ทำให้เวียนว่ายตายเกิด เกิดๆตายๆ ไม่สิ้นสุด ทำอย่างไรหนอจึดจะสิ้นสุดยุติการเกิดได้ เมื่อเราฝึกเดินตามรอยท่าน เราก็จะค่อยๆ รู้จักว่า ทางเดิน ทางรอยทั้งสี่ของท่านนั้นเหมือนบันไดแก้ว ที่ใช้เวลาเรียนรู้จักทุกข์ หนีทุกข์ กันเป็นชาติๆ ที่เค้าเรียกว่า สะสมบุญกุศลบารมี หนีกรรม
โฆษณา