Breaking the cycle
อำนาจ ศรัทธา อนาคต
(2024)
โดย เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ และ ธนกฤต ดวงมณีพร
เป็นหนังสารคดีที่wrapped upเหตุการณ์การเมืองไทยแบบเร็วให้ได้เห็น ดูจบเม้าท์ประวัติการเมืองได้ระดับนึงเลย ตั้งแต่การรัฐประหารครั้งก่อนๆและที่ชัดเจนที่สุดคือปี 2559 โดยมีตัวละครหลักเป็นพรรคอนาคตใหม่
ต้องบอกว่าหนังเสนอในมุมแชร์ประสบการณ์การทำพรรคการเมืองมากกว่าการมาขายพรรค แล้วใครจะใคร่ชอบหรือไม่ ผู้ชมก็ต้องพิจารณากันเอง เรามองว่าหนังเรื่องนี้ก็เหมือนหนังสารคดีทั่วไปที่เราพบเห็นได้จากสตรีมมิ่ง ไม่ได้มีความแต่งสีมากนักและทำให้ได้รู้จักอนาคตใหม่เพิ่มอีกครั้ง
ในมุมพรรคอนาคตใหม่ ต้องขอชื่นชมคุณธนาธร คุณปิยบุตร และคุณพรรณิการ์เลยว่า เป้าหมายที่คุณตั้งเอาไว้ว่าอย่างน้อยก็ทำให้ทุกคนมองเห็นเป้าหมายเดียวกันก่อน ตอนนี้คุณทำได้จริงๆแล้วค่ะ แม้ว่าการเลือกตั้งจะไม่สำเร็จดังหวังแต่การเข้ามาในจังหวะที่ถูกต้องและทำให้เกิดการขยับของผู้คนได้เกิดขึ้นจริงๆ
ส่วนตัวชอบประโยคของคุณธนาธรมากที่บอกว่า การเข้ามาการเมืองของเขาคือการที่ตอบได้อย่างเต็มปากกับคนรุ่นหลัง ว่าในตอนที่ประเทศย่ำแย่เขาก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ จุดนี้น่าสนใจมากเพราะมีความเป็นมนุษย์ เป็นการแสดงจุดยืนที่บอกว่าการกระทำครั้งนี้เป็นไปเพื่อตัวเขาและลูกของเขาก่อน ไม่ใช่คำพูดสวยหรูที่มาพูดเพื่อให้สังคมรู้สึกว่าเขาช่างเป็นคนดีที่ทำเพื่อสังคมจริงๆ แต่เป็นการกระทำที่จะส่งผลต่อสังคมในวงกว้างเช่นกัน
จุดนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้อนาคตใหม่ได้รับความนิยม เพราะเมื่อสังคมเริ่มแยกแยะความจริงและมายาคติได้ เราก็เริ่มโหยหาความจริงที่ขมขื่น ไม่ต้องมาทำเพื่อฉันเหมือนพระเอกที่พร้อมมาบังกระสุนรัฐประหารแทนฉันก็ได้ แต่ถ้าทำให้สังคมดีขึ้นฉันก็โอเค
แม้ใครจะบอกว่าอนาคตใหม่ไร้เดียงสาไปสำหรับการเมือง ส่วนตัวเรามองว่าไม่ค่ะ เขารู้และเข้าใจการเมืองแบบไทยๆได้ดี แต่ประเทศไทยมีองคาพยพที่ใหญ่มาก การเปลี่ยนจุดเล็กๆก็ทำให้องคาพยพนี้สั่นคลอน จนทำให้ถูกยุบพรรคไปอย่างที่ทุกคนทราบ แต่ไม่ว่าอย่างไรการทำให้คนมาสนใจการเมือง และปลุกความเชื่อที่ว่าเราทุกคนมีสิทธินั้นก็ถือว่าเป็นความสำเร็จหนึ่งของอนาคตใหม่ การทิ้งเม็ดพันธุ์ไว้ในความคิดคนได้เริ่มการเจริญเติบโตแล้ว
สำหรับใครที่สนใจการเมืองหรือว่างๆมีเวลาก็ไปดูกันได้นะคะ หนังเป็นสารคดีค่ะเป็นเพียงสื่อนึงเท่านั้น ไม่สามารถบังคับใครได้ ก็ขอให้วางอคติลงก่อน ลองเปิดใจให้กว้างดูให้จบ เราจะเห็นมิติในประเทศที่หลากหลายมากขึ้น แล้วหลังจากนั้นใครจะตีความกันอย่างไร เห็นด้วยหรือเกลียดชัง ก็สุดแล้วแต่จะวิจารณ์ค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจากเพจFacebook: HAL
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
