21 มิ.ย. เวลา 10:37 • ความคิดเห็น
สินน้ำใจ เป็นรากเหง้าของสินบน และจะกลายพันธุ์เป็นระบบอุปถัมภ์ ที่จะนำไปสู่การคอรัปชั่น
ปัญหาการทุจริตเป็นปัญหาที่สั่งสมมายาวนานในสังคมไทยที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เมื่อมีใครทำอะไรให้ก็มีการตอบแทนกลับ เพื่อเป็นสินน้ำใจ จนหล่อหลอมและกลายเป็นบ่อเกิดของคำว่า “สินบน” ปัญหาการทุจริตที่ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างยิ่ง ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการเมือง รวมถึงความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม จนถึงปัจจุบัน
องค์กรนานาชาติ
(Transparency International TI) ระบุว่า การติดสินบน เป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้เกิดการคอร์รัปชันรูปแบบหนึ่ง จัดเป็นกลุ่ม “ประพฤติมิชอบ” ที่จะต้อง “ขจัด” ให้หมดไป
สินน้ำใจ ในวัฒนธรรมสังคมไทยมองว่าเป็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นผลที่เกิดขึ้นจากความมีน้ำใจ เป็นพื้นฐานที่ทำให้เกิดคุณธรรม ความเมตตา กรุณา ความเอื้ออาทร ความเสียสละแบ่งปัน ความมีมิตรไมตรี การดูแลกันและกัน แต่ในอีกมุมมองของการให้ไม่อาจรู้ได้ว่า เจตนาที่มากับสินน้ำใจ เป็นการให้ตอบแทนบุญคุณที่ได้รับ เพื่อสร้างไมตรีและการดูแลซึ่งกันและกัน หรืออาจหวังการเอื้อประโยชน์จากการใช้อำนาจของผู้รับในอนาคต สินน้ำใจจึงกลายเป็นวัฒนธรรมที่ฝังรากลึกของปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในทุกวงการ
อย่างไรเสียในสังคมไทย คงหนีไม่พ้นเรื่องราวแบบนี้ เราถูกสอนกันว่า ถ้าอยากเติบโต ต้องอยู่ให้เป็น ดังนั้นคำว่า"อยู่เป็น" จึงเป็นคำที่สกปรกที่สุด
ระบบอุปถัมภ์ คือ เนื้อร้าย
ที่ทำให้คนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ไม่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุน แต่สังคมกลับให้ค่ากับคนที่ประสบความสำเร็จโดยไม่สนภูมิหลัง ไม่สนวิธีการที่ได้มา มองแค่หีบห่อภาพลักษณ์ที่สวยงาม แล้วชื่นชมว่าเป็นคนดี แต่คนที่ดีจริงๆกลับไม่ประสบความสำเร็จ แล้วไม่มีใครชื่นชม เปรียบเสมือนคนที่อยู่ในที่มืด อยู่ในโลกที่ถูกลืม ที่ถูกกดด้วยระบบอุปถัมภ์
และนี่ก็คือที่มาของ ระบบ"อุปถัมภ์"
ที่คอยตัดโอกาสคนดีๆไปเยอะมากๆ
โฆษณา