'Inside Out 2' แรงไม่หยุด
สัปดาห์ที่สองคาดแตะ 600 ล้านเหรียญ สัญญาณบวกครั้งแรกของ Pixar ตั้งแต่ 'Toy Story 4' ในปี 2019
กลายเป็นกระแสที่แรงมากๆ สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชัน Inside Out 2 จาก Pixar ที่เปิดตัวสัปดาห์แรกไปด้วยรายได้รวมกว่า 295 ล้านเหรียญทั่วโลก เป็นภาพยนตร์ที่สร้างรายได้สูงสุดในสัปดาห์แรกที่เปิดตัวภายในปี 2024 ไปด้วยเลย
นี่คือภาคต่อจากภาคแรกที่ฉายเมื่อปี 2015 และมีแนวโน้มว่าจะทำเงินทะลุ 600 ล้านเหรียญได้อย่างสบายภายในสัปดาห์ที่สอง สร้างสถิติเปิดตัวสูงสุดแห่งปีได้อย่างสวยงาม
🥸 หากย้อนไปตอนที่ Inside Out ภาคแรกเปิดตัว ตอนนั้นรายได้สัปดาห์แรกในอเมริกา น้อยกว่าภาคนี้ถึง 30% เลยทีเดียว (ปรับค่าเงินเฟ้อแล้ว)
Inside Out 2 ถือเป็นแอนิเมชันเรื่องแรกที่ ‘ประสบความสำเร็จ’ ในการสร้างรายได้จริงๆ ตั้งแต่ Toy Story 4 ในปี 2019 ก่อนที่โควิด-19 จะระบาด ที่ตอนนั้นทำได้รวมประมาณ 1,000 ล้านเหรียญ
😄 ความสำเร็จของ Inside Out 2 ไม่ได้มีความหมายต่อตัวหนังและ Pixar เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ช่วงหลังโควิดที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงที่ท้าทาย
หลังจากนั้นมา Pixar ก็เริ่มสะดุด สร้างผลงานออกมาได้ไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่นัก ซึ่งแน่นอนว่าผลกระทบของโรคระบาดก็มีส่วน ทำให้หนังหลายเรื่องต้องเลื่อนฉาย การนำภาพยนตร์ลงสตรีมมิงพร้อมกับโรงหนัง หรือแม้แต่คุณภาพของหนังที่ไม่โดดเด่นเท่าที่เคย ส่งผลให้ยอดรายได้ในโรงภาพยนตร์ไม่เป็นไปตามเป้า
2019 : Toy Story 4 : $1,073,394,593
2020 : Onward : $141,940,042
2020 : Soul : $126,082,731
2021 : Luca $49,750,471
2022 : Turning Red : $20,122,621
2022 : Lightyear : $226,425,420
2023 : Elemental : $496,444,308
😫 จากข้อมูลจะเห็นเลยว่าช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา Pixar ทำผลงานได้ไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ Inside Out 2 มีโอกาสที่จะสร้างรายให้กับ Pixar ได้เกิน 1,000 ล้านเหรียญอีกครั้ง
สำหรับแฟน Pixar ก็คงทราบดีว่ามันไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นนะ เพียงแต่ว่าตอนนี้ผู้ชมมีทางเลือกมากขึ้นในการเสพสื่อบันเทิง เข้าโรงไม่กี่เดือนก็เดี๋ยวเข้าสตรีมมิงแล้ว หากไม่ได้อยากดูจริงๆ ก็รอไปก่อนก็ได้
😱 เมื่อผู้ชมค่อนข้าง ‘เลือก’ ว่าจะไปชมภาพยนตร์เรื่องไหนในโรง ความท้าทายที่จริงก็ไม่ได้ตกอยู่แค่กับ Pixar เท่านั้น แต่ทั้งอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้
แต่ Inside Out 2 ก็ได้พิสูจน์อีกครั้งว่า สูตรการเล่าเรื่องของ Pixar ยังคงเป็นสูตรสำเร็จที่หยิบยื่นความสุขให้ผู้ชมได้เสมอ ด้วยพล็อตเรื่องที่สานต่อจากภาคแรก ตัวละครที่คุ้นเคย และอารมณ์ขันแบบชวนให้คิดทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ หนังจึงได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม
ถึงแม้การเข้าโรงครั้งนี้จะต้องโคจรมาพร้อมหนังแอนิเมชันเรื่องอื่นๆ ช่วงเวลาใกล้กัน เช่น A Quiet Place: Day One หรือ Despicable Me 4 แต่ Inside Out 2 ก็ยังเป็นเต็งหนึ่งที่จะครองบ็อกซ์ออฟฟิศไปอีกหลายสัปดาห์ ตอกย้ำความเชื่อมั่นของแฟนหนังต่อผลงานของ Pixar ได้เป็นอย่างดี
🥳 ในอีกมุมมองหนึ่ง ความสำเร็จของ Inside Out 2 ก็สะท้อนถึงสิ่งที่คนดูต้องการจากภาพยนตร์ด้วย เพราะอย่างที่กล่าวไปว่าคนดูค่อนข้างเลือกสรรสิ่งที่จะชม ในยุคที่ต้องจ่ายเงินเพื่อดูหนังในโรง ก็จะเสียเงินเพื่อชมภาพยนตร์ที่มั่นใจในคุณภาพ เป็นที่รู้จัก และสามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัยเท่านั้น
หนังที่เล่นกับความคิดถึงและอารมณ์โหยหาอดีตมักจะได้รับความนิยม หากเลือกเรื่องราวที่ถูกจังหวะ สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะ และขับเคลื่อนด้วยตัวละครและบทเรื่องที่ดี
😭 มาดูเรื่องที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จอย่าง Lightyear กันบ้าง
นี่คือตัวอย่างของแอนิเมชันที่เหมือนลืมเหตุผลว่าอะไรที่ทำให้แฟรนไชส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมตั้งแต่แรก ซึ่งก็คือ ของเล่น, เด็กๆ, ความรู้สึกและความคิดถึงวัยเด็กของพ่อแม่, และความขัดแย้งที่เข้าใจง่ายซึ่งแก้ไขได้ด้วยการพึ่งพาความรักและความไว้เนื้อเชื่อใจจากเพื่อนและครอบครัว
แต่ Lightyear กลับกลายเป็นแอนิเมชันแนวผจญภัยแนวไซไฟของตัวละครในจินตนาการที่เป็นแบ็กสตอรี่แต่งขึ้นสำหรับของเล่นในหนังอีกที ทั้งในเรื่องแนวหนัง โทนการเล่าเรื่อง ความผูกพันกับตัวละครหลัก และช่องทางที่นำเสนอ มันห่างเกินไปจนทำให้แฟนๆ ของแฟรนไชส์ Toy Story ไม่ได้อินเท่าไหร่นัก
😲 แต่สำหรับ Inside Out 2 หนังยังคงรักษาสูตรสำเร็จเดิมไว้ แต่ก็นำเสนอแก่นเรื่องใหม่ๆ ที่ฉีกไปจากภาคแรกในบางจุด ทำให้ภาคต่อนี้คุ้นเคยแต่ก็ไม่รู้สึกว่าจำเจหรือน่าเบื่อ และเป็นสิ่งที่สตูดิโอหลายๆ แห่งพยายามจะทำให้ได้ในยุคนี้
หากพิจารณาในภาพรวม Inside Out 2 อาจกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของปี 2024 ที่จะทำรายได้ถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญทั่วโลก และเป็นเส้นทางนำ Pixar กลับสู่ความสำเร็จและผู้กำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมแอนิเมชันอีกครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เราก็ต้องมาดูต่อว่าผลงานเรื่องต่อๆ ไปอย่าง Elio หรือ Toy Story 5 ว่าจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหนด้วย
🥰 เราอาจจะคิดว่าการที่ Pixar หยิบจับแฟรนไชส์เก่ามาสานต่อ คล้ายกับการงัดฟอสซิลเก่าออกมาขายใหม่ แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็อาจจะมาจากการเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนไป พร้อมสร้างความประทับใจให้ผู้ชมทุกรุ่นอีกครั้ง
หลังจากช่วงเวลาอันยากลำบากตั้งแต่โรคระบาด และการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบสตรีมมิง Inside Out 2 อาจไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ที่มอบรอยยิ้ม แต่ยังเป็นความหวังของวงการภาพยนตร์ที่ต้องการเผชิญกับปัญหามากมายในช่วงหลัง ผ่านจินตนาการสุดล้ำ และเรื่องราวซึ้งๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Pixar มาโดยตลอด
[ซึ่งหากไปดูหุ้นของ Disney บริษัทแม่ของ Pixar ในช่วง 5 วันที่ผ่านมาก็ขึ้นไปประมาณ 2.5% ถือเป็นมุมมองทางบวกที่มีต่อบริษัทอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าถอยออกมาอีกหน่อยก็จะเห็นว่าก่อนหน้านี้หุ้นของพวกเขาเทรดกันอยู่ที่จุดสูงสุดเกือบ 200 เหรียญ/หุ้น
ตอนนี้อยู่ที่ราวๆ 100 เหรียญ/หุ้น หลังจากเผชิญปัญหาเรื่องคดีการฟ้องร้องต่อศาลรัฐฟลอริดา เรื่องสิทธิครอบครองพื้นที่เขตปกครองพิเศษซึ่งรวมถึงสวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ (Walt Disney World) การเปลี่ยน CEO ที่ยุ่งเหยิง ยอดสมาชิกบริการสตรีมมิงที่ลุ่มๆ ดอนๆ ฯลฯ ก็ต้องดูกันต่อไปครับว่า Disney จะกลับมายังไง]
🎯 สรุปประเด็นสำคัญได้ 3 ข้อดังนี้
1. ความสำเร็จของ Inside Out 2 ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อ Pixar เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการปรับตัวของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ที่ผู้ชมเริ่มเลือกสรรมากขึ้นในการเสพสื่อบันเทิง หนังจึงต้องมีคุณภาพ ตอบโจทย์คนทุกวัย และมีเรื่องราวที่ดึงดูดใจ
2. สูตรสำเร็จของ Pixar ที่ทำให้ Inside Out 2 ได้รับการตอบรับอย่างดี คือการต่อยอดจากภาคแรกแต่สอดแทรกมุมมองใหม่ๆ ผสานตัวละครเดิมที่คุ้นเคย และอารมณ์ขันแบบชวนคิดทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ แตกต่างจาก Lightyear ที่หลุดธีมไปจากแฟรนไชส์ Toy Story มากเกินไป
3. ความสำเร็จนี้อาจนำ Pixar กลับสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง ทั้งในแง่รายได้และการเป็นผู้นำวงการแอนิเมชั่น แต่ต้องรอดูผลตอบรับของหนังเรื่องต่อๆ ไปด้วย หลังจากช่วงเวลาอันยากลำบากที่ผ่านมา Inside Out 2 จึงไม่ใช่แค่ความสำเร็จของ Pixar แต่อาจเป็นความหวังของทั้งวงการภาพยนตร์เลยก็ว่าได้
📍 บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โสภณ ศุภมั่งมี (บรรณาธิการ #aomMONEY)
#MakeRichGeneration #InsideOut2 #Movie #หนัง #ภาพยนตร์ #แอนิเมชัน #Disney #Pixar #รายได้ #ความสำเร็จ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
