28 มิ.ย. เวลา 13:53 • ข่าวรอบโลก
รัสเซีย

อีกครั้งกับการโจมตีมอสโก มันเผยให้เห็นจุดอ่อนภายในของรัสเซีย

การโจมตีของผู้ก่อการร้ายเกิดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันเผยให้เห็นจุดอ่อนภายในของรัสเซียจริงๆ
ความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้นทั่วรัสเซียในปีที่ผ่านมา ทำลายคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ที่ว่าเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถปกป้องประเทศให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทั้งในและต่างประเทศ
1
การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในเมืองดาเกสถานเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน
1
ดอกไม้ถูกวางไว้นอกสำนักงานของตัวแทนดาเกสถานในมอสโก
มันได้เผยให้เห็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้นในใจกลางของรัสเซีย
ในขณะที่เครมลินมุ่งเน้นไปที่สงครามในยูเครนและการปราบปรามทางการเมือง ฝ่ายค้านในมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ดูเหมือนความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้นทั่วรัสเซียในช่วงปีที่ผ่านมา ได้ทำลายคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
กรณีจำนวนมากเชื่อมโยงกับความตึงเครียดที่มีมายาวนานระหว่างมอสโกและมุสลิมในเอเชียกลาง
1
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองกำลังความมั่นคงได้บุกเข้าไปในศูนย์กักกันแห่งหนึ่งในเมืองรอสตอฟ-ออน-ดอน
ส่งผลให้ชาย 6 รายที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส ได้จับผู้คุม 2 คนเป็นตัวประกัน
1
ในเดือนมีนาคมปีนี้ มือปืนติดอาวุธหนักสังหารผู้คนไปมากกว่า 140 รายและบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนที่คอนเสิร์ตฮอลล์นอกกรุงมอสโก
กลุ่มรัฐอิสลามหัวรุนแรง อ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว
ต่อมามี เหตุโจมตีเมื่อวันอาทิตย์เกิดขึ้นในเมืองมาคัชคาลา เมืองหลวงของดาเกสถาน และเมืองเดอร์เบียนต์ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่โบสถ์ยิว สถานีตำรวจ และโบสถ์ 2 แห่ง
1
ทั้งสองเมืองตั้งอยู่ในภูมิภาคคอเคซัสเหนือซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
1
ซึ่งมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการต่อต้านการปกครองของรัสเซียมายาวนาน
1
เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 15 นายอยู่ในหมู่เหยื่อ เจ้าหน้าที่กล่าวว่ามีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่าสิบคน
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้
1
ด้านสำนักข่าว TASS ของรัสเซียอ้างตามคำพูดของผู้บริหารเมืองดาเกสถาน เซอร์เกย์ เมลิคอฟ โดยกล่าวว่า
ตอนนี้ มือปืนทั้ง 6 คนถูกสังหารในเวลาที่ก่อเหตุ
1
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 รายในการโจมตีโบสถ์และป้อมตำรวจในสาธารณรัฐดาเกสถานของรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
คณะกรรมการสอบสวน ซึ่งเป็นหน่วยงานสืบสวนหลักของรัสเซีย ระบุว่า คณะกรรมการทราบตัวตนของมือปืนที่เสียชีวิตแล้ว
แต่ต้นสังกัดไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับพวกเขา
นักวิจารณ์(รัฐบาล)กล่าวว่า ทางการได้ทุ่มเททรัพยากรมากเกินไปในการปราบปรามสิ่งใดๆ และใครก็ตามที่พวกเขาเชื่อว่าอาจคุกคามอำนาจของปูติน
นั่น คือ เครมลินได้จำคุกฝ่ายตรงข้าม ปิดปากของสื่อมวลชน
และออกกฎหมายเพื่อปราบปรามคำพูดใดๆ ก็ตามที่อาจมองว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สงครามในยูเครน
1
นักการเมืองที่มีชื่อเสียง นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน และนักข่าว ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลานาน อาจจะโดนปรับเงินอย่างหนัก หรือถูกบังคับให้หนีออกนอกประเทศ
ตามข้อมูลของกลุ่มสิทธิมนุษยชน ผู้คนมากกว่า 20,000 คนถูกควบคุมตัวตามอำเภอใจนับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
กลุ่มอื่นๆ ก็ถูกระงับเช่นกัน
รวมถึงชุมชนเกย์ในรัสเซีย ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ศาลฎีกาของรัสเซียได้สั่งห้ามสิ่งที่เรียกว่าขบวนการ LGBT โดยเรียกกลุ่มนี้ว่าเป็นกลุ่มหัวรุนแรง
1
นักวิเคราะห์กล่าวว่ารัฐบาลรัสเซียยังคงใช้การก่อการร้ายเป็นข้ออ้างในการปราบปราม แต่กลับเพิกเฉยต่อภัยคุกคามที่แท้จริงของผู้ก่อการร้าย
นิโคไล เปตรอฟ ที่ปรึกษาโครงการรัสเซียและยูเรเซียที่ชาแธมเฮาส์ ซึ่งเป็นองค์กรคลังสมองของอังกฤษ กล่าวว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ แสดงให้เห็นว่าทั้งเครมลินและหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลกลางยังไม่ได้รับบทเรียนจากพวกเขา
สิ่งที่รัฐบาลรัสเซียกำลังทำ(แทน)คือ การพยายามตำหนิความล้มเหลวด้านความมั่นคงภายในประเทศว่าเป็นแพะรับบาป(ตามปกติ)
1
นั่นก็คือ ยูเครนและชาติตะวันตก
 
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายปฏิบัติหน้าที่ในเมืองมาคัชคาลา เมืองหลวงของดาเกสถาน หลังเหตุโจมตีเมื่อวันอาทิตย์
หลังจากเหตุโจมตีคอนเสิร์ตฮอลล์เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่รัสเซียเริ่มโฆษณาชวนเชื่อว่ายูเครนอยู่เบื้องหลังการโจมตี
และมีมหาอำนาจตะวันตกคือผู้บงการ ปูตินยอมรับว่าการโจมตีดังกล่าวดำเนินการโดยกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์
แต่แนะนำว่ายูเครนและสหรัฐฯ ที่สนับสนุนยูเครนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงหลักฐานก็ตาม
เจ้าหน้าที่รัสเซียหลายคนกล่าวโทษยูเครน หลังเหตุโจมตีในเมืองดาเกสถานเมื่อวันอาทิตย์
1
ซึ่งเชื่อมโยงเหตุการณ์ดังกล่าวกับการโจมตีช่วงเช้าของวันในไครเมียที่รัสเซียยึดครอง
เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวว่าเหตุโจมตีในไครเมียในมิยาทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายและบาดเจ็บมากกว่า 150 ราย
เลโอนิด สลุตสกี้ ประธานคณะกรรมการกิจการระหว่างประเทศของดูมาแห่งรัฐรัสเซีย ก็เขียนในแอป Telegram ว่า
การโจมตีทั้งสองครั้ง "ถูกยุยงโดยกองกำลังภายนอกเพื่อสร้างความตื่นตระหนกและแบ่งแยกชาวรัสเซีย" เขากล่าวหาว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรปเรื่องการก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ
1
“ศัตรูกำลังมองหาทุกวิถีทางที่จะทำลายสังคมรัสเซียจากภายใน”
1
วาเลนตินา มัตเวียนโก หัวหน้าสภาสหพันธรัฐรัสเซีย ได้เขียนไว้ในแอป Telegram ด้วยประโยคที่คล้ายคลึงแบบนี้เช่นเดียวกัน
วุฒิสมาชิก มิทรี โรโกซิน อดีตผู้อำนวยการของรอสคอสมอส ก็ออกมาเตือนว่า
เขาตำหนิการโจมตีในเคียฟและตะวันตกเมื่อวันอาทิตย์ และเขาเขียนบน Telegram เมื่อวันจันทร์ว่า
“หากเราถือว่าการโจมตี ของผู้ก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องกับการไม่ยอมรับในระดับชาติและศาสนา
หากแต่ ความเกลียดชัง และความหวาดกลัวรัสเซีย เกิดจากการสมรู้ร่วมคิดของยูเครนและ NATO เราก็จะถือว่าความรู้สึกลวงตานี้ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่”
จะเห็นได้ว่า แนวคิดที่ว่าความโชคร้ายใดๆ ที่รัสเซียประสบนั้นเป็นความผิดของเคียฟ และผู้สนับสนุนก็หยั่งรากลึกในความคิดของคนรัสเซีย
1
Andrei Kolesnikov นักข่าวชาวรัสเซียและผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองรัสเซีย เพื่อนอาวุโสของ Carnegie Russia Eurasia Center ในมอสโกกล่าวว่า
"คนส่วนใหญ่ที่ไม่โต้ตอบ" เป็นเพราะไม่เต็มใจที่จะคิดถึงสาเหตุที่แท้จริงของการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในประเทศของตน และผู้นำของรัสเซียก็รู้เรื่องนี้
1
ด้วยเหตุนี้ “การกล่าวโทษยูเครนและตะวันตกจึงกลายเป็นบรรทัดฐานทางสังคมของที่นี่” เขากล่าว
“มันง่ายกว่ามากที่จะอธิบายทุกอย่างในแง่ของการสมรู้ร่วมคิด ทั้งตะวันตกและยูเครน”
แต่เครมลินก็ไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นในทันทีว่าพวกเขากำลังใช้ยูเครนและตะวันตกเพื่อตำหนิจุดอ่อนของตนหรือไม่
1
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังกระตือรือร้นเป็นพิเศษที่จะหลีกเลี่ยงข้อเสนอแนะใดๆ ที่อาจเกิดความตึงเครียดระหว่างเชื้อชาติหรือศาสนาภายในรัสเซีย
ปูตินมักยกย่องความหลากหลายทางชาติพันธุ์และศาสนาของรัสเซีย โดยกล่าวกับผู้เข้าร่วมในพิธีเปิดเทศกาลเยาวชนโลกเมื่อเดือนมีนาคมว่า
"ความสามัคคีจากหลายเชื้อชาติคือคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา"
มิทรี เปสคอฟ โฆษกของปูตินกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ปูตินไม่คาดว่าจะปราศรัยต่อประเทศภายหลังการโจมตีเมื่อวันอาทิตย์
1
เปสคอฟกล่าวว่าเครมลินจะรอให้หน่วยงานสืบสวนทำงานให้เสร็จ "แล้วเราก็จะได้ข้อสรุปบางอย่าง"
2
ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า การตอบสนองอย่างระมัดระวังของปูตินนั้นดูจะ...ไม่น่าแปลกใจ
นั่นเพราะ เครมลินไม่ต้องการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเกินไป และเพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมากกว่าที่เป็นอยู่นั่นเอง...
1
โฆษณา