25 มิ.ย. เวลา 00:40 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

โชเฮ โอตานิ นักเบสบอลที่ 100 ปี ถึงจะเจอ 1 คน

โชเฮ โอตานิ หากพูดชื่อนี้ในไทยหลายคนอาจไม่รู้จัก แต่หากไปถามคนญี่ปุ่น คนอเมริกัน หรือถามแฟนกีฬาเบสบอลพวกเขาต้องรู้จักชื่อนี้แน่นอน เพราะ โชเฮ โอตานิ คือ นักกีฬาเบสบอลชาวญี่ปุ่นที่เรียกว่าโด่งดังที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้ เขาสามารถก้าวไปเล่นเมเจอร์ลีกเบสบอลของสหรัฐฯ ได้อย่างภาคภูมิ และสามารถคว้ารางวัลส่วนตัวมาได้มากมาย
5
โดยเมื่อต้นปี 2024 ที่ผ่านมา โชเฮ โอตานิ เพิ่งทำลายสถิตินักกีฬาที่ได้รับค่าเหนื่อยแพงที่สุดในโลก แพงกว่านักกีฬาชื่อดังอย่าง เมสซี่และโรนัลโด้เสียอีก โดยรับสัญญากับต้นสังกัดใหม่ ลอสแองเจลิส ด็อดเจอร์ส ถึง 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กับสัญญา 10 ปี นอกจากนี้โชเฮยังได้รับการยกย่องว่าฝีมือเก่งฉกาจที่ 100 ปีถึงจะมีนักกีฬาเบสบอลแบบนี้ได้ อะไรทำให้โชเฮก้าวมาถึงจุดนี้ได้ วันนี้ผมอยากพาทุกคนไปรู้จักเขากัน ผ่านสารคดีเรื่อง Shohei Ohtani : Beyond the Dream ที่ฉายทางช่อง Disney+ hostar
3
Shohei Ohtani : Beyond the Dream เป็นสารคดีที่เล่าชีวิต ความฝัน ความมุ่งมั่นที่ทำให้เป็นโชเฮวันนี้ได้ โดยโชเฮเกิดที่เมืองโอชู จังหวัดอิมาเตะ จังหวัดเล็กๆ อันเงียบสงบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น ที่บ้านของโชเฮเป็นครอบครัวนักกีฬา โดยแม่เป็นนักกีฬาแบดมินตัน ส่วนพ่อและพี่ชายเป็นนักกีฬาเบสบอลสมัครเล่น ส่วนนี้ทำให้เป็นพื้นฐานส่งเสริมให้โชเฮรักกีฬาเบสบอล
3
โชเฮเริ่มเล่นกีฬาเบสบอลครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 4 ปี โดยมีพ่อเขาเป็นคนสอนให้ โชเฮรู้สึกสนุกและชอบมาก เขาจึงมีความฝันว่าโตขึ้นจะเป็นนักกีฬาเบสบอลให้ได้ ทางด้านพ่อกับแม่เมื่อเห็นโชเฮชอบเบสบอลก็ไม่ได้ห้ามและช่วยส่งเสริมผลักดันให้เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบ โชเฮมีความมุ่งมั่นมีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงทำให้ฝีมือการเล่นเบสบอลของเขาพัฒนาไปได้อย่างก้าวกระโดด
2
เมื่อตอนที่โชเฮขึ้นชั้นมัธยมปลายปีแรก เขาได้วางเป้าหมายโดยเขียนออกมาเป็นตารางและตั้งชื่อมันว่า “บอร์ดแห่งความฝัน” ในนั้นเขาเขียนถึงความฝันที่ตัวเขาจะต้องอยู่ในดราฟต์แรกของทีมเบสบอลอาชีพ 8 ทีม ซึ่งเขายังได้เขียนแผนว่าเขาต้องทำอย่างไรเขาถึงจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ ซึ่งมันคลอบคลุมถึงการฝึกฝน พัฒนาร่างกาย จิตใจ โชค และความเป็นมนุษย์ นับได้ว่าตอนที่โชเฮอายุ 16 ปี เขาก็วาดฝันเป้าหมายของเขาออกมาได้อย่างชัดเจน และวางแผนแล้วว่าเขาจะทำให้มันสำเร็จได้ด้วยวิธีไหน
5
และทันทีที่โชเฮจบมัธยมปลายในวัย 18 ปี ความฝันของเขาก็เป็นจริง มีทีมเบสบอลอาชีพต่างๆ หลายทีมติดต่อให้เขาไปร่วมทีมด้วย โดยในบรรดาทีมเหล่านี้มีหลายทีมเป็นทีมจากเมเจอร์ลีกอเมริกัน ลีกเบสบอลอันดับ 1 ของโลกด้วย ซึ่งมันล่อตาล่อใจโชเฮในการไปเล่นที่เมเจอร์ลีกตามความฝันของเขามาก แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อโชเฮตัดสินใจเลือกเล่นให้ทีม ฮอกไกโด นิปปอน-แฮม ไฟท์เตอร์ ทีมดังในลีกเบสบอลญี่ปุ่นแทนที่จะไปเล่นที่อเมริกา
1
ด้วยเหตุผลที่ว่าทีมนิปปอนเป็นทีมเดียวที่เสนอให้โชเฮเล่น 2 ตำแหน่ง คือ เป็นทั้งพิตเชอร์และแบตเตอร์ ในขณะที่ทีมที่เหลือรวมทั้งทีมจากลีกอเมริกันเสนอให้เขาเล่นเป็นพิตเชอร์เพียงอย่างเดียว โชเฮรู้สึกการเล่นทั้งพิตเชอร์และแบตเตอร์มันเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถมากเขาอยากพิสูจน์ว่าตัวเขาทำได้
1
ต้องอธิบายเพิ่มเติมเผื่อใครไม่ได้ติดตามกีฬาเบสบอล ตำแหน่ง “พิตเชอร์” คือ มือขว้างลูก เปรียบได้เป็นฝ่ายรับ ส่วนตำแหน่ง “แบตเตอร์” คือ มือตีลูก เปรียบได้เป็นฝ่ายรุก ทั้ง 2 ตำแหน่งจะอาศัยทักษะ ความแข็งแกร่งของร่างกายที่แตกต่างกัน ทำให้ที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์กีฬาเบสบอลของโลกจะไม่ค่อยมีคนที่เล่นได้ดี 2 ตำแหน่งพร้อมกัน โดยนักเบสบอลที่เคยทำได้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 100 กว่าปีก่อนกับ เบ๊บ รูธ ตำนานนักเบสบอลชาวอเมริกันชื่อดัง
2
ผลงานของโชเฮที่เล่นทั้งพิตเชอร์กับแบตเตอร์ให้กับทีมนิปปอน แฮม-ไฟท์เตอร์นั้นเหลือเชื่อมากๆ เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ในปี 2016 พร้อมคว้าตำแหน่ง MVP ไปครองด้วย นอกจากนี้เขายังติดทีมยอดเยี่ยมของ NPB ลีกเบสบอลญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 ฤดูกาลติดต่อกันนับตั้งแต่เขาได้เดบิวต์เล่นอาชีพ
1
โชเฮ ในวัย 23 ปี ได้รับคำเชิญให้ไปร่วมทีมเมเจอร์ลีก ลีกเบสบอลอเมริกัน โชเฮคิดว่าเขาพร้อมแล้วทั้งความสามารถ ความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ เขาตัดสินใจเซ็นสัญญากับทีม ลอสแอนเจลิส แองเจิลส์ ด้วยเหตุผลแบบเดิมที่ว่าทีมแองเจิลส์เปิดโอกาสให้เขาเล่น 2 ตำแหน่ง ทั้งพิตเชอร์และแบตเตอร์ เขาปฏิเสธทีมเต็งแชมป์หลายทีมที่เสนอให้เขาเล่นแค่ตำแหน่งพิตเชอร์
1
แต่การลงเล่นเมเจอร์ลีก ลีกเบสบอลอันดับ 1 ของโลกมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อการเข้าค่ายเก็บตัวซ้อมก่อนเปิดฤดูกาลทำให้โชเฮต้องเจออุปสรรค เขาไม่สามารถตีลูกได้เลย ทำให้เริ่มมีคนในทีมตั้งคำถามว่าโชเฮจะสามารถเล่น 2 ตำแหน่งในลีกเบสบอลอันดับ 1 ได้จริงหรือ แต่เมื่อฤดูกาลแข่งขันเริ่มต้นขึ้น โชเฮ ก็ตอบคำถามของทุกคนด้วยการตีโฮมรันได้สำเร็จในฤดูกาลแรกที่เขาเล่น โชเฮกลายเป็นขวัญใจกองเชียของทีมแองเจิลส์อย่างรวดเร็ว
2
แต่ทว่าเมื่อเขาลงเล่นไปได้ไม่กี่วัน โชเฮ ก็มีอาการเจ็บที่เอ็นข้อศอกขวา ทำให้การเล่นของเขามีปัญหา ทีมแองเจิลส์ตัดสินใจจะให้เขาผ่าตัดและพักฟื้น แต่โชเฮปฏิเสธเขาต้องการลงเล่นฤดูกาลแรกต่อจนจบ โดยเขาเลือกที่จะเล่นแบตเตอร์เพียงตำแหน่งเดียว และพักการเล่นพิตเชอร์ที่มันต้องใช้ข้อศอกออกแรงในการขว้างลูกไปก่อน โชเฮสามารถเล่นต่อจนจบฤดูกาลและสร้างผลงานยอดเยี่ยมจนทำให้เขาคว้ารางวัล Rookie of The Year 2018 รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของเมเจอร์ลีกมาครองได้ในฤดูกาลแรกที่เขาได้ลงเล่น
2
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจคิดว่ากราฟชีวิตของโชเฮดูมีแต่ขาขึ้นอย่างเดียว แล้วก็มาประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ แต่จริงๆ แล้วเขามีช่วงที่ตกต่ำสุดขีดอยู่ 2 ปีด้วยกัน โดยหลังจบฤดูกาล 2018 โชเฮเข้ารับการผ่านตัดที่เอ็นข้อศอกขวา เขาพักฟื้นฟูร่างกายและหวังจะกลับมาเล่นได้เต็มที่
3
แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น ฤดูกาล 2019 เขาเล่นไม่ได้ตามมาตรฐานที่เขาเคยเล่นได้เลย และยิ่งในฤดูกาล 2020 เขาเล่นได้แย่มาก จนหลายคนตั้งคำถามว่าโชเฮอาจจะกลับมาเล่นไม่ได้แบบเดิมเหมือนก่อนผ่าตัดแล้ว เขารู้สึกกดดันและท้อมาก เขาลังเลว่าจะยอมแพ้ดีไหม และกำลังชั่งใจว่าจะเลือกเล่นเพียงตำแหน่งเดียวเพื่อมีสมาธิไปกับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งดีไหม
2
แต่เขาก็มาเจอจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจสู้ต่อและยังเล่น 2 ตำแหน่ง จนสามารถเป็นผู้เล่นที่มีจำนวนตีโฮมรันได้มากที่สุดในฐานะแบตเตอร์ และเป็นผู้เล่นที่มีอัตราคู่แข่งตีโดนลูกต่ำที่สุดในฐานพิตเชอร์ในเวลาเดียวกัน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 123 ปี ของเมเจอร์ลีก ลีกเบสบอลอันดับ 1 ของโลก
อะไรทำให้โชเฮกลับมาเล่นได้ดีและสร้างสถิติต่างๆ มากมายขึ้นมาจนกลายเป็นนักเบสบอลที่ทั่วโลกต่างจับตา ใครอยากรู้สามารถเข้าไปหาคำตอบได้ที่สารคดี Shohei Ohtani : Beyond the Dream ทางช่อง Disney+ hostar ซึ่งถ้าดูแล้วจะรู้เลยว่าสิ่งที่โชเฮทำได้นั้นมันไม่ได้มาง่ายๆ มันผ่านการฝึกฝน มุ่งมั่นอย่างหนัก ที่สำคัญจิตใจต้องแข็งแกร่งมั่นคงเพื่อทำความฝันให้เป็นจริงให้ได้
2
ผมชอบคำพูดที่โชเฮบอกในสารคดีว่า เขาไม่รู้หรอกว่าการตัดสินใจเลือกที่ผ่านมาของเขานั้นถูกหรือผิด บางคนชอบบอกว่าถ้าเขาเลือกเล่นฟิตเชอร์อย่างเดียวแล้วมาเล่นที่เมเจอร์ลีกเลยเขาน่าจะประสบความสำเร็จได้เร็วกว่านี้อีก
แต่เขาไม่เคยกลับไปคิดเลยว่าถ้าเลือกอีกทางชีวิตเขาจะเป็นไง เพราะมันไม่ใช่ทางที่เขาเดิน มันไม่ใช่ทางที่เป็นความจริง เมื่อเขาตัดสินใจเลือกทางไหนแล้ว ทางนั้นคือเส้นทางที่เขาต้องเดินจริง เขาต้องอยู่กับมันจริงๆ เขาจึงต้องโฟกัสอยู่กับเส้นทางนี้และคิดว่าทำอย่างไรให้เขาเดินเส้นทางนี้แล้วไปถึงเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ได้
5
ด้วยคำพูดนี้มันก็ทำให้ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไม โชเฮ ถึงทำตามฝันได้และสามารถสร้างสถิติการเล่นขึ้นมามากมายจนกลายเป็นนักเบสบอลที่ 100 ปี ถึงจะมีได้ครับ
3
โฆษณา