26 มิ.ย. เวลา 07:17 • ประวัติศาสตร์

“โล่มนุษย์” กลยุทธสุดเลือดเย็นของกองทัพมองโกล

“เจงกิสข่าน (Genghis Khan)” ได้นำกองทัพมองโกลบุกแผ่นดินจีนในปีค.ศ.1211 (พ.ศ.1754) และก็ต้องพบกับกำแพงเมืองสูงใหญ่และป้อมปราการต่างๆ ยากแก่การโจมตี
ดังนั้นเพื่อที่จะเอาชัย เจงกิสข่านจึงคิดยุทธวิธีสุดเลือดเย็นหากแต่ได้ผลเป็นอย่างดี
นั่นคือการใช้ “โล่มนุษย์”
1
เจงกิสข่าน (Genghis Khan)
กองทัพมองโกลได้กวาดต้อนชาวบ้านชาวจีนที่จับได้ ซึ่งรวมทั้งเด็กและสตรี เอาดาบจ่อ บังคับให้ชาวบ้านเหล่านี้รวมกลุ่มกัน เรียงหน้ากระดาน เป็นโล่มนุษย์ ในขณะที่กองทัพมองโกลจะอยู่ด้านหลัง
1
ยุทธวิธีนี้ทำให้เหล่าทหารจีนที่ปกป้องเมืองต้องเปลืองลูกธนูไปกับการยิงใส่ชาวจีนที่เป็นโล่มนุษย์ ต้องยิงชาวจีนด้วยกันเองในขณะที่มองโกลนั้นปลอดภัยอยู่ข้างหลัง
จากนั้น พวกมองโกลก็ใช้ศพชาวจีนเหล่านั้นมากองสูงกันรอบๆ คูเมือง
1
เรียกได้ว่ากลยุทธโล่มนุษย์นี้ได้ผลดีเกินคาด และยังเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าในสนามรบนั้น กองทัพมองโกลไม่คำนึกถึงจริยธรรมหรือความถูกต้องใดๆ
แต่จะโทษมองโกลอย่างเดียวก็อาจจะไม่ถูกนัก เนื่องจากหากย้อนไปในสมัยศตวรรษที่ 7 จีนก็ใช้ชาวมองโกลซึ่งมองว่าเป็น “คนเถื่อน” เป็นโล่มนุษย์เช่นกัน
1
ดังนั้นหากจะเรียกว่าเป็นเวรกรรมก็น่าจะได้
และกลยุทธโล่มนุษย์นี้ก็ไม่ใช่กลยุทธใหม่ หากแต่มีการใช้มานานแล้ว โดยในสมัยศตวรรษที่ 11 กองทัพครูเสดก็ได้บังคับให้เชลยชาวมุสลิมแก้ผ้า และใช้ชาวมุสลิมเหล่านี้เป็นโล่มนุษย์เช่นกัน
1
หากแต่ที่โล่มนุษย์ของมองโกลนั้นโดดเด่น ก็เนื่องจากขนาดและจำนวนคนที่นำมาใช้เป็นโล่มนุษย์นั้นมากมายกว่าคนอื่นๆ
เจงกิสข่านเคยกล่าวไว้ว่า
“หากเจ้าไม่ได้กระทำบาปที่หนักหนา พระเจ้าก็คงไม่ส่งบทลงโทษอย่างข้ามาหาเจ้า”
1
อาจจะเรียกได้ว่าเจงกิสข่านและกองทัพมองโกลคือบทลงโทษจากพระเจ้าโดยแท้ก็ไม่น่าจะผิดนัก
โฆษณา