20 มิ.ย. เวลา 17:15 • ความคิดเห็น

ฉันชอบคำว่า ‘ยีฟู‘ ของยายป๋อมแป๋ม

อังริน…
วันนี้ฉันดูสัมภาษณ์ยายป๋อมแป๋มใน YouTube ช่อง ShaAeng (ช่าเอง) มีประเด็นหนึ่งที่คุณช่ามีคำถามว่า ‘คิดว่าคนเราเสพติดความเห็นใจจากคนรอบข้างไหม‘ ยายตอบไว้น่าสนใจเลย ยายบอกว่า...
“ดราม่าเรื่องอะไร ถ้าคนเราไม่ต้องจอยกับดราม่ามากคำถามนี้จะไม่เกิดขึ้น เรื่องเล็ก ๆ ทุกวันนี้คนเราก็สามารถจะยีฟูให้เป็นเรื่องใหญ่ได้หมดแหละ”
1
ฉันชอบคำว่า ‘ยีฟู‘ ของยายป๋อมแป๋มมากมันทำให้เห็นภาพเลย ยายบอกว่า “สมมุติว่าเรื่องมันเกิดขึ้นในที่นี้ มันมีความจำเป็นอะไรที่ต้องลงสู่สาธารณะ ประกาศเล่าในโซเชียล หลายครั้งคนก็จะบอกว่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์”
ยายบอกว่า “ก็พอจะเข้าใจได้ว่าคนอาจจะต้องการ Support System ที่มาจากคอมเมนต์ที่ทั้งมาให้กำลังใจและมารุมด่า แต่จริง ๆ เราไม่ต้องมีก็ได้ เรามีเพื่อนให้ด่าให้ฟังให้เรารู้สึกฟูใจได้เหมือนกัน และเราก็สบายใจได้แล้ว”
3
ยายยกตัวอย่างบทของตัวละครตัวหนึ่งที่ยายเคยแสดง ตัวละครนั้นถามนางเอกว่า ’เฟซบุ๊กก็พื้นที่หน้าบ้านเราแล้วเราให้คนมาช่วยสุมไฟ เราต้องการแบบนั้นจริง ๆ หรอ หรือถ้าไม่ทำมันจะเป็นอะไรไหม‘
1
ยายบอกว่า “มันก็ไม่ได้แปลกที่คนเราจะอยากได้ ‘พวก’ ไม่ใช่อยากได้ ‘เพื่อน’ นะ มันก็สนุกดีแต่คิดว่าเรามีได้นะโดยไม่ต้อง go so big ขนาดนั้น เรื่องแบบนี้ถ้าเราเล่ากันเองตรงนี้มันก็จบตรงนี้ ความโกรธจบตรงนี้ ความสบายใจเกิดขึ้นตรงนี้…”
1
ยายพูดไว้ดีจัง ฉันเลยได้คิดทบทวนตามไปด้วย ฉันเห็นด้วยกับยายนะ เพราะฉันเองก็เคยทำแบบนั้นเหมือนกันเมื่อนานมาแล้ว เดี๋ยวนี้พอฉันเห็นคนทำแบบนั้นฉันจึงรู้สึกไม่สนับสนุนให้เขาทำ เราอาจจะได้พวกเพิ่มขึ้น แต่หลังจากนั้นความสบายใจก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่นักหรอก ระยะหลังนี้ฉันจึงรู้สึกเบื่อดราม่าในโซเชียลมาก ๆ บางทีเรื่องมันก็แค่นิดเดียวจริง ๆ นะ ฉันเลยชอบคำว่ายีฟูของยายมาก ๆ เลย ถ้าเธอได้ดูสัมภาษณ์นี้เธอก็น่าจะชอบนะ
พอฉันได้เขียนถึงเธอแบบนี้ฉันรู้สึกว่าการเขียนไดอารี่มันสนุกขึ้นนะ ฉันไม่อยากให้ทักษะการเขียนของฉันหายไป ฉันคิดมาหลายวันแล้วว่าอยากเอาไปเขียนไว้ในเพจของฉันด้วย เธอคิดว่าดีไหมนะ เอาไว้ฉันแก่กว่านี้จะได้กลับมาอ่านได้ และเผื่อว่าไดอารี่ที่ฉันเขียนจะหายไปเหมือนตอนน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 อีก
1
29 พฤษภาคม 2567
#ไดอารี่ของอังริน
โฆษณา