ทำไม เงินบาทไทย ถึงเป็นสกุลเงิน ที่มีคนใช้ มากเป็นอันดับ 10 ของโลก
รู้หรือไม่ว่า เงินบาทที่เราใช้จ่ายกันอยู่ในทุกวันนี้ เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีคนใช้งานมากถึงอันดับ 10 ของโลกเลยทีเดียว
ด้วยข้อมูลล่าสุดของหน่วยงาน SWIFT ซึ่งเป็นสมาคมที่อยู่เบื้องหลังการทำธุรกรรมข้ามประเทศ ของธนาคารแทบจะทั่วโลก
ได้แสดงให้เห็นว่า ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ มูลค่าของเงินบาทไทย ที่ถูกใช้จ่ายระหว่างประเทศนั้น คิดเป็น 1.07% ของมูลค่าการทำธุรกรรมระหว่างประเทศทั้งหมดเลยทีเดียว
ซึ่งดูแค่ที่ตัวเลขเปอร์เซ็นต์ อาจจะเหมือนว่าน้อย แต่ขนาดเงินหยวนของจีน ที่หลาย ๆ คนเชื่อว่าจะขึ้นมาท้าชิงตำแหน่งสกุลเงินโลกของดอลลาร์สหรัฐ ก็ยังคิดเป็น 4.69% ของการทำธุรกรรมระหว่างประเทศทั้งหมดเท่านั้น
และถ้าหากเราสงสัย ว่าเพราะอะไรเงินบาทไทย ถึงได้รับการยอมรับมากถึงขนาดนี้ ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้เงินบาทของไทย เป็นที่ถูกใช้งานมากขนาดนี้ ก็มีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อ
1. เงินบาทมีความต้องการอยู่เรื่อย ๆ
การจะดูว่าประเทศหนึ่ง มีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกมากแค่ไหน ต้องดูว่าประเทศนั้นมีมูลค่าของการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งก็คือการนำเข้าและส่งออกรวมกันแล้วเทียบกับ GDP แล้วมากน้อยแค่ไหน
ซึ่งเศรษฐกิจไทยเองนั้น ก็มีมูลค่าของการค้าระหว่างประเทศ คิดเป็นถึง 134% ของ GDP ประเทศเลยทีเดียว นั่นก็เป็นเพราะว่า ประเทศไทยนั้น เป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตสินค้าส่งออกหลายอย่างของโลก
อีกทั้งภาคอุตสาหกรรมหลัก ของเศรษฐกิจไทย ก็คือภาคการท่องเที่ยว ซึ่งก็ต้องอาศัยนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
นั่นจึงทำให้เงินบาทของไทยนั้น มีความต้องการใช้งานอยู่ตลอด เพราะเวลาที่ชาวต่างชาติจะซื้อสินค้าส่งออกจากไทย หรือจะเข้ามาเที่ยวในไทย ต่างก็ต้องแลกเงินของตัวเอง ให้เป็นสกุลเงินบาทก่อนทั้งนั้น
2. เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพ
แม้ปัจจุบันนี้ เศรษฐกิจของไทยจะเติบโตอย่างเชื่องช้า แต่ในเรื่องของเสถียรภาพแล้ว เศรษฐกิจของประเทศไทย ยังถือว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง
เริ่มจากเสถียรภาพภายนอก ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้รับบทเรียนจากวิกฤติต้มยำกุ้งนั้น ก็มีการตุนเงินสำรองระหว่างประเทศไว้ค่อนข้างมาก มาโดยตลอด
โดยเงินสำรองระหว่างประเทศของไทยนั้น มีมากถึงประมาณ 9.28 ล้านล้านบาท คิดเป็นอันดับที่ 16 ของโลกเลยทีเดียว
ส่วนเสถียรภาพภายในของเศรษฐกิจประเทศไทยนั้น ก็เห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ได้มีความผันผวนมาก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างเช่นประเทศลาว ที่ประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ จนทำให้อัตราเงินเฟ้อกระโดดสูงขึ้น
จาก 3.8% ในปี 2021
ไปเป็น 23% ในปี 2022
และ 31% ในปี 2023
รวมไปถึงประเทศไทยของเราเอง ไม่ได้มีเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ที่จะมาทำให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดวิกฤติ เหมือนอย่างเช่น ประเทศเมียนมา ที่สถานการณ์สงครามกลางเมืองยืดเยื้อ จนเศรษฐกิจประเทศเสียหาย
3. เพื่อนบ้านของไทย ไว้ใจเงินบาท
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ในภูมิภาคนี้ เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพที่ค่อนข้างมาก นั่นจึงทำให้ผู้ใช้เงินบาทไทย ไม่ได้มีเพียงประชากรไทยกว่า 71 ล้านคนเท่านั้น
แต่ยังรวมไปถึงผู้คนจำนวนมาก ในประเทศเพื่อนบ้านของเรา ก็เป็นผู้ใช้เงินบาท ร่วมกันกับประชาชนคนไทยเช่นเดียวกัน
โดยถ้าใครเคยไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านรอบ ๆ เราอย่าง ลาว, เมียนมา, กัมพูชา หรือแม้แต่บางเมืองของเวียดนาม จะเห็นได้ว่าหลาย ๆ ร้าน ก็ยินดีที่จะรับเงินบาทของไทย
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2024 นี้ ได้แสดงให้เห็นว่า ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนนั้น ใช้เงินบาทในการทำธุรกรรมค้าขาย เป็นรองเพียงแค่ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
ส่วนเพื่อนบ้านที่นิยมใช้เงินบาทไทยของเรามากที่สุดก็คือ ประเทศเมียนมา, ลาว, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา และมาเลเซีย ตามลำดับ
นอกจากนี้ การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เริ่มเชื่อมโยงระบบการชำระเงิน เข้ากับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน
บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านเราที่ยังคงไม่แน่นอน ก็น่าจะยิ่งทำให้ การใช้งานของเงินบาท ในภูมิภาคอาเซียน เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอีก
จากทั้งหมดนี้เองก็จะเห็นได้ว่า เงินบาทของไทยนั้น ถือเป็นสกุลเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ในสายตาของหลาย ๆ ประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเพื่อนบ้านของเรา ผู้ซึ่งกำลังประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ จนทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น ในสกุลเงินประเทศตัวเอง และหันมาใช้สกุลเงินบาทของไทย ซึ่งมีเสถียรภาพมากกว่าแทน
ซึ่งก็เป็นที่น่าติดตามกันต่อไปว่า ในอนาคตต่อไปข้างหน้านี้ เงินบาทไทยของเรา จะยังคงสถานะเบอร์ 1 ของสกุลเงินที่เพื่อนบ้านอาเซียนนิยมใช้ ได้หรือไม่
แต่อย่างน้อย การที่ในวันนี้เงินบาทของไทย เป็นสกุลเงินที่มีคนใช้มากเป็นอันดับ 10 ของโลกนั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าภูมิใจไม่น้อยเลย..
References
-SWIFT RMB Tracker
-ธนาคารแห่งประเทศไทย
- 180
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
