Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทนายความธัชกร ทองยศภูมิ
•
ติดตาม
29 มิ.ย. เวลา 09:50 • ไลฟ์สไตล์
อย่าค้ำประกันให้ใคร แม้จะเป็นเพื่อนสนิทคุณก็ตาม !!!
หากคุณคิดว่า เมื่อคุณทำสัญญาเป็นผู้ค้ำประกันแล้ว ผู้ค้ำประกันไม่ต้องจ่ายเงิน ผู้ค้ำประกันจะไม่มีความเสี่ยง เพียงเพราะลูกหนี้เป็นคนซื่อตรงซื่อสัตย์ดูมีความรับผิดชอบดี ลูกหนี้เท่านั้นที่ต้องจ่ายเงิน คุณกำลังคิดผิดมหันต์ ขอให้คิดทบทวนดูใหม่อีกรอบ ทุกครั้งที่จะต้องค้ำประกันหนี้ของใคร เพราะผู้ค้ำประกันก็ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้นซึ่งมักจะเกิดขึ้นบ่อยซะด้วย
ทำไมค้ำประกันสินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อรถยนต์ให้เพื่อน เพื่อนหนีจ่าย ทำไมผู้ค้ำประกันต้องถูกฟ้องไปด้วยล่ะ ทำไงดี !!!
ค้ำประกัน คืออะไร
การที่เราเข้าทำสัญญาหรือตกลงรับรองหรือรับประกันต่อเจ้าหนี้บุคคลภายนอก ว่าเราจะชำระหนี้แทนเพื่อนเราหรือลูกหนี้ ในเมื่อเพื่อนเราหรือลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น ๆ แบบนี้เราจะถือเป็นผู้ค้ำประกัน
ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 วรรคหนึ่ง “อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้ค้ำประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่ง เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น”
วรรคสอง “อนึ่ง สัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่”
เหตุผลส่วนใหญ่ที่มักทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ไปเป็นผู้ค้ำประกัน
1. ไม่ทราบว่าการเข้าทำค้ำประกันหนี้หรือสินเชื่อตนจะต้องมีความเสี่ยง โดยรับผิดชำระหนี้แทนลูกหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้นจะเป็นอย่างไรมีผลอย่างไร
2. ถูกเพื่อนร้องขอให้เข้าทำสัญญาค้ำประกันให้ต้นหน่อยโดยเพื่อนรับรองว่าจะไม่ผิดนัดชำระหนี้หรือจะไม่ทำให้เราเดือดร้อน แต่สุดท้ายเพื่อนก็กลับหนีนี่นั่นไปคงทิ้งให้เราต้องชำระหนี้แทน
3. ณ ขณะนั้นต้องการช่วยเหลือเพื่อนเนื่องจากหากไม่มีผู้ค้ำประกันแล้วเพื่อนจะไม่สามารถทำสินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อรถยนต์ให้สำเร็จได้ในขนาดนั้นเพื่อนดูแล้วเป็นคนที่มีความรับผิดชอบเป็นคนดี แต่ต่อมาเพื่อนกลับไม่จ่ายหรือหนีไปโดยไม่ทราบสาเหตุหรือต่อมาเพื่อนกลับเป็นคนที่มีหนี้สินมากแล้วหนีหนี้นั้นเสียและติดต่อไม่ได้
จริงๆอาจจะมีเหตุผลที่มากมายแต่โดยประสบการณ์ของทนายส่วนใหญ่จะอยู่บนฐานข้อมูลข้อหนึ่งถึงข้อสาม
ผลของการเป็นผู้ค้ำประกันในเมื่อเพื่อนเราหรือลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้นหรือผิดนัดไปเสียแล้ว
เมื่อเพื่อนเราหรือลูกหนี้นั้นไม่ชำระหนี้แทนเจ้าหนี้จะเกิดสิทธิ์ในการเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทนลูกหนี้ตามกฏหมายอย่างไรก็ดีผู้ค้ำประกันยังพอมีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะแจ้งบอกกล่าวเจ้าหนี้เช่นการขอให้เจ้าหนี้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อนในเมื่อลูกหนี้ยังพอมีทรัพย์สินหรือเจ้าหนี้สามารถบังคับชำระหนี้แก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อนได้ หรือเจ้าหนี้ได้ยึดถือทรัพย์สินของลูกหนี้อย่างใดไว้ก็ให้บังคับชำระหนี้แก่ทรัพย์สินที่ยึดถือดังกล่าวไว้เสียก่อน เป็นต้น
มาตรา ๖๘๗ ผู้ค้ำประกันไม่จำต้องชำระหนี้ก่อนถึงเวลากำหนดที่จะชำระ แม้ถึงว่าลูกหนี้จะไม่อาจถือเอาซึ่งประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาเริ่มต้นหรือเวลาสุดสิ้นได้ต่อไปแล้ว
มาตรา ๖๘๘ เมื่อเจ้าหนี้ทวงให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันจะขอให้เรียกลูกหนี้ชำระก่อนก็ได้ เว้นแต่ลูกหนี้จะถูกศาลพิพากษาให้เป็นคนล้มละลายเสียแล้ว หรือไม่ปรากฏว่าลูกหนี้ไปอยู่แห่งใดในพระราชอาณาเขต
มาตรา ๖๘๙ ถึงแม้จะได้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดังกล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้นั้นมีทางที่จะชำระหนี้ได้ และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้รายนั้นเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
มาตรา ๖๙๐ ถ้าเจ้าหนี้มีทรัพย์ของลูกหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันไซร้ เมื่อผู้ค้ำประกันร้องขอ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องให้ชำระหนี้เอาจากทรัพย์ซึ่งเป็นประกันนั้นก่อน
มาตรา ๖๘๖๑ เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ให้เจ้าหนี้มีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด และไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดเจ้าหนี้จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ก่อนที่หนังสือบอกกล่าวจะไปถึงผู้ค้ำประกันมิได้ แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ค้ำประกันที่จะชำระหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระ
ในกรณีที่เจ้าหนี้มิได้มีหนังสือบอกกล่าวภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นบรรดาที่เกิดขึ้นภายหลังจากพ้นกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง
เมื่อเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้หรือผู้ค้ำประกันมีสิทธิชำระหนี้ได้ตามวรรคหนึ่ง ผู้ค้ำประกันอาจชำระหนี้ทั้งหมดหรือใช้สิทธิชำระหนี้ตามเงื่อนไขและวิธีการในการชำระหนี้ที่ลูกหนี้มีอยู่กับเจ้าหนี้ก่อนการผิดนัดชำระหนี้ ทั้งนี้ เฉพาะในส่วนที่ตนต้องรับผิดก็ได้ และให้นำความในมาตรา ๗๐๑ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ในระหว่างที่ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ตามเงื่อนไขและวิธีการในการชำระหนี้ของลูกหนี้ตามวรรคสาม เจ้าหนี้จะเรียกดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพราะเหตุที่ลูกหนี้ผิดนัดในระหว่างนั้นมิได้ การชำระหนี้ของผู้ค้ำประกันตามมาตรานี้ ไม่กระทบกระเทือนสิทธิของผู้ค้ำประกันตามมาตรา ๖๙๓
เมื่อเราหรือผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทนเพื่อนหรือลูกหนี้ไปแล้วจะเกิดสิทธิ์ใดใดในการติดตามเงินหรือทรัพย์สินของเราขึ้นมาได้บ้าง
เมื่อผู้ค้ำประกันได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ไปแล้วย่อมได้รับช่วงสิทธิ์ของเจ้าหนี้เดิมเกิดสิทธิ์ในการไล่เบี้ยเงินหรือใช้สิทธิเรียกร้องไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้เดิมโดยฟ้องร้องและบังคับคดีแก่ลูกหนี้อีกทอดหนึ่งต่อไปตามกฏหมาย
ทนายความธัชกร ทองยศภูมิ
Thachakornlaw
thachakorn.attorney
Thachakornlaw
Visit the post for more.
กฎหมาย
ธุรกิจ
ทนายความ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย