26 มิ.ย. 2024 เวลา 08:28

Shaken not Stirred !? เจมส์บอนด์กับฉากสั่งเครื่องดื่มสะเทือนโลก ตอนที่ 2

บทความนี้ เป็นตอนที่ 2 ต่อจาก บทความนี้นะครับ
ตอนที่แล้ว ผมเริ่มต้นด้วยผลลัพธ์ในการตลาดที่เกิดขึ้นจากฉากการสั่งเหล้าในภาพยนตร์ James Bond ที่ทำให้เกิดพื้นที่โฆษณาผลิตภัณฑ์ หรือ การ Tie-in เพิ่มขึ้น จนสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้ทั้งบริษัท Eon Productions ผู้ผลิตภาพยนตร์ชุดเรื่อง James Bond และบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบรนด์ต่างๆที่สนับสนุนไอเดียนี้
ในตอนที่ 2 นี้ อีกหนึ่งแง่มุมสะเทือนโลก ผมจะพามารู้จักกับ “Vesper Martini - เวสเปอร์ มาร์ตินี่” ค็อกเทลที่สร้างแรงกระเพื่อมต่อวงการค็อกเทล และสะเทือนเหล่าบาร์เทนเดอร์ไปทั่วโลก พร้อมตอบคำถามที่ผมทิ้งท้ายไว้ในตอนที่แล้วว่า ทำไม“Vesper Martini” ถึงไม่ใช่ “เครื่องดื่มประจำ” ของสายลับรหัส007 คนนี้ครับ
• เรื่องทั้งหมด มันเริ่มจาก VESPER
......“เรียกคนรับออเดอร์ให้หน่อย” บอนด์กล่าวกับพนักงานคาสิโนประจำโต๊ะที่กำลังดำเนินการแข่งขันโป๊กเกอร์ที่มีมูลค่าพนันสูงนับ 10 ล้านดอลลาร์ บอนด์ต้องชนะเกมนี้ เพื่อกดดันให้จอมวายร้ายที่เป็นเซียนโป๊กเกอร์นาม“เลอชีฟ”ที่นั่งอยู่อีกฟากฝั่งของโต๊ะจนมุมให้ได้ แต่ตอนนี้ ไพ่ของบอนด์ไม่เป็นใจ เกมกำลังเสีย ทำให้เค้าหงุดหงิดจนต้องสั่งเครื่องดื่มสักแก้วมาประคองความรู้สึกนี้
“เอา Dry Martiniมาแก้วนึง“ บอนด์กล่าวกับคนรับออเดอร์ แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียงตอบรับของพนักงานคนดังกล่าว ”เดี๋ยวก่อน..“ บอนด์รั้งตัวพนักงานไว้ แล้วพรรณนาสูตรค็อกเทลแปลกประหลาดขึ้นมาประหนึ่งด้นสดขึ้นมามั่วๆ ”ใส่เหล้าจินยี่ห้อGordons 3 ส่วน ว็อดก้า 1 ส่วน ตามด้วยเหล้าหวาน Kina Lillet ครึ่งส่วน เขย่าแรงๆในน้ำแข็ง เสร็จแล้วประดับด้วยเปลือกเลม่อนฝานบางๆนะ“
“รับทราบครับท่าน” พนักงานเสิร์ฟ รับออเดอร์ค็อกเทลไม่ทราบที่มาของบอนด์อย่างไม่อิดออดแล้วเดินจากไป
บอนด์กำลังเสียโป๊กเกอร์ ก่อนเรียกพนักงานมาสั่งค็อกเทลด้วยสูตรประหลาด
... การแข่งขันโป๊กเกอร์มูลค่ามหาศาลดำเนินไปอีกหลายเกม จนกระทั่งปรากฏผู้ชนะที่กวาดเงินของตัวร้ายอัจฉริยะอย่างเลอชีฟไปจนหมดตัว เลอชีฟ พ่ายแพ้จนมุม และเจมส์บอนด์เป็นผู้ชนะ
.... ไม่รู้เป็นผลพวงจากอิทธิฤทธิ์ของค็อกเทลนิรนาม ที่บอนด์พร่ำเพ้อสูตรขึ้นมาเองแบบไม่มีที่มาที่ไปหรือไม่ แต่หลังจากที่เค้าชนะแล้ว บอนด์สั่ง ค็อกเทลสูตรเดิมตัวนี้มาอีกครั้ง คราวนี้จิบแบบละเมียดละไมกว่าเดิม และเค้าพบว่ามันอร่อย!
“You know that's not half bad.. - คุณรู้มั้ย แก้วนี้มันอร่อยใช้ได้เลย“ บอนด์กล่าวกับ ”Vesper Lynd" สาวสวยที่กำลังปฏิบัติภารกิจร่วมกับเค้า “ผมว่าผมต้องตั้งชื่อให้มันสักหน่อยแล้ว” บอนด์พูดลอยๆ กับหญิงสาวตรงหน้า ก่อนที่ในตอนท้ายของเรื่อง บอนด์จะตัดสินใจบอกหญิงสาวข้างกายที่ตอนนี้เค้าหลงรักเธอหมดใจแล้วว่า “ผมตั้งชื่อค็อกเทลแก้วนั้นว่า เวสเปอร์“
ใช่ครับ นี่คือฉากต้นกำเนิดของ Vesper ชื่อที่เป็นทั้งค็อกเทลกำเนิดใหม่ และหญิงสาวรักแรกของเจมส์บอนด์ สายลับ 007
ภาพแรก จาก Casino Royale กับการปรากฏตัวของ Vesper Martini , ภาพที่ 2 Vesper Lynd รับบทโดย Eva Green
• ค็อกเทลแปลกใหม่จากสายลับรหัส007
“Vesper Martini” ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือนิยายชุด James Bond โดยนักเขียน Ian Flaming - เอียนเฟลมมิ่ง ฉบับแรกสุดในชื่อ “Casino Rayale" ในปี คศ 1953 และค็อกเทลชื่อแปลกหูแก้วนี้ก็กลายเป็นที่พูดถึงและพากันสั่งตามแทบจะทันทีในฐานะค็อกเทลชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีบาร์ไหนในอเมริกาและยูโรปทำมาก่อน หลังจากนั้นอีก 50 กว่าปีต่อมา Vesper Martini ก็ข้ามเวลามาปรากฏตัวอีกครั้งใน James Bond ภาค Casino Royale ฉบับภาพยนตร์ในปี 2006 ที่แสดงโดย Daniel Craig - แดเนียล เครก
นับเป็นภาคที่แฟนๆเจมส์บอนด์ทั้งโลกต่างรอคอยจะได้ชมมากที่สุดมาตลอดกว่า 50 ปี เพราะนี่คือการหยิบนิยายตอนแรกสุดของซีรี่ส์James Bond ที่เป็นต้นกำเนิดสายลับรหัส 007 มาสร้างเป็นภาพยนตร์อย่างเป็นทางการครั้งแรก (ในอดีตมีเพียงเวอร์ชั่นซีรี่ส์โทรทัศน์และภาพยนตร์ล้อ) Casino Royale ในปี 2006 นี้จึงดึงดูดผู้ชมทั้งแฟนคลับและสร้างแฟนๆกลุ่มใหม่ได้มหาศาล ไปทั่วโลกยิ่งกว่าเดิม ทำรายได้แซงทุกภาคก่อนหน้าที่กว่า หนึ่งร้อยหกสิบล้านดอลลาร์
และแน่นอนว่ามันพาชื่อของ Vesper Martini ไปปรากฏตัวทั่วโลกด้วย นี่จึงเป็นอีกครั้งที่ Vesper Martini ถูกพูดถึงและได้รับความนิยมจนผู้คนพากันสั่งตาม และในครั้งนี้ มันเกิดขึ้นกับบาร์ค็อกเทล “ทั้งโลก”
• Vesper กับความสับสนของ Shaken not Stirred
... ดูจะเป็นเรื่องน่ายินดีที่กระแสการสั่งเครื่องดื่มตามอย่างเจมส์บอนด์ ทำให้วงการค็อกเทลและบาร์เทนเดอร์คึกคักขึ้นมามากกว่าเดิมใช่มั้ยครับ แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ เวลามีใครสักคนไปถึงบาร์ค็อกเทลเพื่อจะสั่ง Vesper Martini มักไม่ค่อยมีใครจำชื่อ “เวสเปอร์ มาร์ตินี่” ที่ได้ดูในหนังมาเมื่อวานหรือเมื่อประมาณวีคสองวีคที่แล้วได้หรอกครับ
ยิ่งในยุคที่ผู้คนไม่ได้มีสมาร์ทโฟนติดตัวไว้หาข้อมูลในเน็ทได้แบบทุกวันนี้ คนที่ไม่ได้รู้เรื่องค็อกเทลหรือไม่ได้ตั้งใจจำมาเพื่อสั่งจริงๆ ก็มักจะสั่งแค่ว่า “Bond's cocktail - ค็อกเทลเจมส์บอนด์ แก้วนึง” หรือ “James Bond Martini - เอามาร์ตินี่แบบเจมส์บอนด์” แล้วก็ปิดท้ายเท่ๆให้เหมือนที่เจมส์บอนด์พูดทุกครั้งเวลาสั่งเครื่องดื่มว่า “Shaken not Stirred ! - เขย่า แต่ไม่คนนะ! (ทีประโยคงี้ล่ะจำได้ 555)
ผลปรากฏว่า บาร์เทนเดอร์แต่ละคนแต่ละร้านกลับทำออกมาไม่เหมือนกันครับ!
.....สาเหตุนั้นไม่ใช่ว่าบาร์เทนเดอร์ไม่เคยดูเจมส์บอนหรือว่าไม่รู้จักค็อกเทลมาร์ตินี่ของเจมส์บอนด์นะครับ แต่เป็นเพราะว่า “มาร์ตินี่ของเจมส์บอนด์ในความเข้าใจของแต่ละคนนั้น“ ไม่เหมือนกันครับ
กล่าวคือ ถึงแม้ Vesper Martini จะโด่งดังขึ้นมาจาก James Bond ภาค Casino Royale (ทั้งเวอร์ชั่นนิยายในปี 1953 และภาพยนตร์ในปี 2006) แต่ในอีกหลายๆภาคก่อนหน้านี้ (ไล่ตั้งแต่ Pierce Brosnan ย้อนไปจนถึงเจมส์บอนด์เวอร์ชั่นภาพยนตร์ภาคแรกสุด Dr.No ที่แสดงโดย Sean Connery ในปี 1962) ค็อกเทลที่บอนด์สั่งเป็นประจำหลายต่อหลายภาคจนเกิดภาพจำของประโยค ”Shaken not Stirred" นั้นกลับไม่ใช่ Vesper Martini แต่เป็น ”Vodka Martini“
เพราะในตอนที่บอนด์สั่ง Vesper นั้น เค้ากล่าวเพียงว่า “Shake it over ice. - เขย่าในน้ำแข็งนะ“
หลากหลายฉาก "Vodka martini , Shaken not Stirred" ในภาพยนตร์
• Vesper คือแก้วที่รัก แต่ไม่ใช่แก้วประจำ
...ในวรรณกรรมJames Bond ต้นฉบับ Vesper Martini ปรากฏตัวเพียงครั้งเดียวเท่านั้น คือในภาคแรก Casino Royale ในฉากที่ผมได้เล่าไว้ในตอนต้น ส่วนฉบับภาพยนตร์นอกจากภาค Casino Royale (2006) แล้ว ปรากฏอีกครั้งในภาค Quantum of Solace (2008) ภาคต่อจาก Casino Royale โดยเป็นฉากเล็กๆ บนเครื่องบินที่บอนด์นอนไม่หลับจึงต้องสั่งอะไรมาดื่ม และบาร์เทนเดอร์บนไฟลท์นั้นก็จัดค็อกเทลที่ใช้สูตรเดียวกันกับ Vesper มาให้โดยที่บอนด์ไม่ได้สั่งเอง และไม่ได้มีการเอ่ยชื่อเวสเปอร์ด้วยซ้ำ
พูดง่ายๆ นับตั้งแต่ Vesper Lynd รักแรกของเจมส์บอนด์เสียชีวิตจากไปในตอนจบของภาค Casino Royale บอนด์ ก็ไม่เคยสั่ง Vesper อีกเลย
เป็นนัยว่า “แม้จะเป็นแก้วที่รัก แต่ไม่อาจได้สัมผัสอีกแล้ว”
....หากอิงจากต้นฉบับนิยายแล้ว Vesper Martini ถูกสั่งเพียง 1 ครั้ง ในขณะที่ Vodka Martini และ Dry Martini ถูกสั่งมากถึง 19 และ 16 ครั้งตามลำดับ และจากข้อมูลนี้ จึงสรุปได้ว่า ในแทบทุกฉากตลอดภาพยนตร์20กว่าภาคที่บอนด์สั่งเครื่องดื่มว่า "Shaken not Stirred - เขย่า ไม่คน" นั้น บอนด์ กำลังสั่ง ” Vodka Martini“ ครับ ไม่ใช่ “Vesper Martini”
... Vesper อาจจะเป็นหนึ่งในค็อกเทลแก้วโปรด(และในความทรงจำ)ของบอนด์จริง แต่ไม่ใช่ “Martini แก้วประจำของบอนด์” อย่างแน่นอน
ภาพจาก Quantum of Solace ที่บอนด์ดื่ม Vesper ไปมหาศาล ประหนึ่งเพื่อลืมคนรักของเค้า Vesper Lynd
• James bond Martini กับความสับสนของบาร์เทนเดอร์และลูกค้า
.... ด้วยเหตุนี้นี่แหล่ะครับ ทำให้ในช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อพูดถึงค็อกเทลที่เจมส์บอนด์ชอบดื่ม, James Bond Martini , Bond's Martini หรือ มาร์ตินี่ของเจมส์บอนด์ บาร์เทนเดอร์หลายๆคน (โดยเฉพาะที่โตมากับภาพยนตร์เจมส์บอนด์ยุคก่อน Daniel Craig) จึงเข้าใจว่าคุณต้องการสั่ง Vodka Martini ครับ
หลัง Vesper Lynd จากไป บอนด์ก็ไม่เคยสั่ง Vesper อีกเลย กลายมาเป็น Vodka Martini ตามที่เราได้เห็นในภาพยนตร์ภาคก่อนยุค เดเนียลเครก
..แม้ในปัจจุบัน บาร์หลายๆแห่งค่อนข้างจะปรับความเข้าใจให้ตรงกันแล้วว่า เวลามีลูกค้ามาสั่ง เจมส์บอนด์ค็อกเทล ส่วนใหญ่ก็หมายถึง Vesper Martini นั่นแหล่ะ เพราะ Vodka martini มันเป็นมาร์ตินี่ที่แทบจะจืดชืดสนิทแถมไร้กลิ่นหอมอีกต่างหาก หาคนชอบจริงๆยากมาก (เว้นเจมส์บอนด์คนต้นเรื่องไว้คนนึง 555) แต่ก็ยังมีอีกหลายบาร์ที่ต้องถามลูกค้าค้าให้ชัดเจนเสียก่อนว่า คุณอยากดื่มค็อกเทลของเจมส์บอนด์ ตัวไหนกันแน่
อย่างในญี่ปุ่นเอง ก็มีการแยกชื่อค็อกเทลของเจมส์บอนด์ให้ชัดเจน ป้องกันการสับสนและทำผิดออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ กล่าวคือ หากสั่ง “Bond's Martini" คุณจะได้ ”Vodka Martini“ แบบ Shaken not Stirred" ตามอย่างในหนัง (ปกติ Vodka Martini ใช้วิธีคน ไม่ใช่เขย่า) แต่ถ้าอยากได้ “เหล้าจิน 3 ส่วน เหล้าหวาน Lillet ครึ่งส่วน แล้ว เขย่าแรงๆกับน้ำแข็ง ประดับด้วย เปลือกเลม่อนสไลซ์” แล้วละก็ คุณต้องระบุว่า “Vesper”เท่านั้น
////
ในประเด็นของ Vesper martini และ Vodka martini , Shaken not Stirred ในฐานะค็อกเทลของเจมส์บอนด์ ก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ หวังว่า จะทำให้ทุกท่านได้รู้จักและเข้าใจความแตกต่างของสองค็อกเทลชื่อดังได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นนะครับ
...สุดท้ายแล้ว หากท่านใดมีโอกาสได้ไปบาร์ค็อกเทลเพื่อลิ้มรสเครื่องดื่มอย่างที่สายลับรหัส007 ชื่นชอบ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะสั่งผิดสั่งถูก หรือกลัวว่าเรากับบาร์เทนเดอร์จะเข้าใจไม่ตรงกันรึเปล่านะครับ พูดคุยสอบถามกันตรงๆไปเลยครับ ว่าเราอยากได้อะไรแบบไหน การสื่อสารให้เข้าใจตรงกันสำคัญที่สุดครับ
//
ตอนต่อไป ผมจะพาขยับจากเรื่องราวของแก้วโปรดที่ฝังใจอย่างVesper ไปสู่เครื่องดื่มประจำที่แท้จริงของเจมส์บอนด์ Vodka Martini ว่า “ทำไมต้อง Shaken not Stirred" โดยพาย้อนกลับไปสำรวจต้นกำเนิดของ Martini ที่จะช่วยอธิบายว่า ทำไมเหล่าบาร์เทนเดอร์ถึงอัดอั้นตันใจที่ต้องมา ”เขย่ามาร์ตินี่“ กันครับ
#####
ปล ; ในการรวบรวมข้อมูลบทความนี้ ผมพบว่ายังมีเกร็ดน่าสนใจในรายละเอียดเพิ่มเติมจากเนื้อหาบางส่วนของบทความอีกมากมาย ผมจึงตัดสินใจ ยกไปเล่าเพิ่มเติมในคอมเมนท์นะครับ
#####
Disclaimer: บทความนี้เพื่อแบ่งปันความรู้และสูตรอาหารเครื่องดื่มเท่านั้น มิได้มีจุดประสงค์เพื่อโฆษณาหรือส่งเสริมให้คนดื่มแอลกอฮอล์
#เรื่องเล่าในแก้ว
โฆษณา