2 ก.ค. เวลา 01:00 • การตลาด

เจาะพฤติกรรมผู้บริโภคชาวอิตาเลียน เพื่อกระตุ้นยอดขาย

บริษัท GS1 ของอิตาลีซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในการสร้างมาตรฐานให้กับกระบวนการค้าของอิตาลีร่วมกับบริษัท NielsenIQ บริษัทวิจัยทางการตลาด
เผยรายงานครึ่งปีเกี่ยวกับผลการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับอิทธิพลของข้อมูลบนฉลากสินค้าที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคชาวอิตาลี
รายงานนี้ครอบคลุมสินค้าอุปโภค บริโภคกว่า 139,302 รายการซึ่งคิดเป็น 83.10% ของยอดขายในซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้งหมดของอิตาลีในปี 2023
โดยพบว่า ข้อความบนฉลาก โลโก้ ของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมากกว่า 100 รายการมี 36 รายการที่มียอดขายเพิ่มขึ้นทั้งด้านปริมาณและมูลค่า
โดยแบ่งประเภทข้อความบนฉลากเป็น 7 หมวดใหญ่ ได้แก่
1.) ฉลากแสดงถึงสินค้าอิตาลีและภูมิภาค เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 12.09% เช่น
Made in Italy, สินค้าที่ได้รับความคุ้มครองเรื่องแหล่งกำเนิดของสินค้า ( Protected Designation of Origin:PDO) (9.10%) สินค้าจากภูมิภาคต่างๆของอิตาลี เช่น Puglia, Valle d’Aosta, และ Basilicata (12.48%)
2.) ฉลากสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 14.52% เช่น ไม่มีน้ำตาล (18.50%) น้ำตาลต่ำ (18.30%) ไม่มีไขมันทรานส์ (15.20%) โปรตีนสูง (12.80%)
ไขมันต่ำ (11.50%) และไม่มีแอสพาแทม (10.80%) เป็นต้น
3.) ความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัย เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 33.28% เช่น ไม่มีสารตกค้าง (67.40%) ไม่มีไกลโฟเซต (42.20%) ไม่มีไข่ (12.80%) และไม่มี/ใช้ยาฆ่าแมลงน้อย (10.70%) เป็นต้น
4.) การรับรองและมาตรฐาน เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 13.88% เช่น ฮาลาล (16.70%) Eco (15.60%) วีแกน (11.90%) และปราศจากการทารุณกรรมสัตว์ (11.30%) เป็นต้น
5.) สินค้าทำมือ (Artisanal) เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 21.60%
6.) ฉลากแสดงประเภทของผิวสัมผัส เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 12.48% เช่น เนื้อครีม (15.00%) นุ่ม (14.20%) ผิวหยาบ (13.70%) และแห้ง (7.80%) เป็นต้น
7.) ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 16.50% เช่น มีโพรไบโอติก/
พรีไบโอติก (36.70%) ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ (24.50%) มีไฮยารูลอน (16.40%) ปราศจากน้ำหอม (14.50%) และปราศจากแอลกอฮอล์ (10.20%) เป็นต้น
รายงานดังกล่าวยังระบุว่าปัจจุบันชาวอิตาเลียนหันมาสนใจเกี่ยวกับข้อมูลบนฉลาก โดยเฉพาะข้อมูลที่ส่งเสริมสุขภาพ มีส่วนผสมจากธรรมชาติ มีความปลอดภัย ยั่งยืน และมีมาตรฐานทางจริยธรรม
นอกจากนี้ ชาวอิตาเลียนยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เช่น การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มดังกล่าวส่งผลต่อความจำเป็นที่ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายต้องปรับปรุงและเสริมสร้างข้อมูลบนฉลากสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารกับผู้ซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ความคิดเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
1. ผู้บริโภคชาวอิตาเลียนให้ความสำคัญกับสินค้าที่ปราศจากสารเคมีทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค เนื่องจากในปัจจุบันชาวอิตาลีหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการไทยควรต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการตลาด โดยเน้นคุณสมบัติด้านสุขภาพ ความเป็นธรรมชาติ การรับรองมาตรฐานสากล รวมถึงเน้นสินค้าท้องถิ่นและความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไทยมีความสามารถในการแข่งขันเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของตน สอดรับกับแนวการบริโภคที่กำลังเติบโต
2. ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญกับการออกแบบฉลากโดยควรใส่ข้อมูลที่ชัดเจน ดึงดูดความสนใจ และสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดอิตาลีและยุโรปอย่างมีประสิทธิภาพ
3. อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยไม่ควรพิจารณาเพียงแต่ข้อมูลบนฉลากเท่านั้น แต่ควรพิจารณาถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในกระบวนการผลิต รวมถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวอิตาเลียนและชาวยุโรปที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย
Reference : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
อ่านเพิ่มเติม : https://www.ditp.go.th/post/175121
โฆษณา