28 มิ.ย. เวลา 03:00 • ธุรกิจ

อนาคตของมหาวิทยาลัยไทย ในวันที่เด็กเกิดน้อยลง

สภาพสังคมที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน เช่น ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นกว่ารายได้ โอกาสในการสร้างรายได้ของผู้หญิงที่มากขึ้นกว่าในอดีต และค่านิยมของคนรุ่นใหม่หลายคนที่ไม่อยากมีลูก
สิ่งเหล่านี้ทำให้จำนวนเด็กเกิดใหม่ของไทย ลดลงอย่างน่าใจหาย
จากปี 2514 หรือเมื่อ 53 ปีที่แล้ว มีจำนวนเด็กเกิดใหม่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ อยู่ที่ปีละ 1,200,000 คน จนมาถึงปัจจุบันที่มีเด็กเกิดใหม่ลดลงเหลือเพียงปีละประมาณ 500,000 คนเท่านั้น
ซึ่งเด็กเกิดใหม่ที่ลดลงในแต่ละปี ย่อมส่งผลกระทบต่อจำนวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แล้วอนาคตของมหาวิทยาลัยในไทย จะเป็นอย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
ก่อนอื่นเรามาดูจำนวนเด็กเกิดใหม่ของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร
ปี 2560 จำนวนเด็กเกิดใหม่ 702,755 คน
ปี 2563 จำนวนเด็กเกิดใหม่ 587,368 คน
ปี 2566 จำนวนเด็กเกิดใหม่ 517,934 คน
จะเห็นได้ว่าในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา จำนวนเด็กเกิดใหม่ในไทย มีแนวโน้มที่ลดลงเรื่อย ๆ
จำนวนเด็กเกิดใหม่ที่ลดลง ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน หนึ่งในนั้นคือ มหาวิทยาลัย ที่ในอนาคตต้องพบกับความท้าทายจากสถานการณ์ดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ
และเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย แต่ยังรวมถึงอีกหลายประเทศทั่วโลก อย่างเช่น ไต้หวัน ที่มหาวิทยาลัยจำนวน 4 แห่งต้องปิดตัวลงไป เนื่องจากอัตราการเกิดที่ลดลงของไต้หวัน ทำให้จำนวนเด็กที่มาสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยลดลง
ตัดภาพกลับมาที่ประเทศไทย ถ้าเราลองมาดูจำนวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา
1
ปี 2556 จำนวนนักศึกษาทั้งหมด 2.2 ล้านคน
ปี 2560 จำนวนนักศึกษาทั้งหมด 1.9 ล้านคน
ปี 2566 จำนวนนักศึกษาทั้งหมด 1.5 ล้านคน
เราจะเห็นได้ว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนนักศึกษาทั้งหมดที่เรียนในมหาวิทยาลัยลดลงถึง 700,000 คน
จำนวนนักศึกษาที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อรายได้ของมหาวิทยาลัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำให้ตอนนี้ เราจึงเห็นมหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มหาทางออกจากปัญหานี้ ในหลากหลายวิธี เช่น
- การขยายเวลาเปิดรับนักศึกษาใหม่
- ลดจำนวนบุคลากรในมหาวิทยาลัยลง
- ยุบคณะ หรือบางสาขาวิชา ที่มีจำนวนนักศึกษาน้อย เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
- เปิดรับนักศึกษาต่างชาติ โดยเฉพาะนักศึกษาชาวจีน
- ปรับปรุงหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของผู้เรียนมากขึ้น
แน่นอนว่าทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงย่อมต้องใช้เวลา ดังนั้นในตอนนี้มหาวิทยาลัยในไทยหลายแห่ง จึงต้องเริ่มปรับตัวกันตั้งแต่ตอนนี้
เพื่อไม่ให้หลายมหาวิทยาลัยที่เผชิญกับความท้าทายในวันนี้ เหลือไว้เพียงชื่อให้เด็กรุ่นหลังจดจำในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์..
โฆษณา