24 มิ.ย. เวลา 04:49 • ความคิดเห็น
“ไม่ใช่ฝันและจิตนาการ”นะ
เมื่อก่อนสังคมไม่มีกฎหมาย
มีแต่กฎ กดด้วยหมู่ ปกครองดูแล
กันด้วยผู้นำที่แข็งแรงที่สุดที่มี
อำนาจจากมวลชนหรือหมู่มวลสัตว์
ไม่ต่างกัน
พอคนฉลาดขึ้นก็ใช้เล่ห์เปลี่ยนกฎ
ที่กดชุมชนกดตนให้มองหาประโยชน์
เห็นช่องการแหกกฎแหกประเพณี
เหนือกว่าสังคมคาดคิด เลยต้องมี
นักบริหารบ้านเมือง นักกฏหมาย
ออกกฎเพื่อหวังจะจัดการคนหัว
เล่ห์เหลี่ยมเอาเปรียบเห็นแก่ตัว
เจริญน้อยก็ประหารเจริญมากก็
กักขังลงโทษไปกับคุณธรรมเช่น
เมืองไทยเป็นเมืองพุทธศาสนา
ต้องให้ความเป็นธรรมยุติธรรม
สอบๆๆๆๆๆสวนๆๆๆๆทิ้งระยะ
นานๆคนลืมละ ร้ายแรงก็อ่อน
คือถ้าชัดตรงหน้าซึ่งหน้า
แวดล้อมชี้ชัดพยานหลักฐาน
บัญญัติโทษไว้เขียนไว้ทำตามเขียน
อ่อนๆๆๆๆอลุ้มอล่วยใช้เงินใช้อำนาจ ใช้บารมีแหวกเบียด บ๊าบโจมตีช่องว่างกฎหมาย ผู้ถือกฎหมาย ผู้มีบทบาทหน้าที่บังคับ
แย่กว่านั้น กิเลสความโลภ
ของคนคุมกฎ กฎหมายเลย
ใช้กดหัวคนกระทำความผิดจริงๆไม่ได้สามสมแก่ความผิด
ตีกรรเชียงจนอ่อน จนหลุด
ไม่สาสมความผิดไม่สามสมแก่ฝ่ายเสียหาย
ต้อง กด ด้วยกฎที่ตราเป็นหมายไว้
1
กฎหมายไม่ใช่ลาเต้นุ่มนวลตลอด
บางครั้งอาจต้องขมเป็นกาแฟดำๆ
แบบใจดีใจเด็ดใจดำ ต้องให้ขม
ให้เข็ดให้เจ็บให้หลาบจำแรงๆ
1
เมื่อต้องใช้ดำขมสุดๆก็ต้อง โหดดิบ
จริงๆแล้วชอบทั้งสองแบบบนความยุติธรรมไม่ใช่หวังแค่ยุติด้วยธรรมร่ำไป
1
กฎหมายเขียนไว้ดีวางไว้เข้มข้น
ทุกมาตราแต่เวลานำมาบังคับ
คนมากกิเลสเป็นผู้ใช้ โทษกฎหมาย
ไม่ได้ต้องโทษคน
1
โฆษณา