18 มิ.ย. 2024 เวลา 08:25 • ปรัชญา

เหตุที่ใจไม่หยุดนิ่ง

เพราะมีความอยาก ซึ่งเป็นสมุทัยบ่อเกิดแห่งความทุกข์ แม้อยากจะเห็นธรรมะ ซึ่งจิตเป็นกุศลธรรมก็ตาม แต่เจือไปด้วยโมหะ คือ ความรู้ที่ยังไม่สมบูรณ์
เพราะฉะนั้น ประสบการณ์ภายใน จึงไม่มีอะไรใหม่ให้ดู เพราะเรามีความอยาก เข้าไปเจืออยู่โดยไม่รู้ตัว เพราะเรารู้ว่า ถ้าเห็นธรรมะแล้วดี จะไปนรกสวรรค์ได้ ไปศึกษาเรื่องราว ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปรู้ไปเห็นได้ เราเลยอยากได้มากเกินไป
เพราะอยากแท้ ๆ จึงทำให้แย่อยู่ทุกวันนี้ เพราะฉะนั้น ต้องหยุดอย่างเดียว ไม่มีอะไรใหม่ หรือแม้มีอะไรใหม่ ก็ต้องหยุดเฉย ๆ ไม่มีอะไรใหม่ให้เราดู เราก็นิ่งเฉย ๆ ช่างมัน ไม่ได้แปลว่า เรานั่งแล้วสูญเปล่า ไม่ก้าวหน้า นั่นเราคิดไปเอง
เหตุที่ใจไม่หยุดนิ่ง เพราะมีความอยาก อยากได้ อยากมี อยากเป็น เป็นความอยากที่ประกอบไปด้วยความเพลิน นันทิราคสหคตา ไม่ได้ประกอบไปด้วยดวงปัญญา ถ้าความอยากประกอบไปด้วยปัญญา คือ อยากพ้นทุกข์ อยากไปนิพพาน
ถ้าไม่ประกอบไปด้วยปัญญา ก็จะเพลิน ๆ กันไป มีครอบครัวก็เพลิน ๆ มีลูกก็เลี้ยงลูกเพลิน ๆ เล่นการพนันก็เพลิน ๆ เป็นความเพลินที่ครอบงำไปด้วยหายนะ จะทำมาหากินอะไร นอกเหนือจากเลี้ยงชีวิตแล้วก็เพลิน ๆ มีทุนมากก็เป็นนักลงทุน ก็ลงทุนกันเพลิน ๆ จนหมดเวลาของชีวิต
ความอยากเหล่านี้แหละ ที่พญามารเขาตรึงให้เราไปติด ในคน สัตว์ สิ่งของ ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ต่าง ๆ ทำให้ใจกระเจิง หลุดออกจากศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะไปสู่ทางมรรคผลนิพพาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านค้นพบตรงนี้เพราะฉะนั้นอย่าทำให้ใจกระเจิงหลุดออกจากฐานที่ตั้งดั้งเดิม
โอวาทคุณครูไม่ใหญ่
๒๘ พฤษภาคม, ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙
เมื่อไม่รู้จะอ่านอะไร ๒ (หน้า ๑๔๑ - ๑๔๓)
ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน
โฆษณา