21 มิ.ย. เวลา 03:11 • การตลาด

เปิดข้อมูล Pet Economy ปี 2567 ตลาดสัตว์เลี้ยงไทยโตแรง คนไทยใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น

ปี 2567 ถือเป็นปีที่ Pet Economy หรือเศรษฐกิจสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลักมาจากการที่คนไทยมองสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว (Pet Parent) สาเหตุหลักมาจากสังคมสูงวัย, คนโสด, คู่แต่งงานไม่มีลูก, การขยายตัวของสังคมเมือง และบริการด้านสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แนวโน้มที่น่าสนใจใน Pet Economy ปี 2567 จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันค่ะ
1. เทรนด์ Pet Parent และการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยง:
- ตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยปี 2567 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 74,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% จากปี 2566
- กลุ่ม Pet Parent มีกำลังซื้อสูง โดยเฉลี่ยใช้จ่าย 10,000-20,000 บาทต่อปีต่อสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัว
- ความต้องการสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของที่หลากหลาย เช่น อาหารสัตว์เลี้ยงเกรดพรีเมียม, เสื้อผ้า, ของเล่น, ประกันภัย, บริการดูแลสุขภาพ, โรงแรม, สปา, คาเฟ่, และสถานที่ท่องเที่ยว
2. Pet Celeb & Influencer:
- บทบาทของสัตว์เลี้ยงเซเลบและอินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
- การสร้างแบรนด์สินค้าและบริการที่ร่วมมือกับสัตว์เลี้ยงเซเลบเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยม
- การเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงแบบ "Petriarchy" หรือการที่สัตว์เลี้ยงกลายเป็นศูนย์กลางของครอบครัว และ "Pet Celebrity" หรือการที่สัตว์เลี้ยงมีชื่อเสียงในโลกโซเชียล มีส่วนกระตุ้นให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงใช้จ่ายเพื่อสร้างภาพลักษณ์และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงมากยิ่งขึ้น
3. คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้โตแรง:
- ตลาดคอนโดมิเนียมที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2565 มีจำนวนยูนิต5,663 ยูนิต เพิ่มขึ้น 4,394% เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มี 157 ยูนิต
- ผู้พักอาศัยในคอนโดของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มีสัดส่วนคนเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2565 เป็น 45% ในปี 2566 สัตว์เลี้ยงยอดนิยมคือ น้องหมา 60% น้องแมว 38% และสัตว์เลี้ยงพิเศษ (Exotic) 2%
- ตลาดเช่าคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้มีค่าเช่าสูงกว่าห้องทั่วไป ทำให้แนวโน้มตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง
4. ธุรกิจสัตว์เลี้ยงรุ่ง โตทั่วโลก 6% ไทย 5.1 หมื่นล้าน
ภาพรวมตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงตลาดโลกเติบโตเฉลี่ย 6% มูลค่าราว 1.51 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนตลาดไทยมูลค่าอยู่ที่ 51,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
ธุรกิจที่น่าจับตามอง:
- Pet Insurance: ประกันสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยง กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่สูงขึ้น
- Pet Tech: เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ มีโอกาสเติบโตสูงมาก
- Pet-Friendly Spaces: ธุรกิจที่เปิดรับสัตว์เลี้ยง เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือโรงแรม มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้น
ไอ-เทล บริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำของไทย ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 1 ในไทย อันดับ 2 ในเอเชีย และติดท็อป 20 ของโลก เผย 5 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วในยุคที่ผู้คนรักสัตว์เลี้ยงเหมือนลูก ดังนี้ค่ะ
1. Cross-sector Collaboration: ร่วมมือกับธุรกิจอื่นๆ สร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ ที่โดนใจทั้งคนและสัตว์เลี้ยง
2. Agility: โลกเปลี่ยนไว ต้องกล้าคิด กล้าลองไอเดียใหม่ๆ ให้ทันคู่แข่ง
3. Innovation with Speed: สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่ซ้ำใคร ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
4. Know your customer: เข้าใจความต้องการของทั้งคนเลี้ยงและสัตว์เลี้ยง เพื่อนำเสนอสิ่งที่ใช่
5. Sustainability: การทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
5. จุดเริ่มต้นจากคนรักแมว สู่เพจดัง สู่โรงแรมแมว และล่าสุดกับ AI ที่ปรึกษาเรื่องสัตว์เลี้ยง
"Nhamaew PET AI" ใน LINE OA สามารถตอบทุกปัญหาเรื่องสัตว์เลี้ยง ทั้งแมว สุนัข นก กระต่าย ปลา ไม่ว่าจะสงสัยเรื่องพฤติกรรม อาการป่วย หรือปัญหาสุขภาพต่างๆ แค่พิมพ์ถาม AI ก็ตอบให้ พร้อมช่องทางปรึกษาสัตวแพทย์โดยตรง ซึ่ง PET AI “หน้าแมว” เปิดตัวแค่ 10 เดือน ก็มีสมาชิกกว่า 32,000 คน
และมีคนส่งคำถามเข้ามาเกือบ 2 แสนข้อ โดยคำถามส่วนใหญ่ เป็นพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง 57.1% อาการป่วยและคำแนะนำสุขภาพ 15.5% ปัญหาพฤติกรรม 13.2% โรคเฉพาะทาง 12.4% แนะนำสินค้าและบริการ 1.8% และยิ่งมีคนใช้มาก AI ก็ยิ่งเก่ง ตอบได้แม่นยำขึ้นเรื่อยๆ
6. ประกันสัตว์เลี้ยงมาแรง โตแซงประกันทั่วไปถึง 140%
- ค่ารักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยงแพงขึ้น ทำให้คนรักสัตว์แห่ทำประกันเพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายที่อาจสูงถึงหลักแสน ทิพยประกันภัย เปิดตัวประกัน TIP Pet Lover คุ้มครองทั้งน้องหมา น้องแมว เริ่มต้นปีละ 645 บาท ครอบคลุมค่ารักษา ค่าทำร้ายคนอื่น ค่าจัดงานศพ ค่าวัคซีน ค่าประกาศตามหา ไปจนถึงค่าฝากเลี้ยง รับประกันสัตว์เลี้ยงอายุ 3 เดือน - 9 ปี ตอนนี้คนส่วนใหญ่ทำประกันให้น้องหมา 70% และน้องแมว 30%
- ตลาดบริการรักษาสัตว์เลี้ยง ก็มีมูลค่าสูงถึง 6,640 ล้านบาท โดยมีการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 21.7% ต่อปี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
7. Gen Y และ Gen Z เป็นกลุ่มผู้เลี้ยงหลัก:
- Gen Y: นิยมเลี้ยงน้องแมวเป็นอันดับหนึ่ง
- Gen Z: นิยมเลี้ยงน้องหมา และมีการใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงเติบโตสูงสุด 46%
- การรับเลี้ยงสัตว์จรจัดได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนเลี้ยงแมว 50% ได้แมวมาจากการรับเลี้ยง
สรุปแล้ว ปี 2567 นับเป็นปีทองของตลาดสัตว์เลี้ยงไทย ที่ไม่เพียงแต่เติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความรักและความผูกพันที่คนไทยมีต่อสัตว์เลี้ยง ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงอีกต่อไป แต่เป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวที่พร้อมจะทุ่มเททั้งเวลาและเปย์แบบไม่อั้น เพื่อดูแลให้พวกเขาเหล่านั้นมีความสุขที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ Pet Parent, Pet Celeb & Influencer, คอนโดเลี้ยงสัตว์, ธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่เติบโต หรือแม้กระทั่ง AI ที่ปรึกษาปัญหาสัตว์เลี้ยง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเครื่องยืนยันว่า Pet Economy ในปี 2567 กำลังคึกคักและน่าจับตามองอย่างมาก ใครที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุน หรืออยากสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์คนรักสัตว์ นี่คือโอกาสทองในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Pet Economy ที่กำลังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งนี้ค่ะ
ข้อมูลจาก: ttbbank, reic, brandbuffet
โฆษณา