20 มิ.ย. เวลา 05:52 • ความคิดเห็น
1. เพื่อนชายสมัยเรียนมัธยมเดียวกันกับพี่สาวคุณอา เรียนหนังสือไม่เก่ง เป็นเด็กหลังห้องแถมขี้อาย เป็นลูกแม่ค้าขายข้าวแกงในตลาด พี่สาวคุณอาเล่าว่า ไม่มีความโดดเด่นอะไรเลย เมื่อเทียบกับพี่สาวคุณอา เพราะพี่สาวคุณอาโดดเด่นทั้งการเรียนและกีฬา เมื่อต่างคน ต่างเรียนจบแยกย้ายกันไป เพื่อนแต่ละคนก็ไปตามทางเดินชีวิตตัวเอง ท้ายที่สุด พี่สาวคุณอารับเชิญไปบรรยาย จึงได้ทราบว่า ปัจจุบันเพื่อนคนนี้มียศพลเอก ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์กร ภายใต้สังกัดกระทรวงกลาโหม
2. เพื่อนคุณอาคนหนึ่งสมัยเรียนป.ตรี มีผลการเรียนโดดเด่นมาก คุณอายังต้องยกนิ้วให้ เพื่อนทุกคนบอกว่า ไม่ต้องแปลกใจเลย เพราะนางจบเตรียมใหญ่ ด้วยผลการเรียนที่ไม่ธรรมดา ทุกคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า นางคงสอบทุนแล้วไปเรียนต่อจนจบ Ph.D. สุดท้ายเมื่อเรียนจบ ฉลองรับปริญญา เพื่อนทุกคนต่างตกใจเมื่อได้รับการ์ดงานแต่งของนาง ใช่แล้วค่ะ นางไม่เรียนต่อ ต้องไปทำหน้าที่ภรรยาช่วยงานที่บ้านสามี ด้วยเหตุที่สามีนางมีฐานะค่ะ จากนั้นนางก็มีน้องถึง 3 คน
3. ตัวอย่างในข้อ 1 และ 2 สอนบทเรียนชีวิตพวกเราว่า ไม่มีใครเลยที่จะล่วงรู้ได้ว่า อนาคตจะเป็นไปเช่นไร เราจะดูถูกชีวิตผู้คนไม่ได้เลย ต่อให้ไปถามพวกหมอดู ดูไพ่ ดูราศรี ก็ไม่มีทางให้คำตอบเราได้ อย่าไปถูกล่อหลอกให้ต้องเสียเงินฟรีๆ พวกเขาไม่ใช่ศาสดาชี้นำอนาคตเราค่ะ
แต่....ในเมื่อเราไม่สามารถจะล่วงรู้อนาคตได้
จะดีกว่าไหม หากเราจะป้องกันความเสี่ยงในอนาคต
ด้วยการพัฒนาตัวเอง ไปทีละเล็ก ทีละน้อย
.....เน้นที่วินัยและความสม่ำเสมอ...
ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาเป็นเอาตายกับมันจนป่วยซึมเศร้า
เพราะมัวแต่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
หรือแม้แต่วิ่งไล่ตามกระแสในโซเชี่ยลมีเดีย
แล้วหนูคิดว่ายังไงหรือคะลูก?
เห็นด้วยกับคุณอาไหม?
2
โฆษณา