ทำไมมูเซียล่า เลือกเยอรมัน ไม่เลือกอังกฤษ
จามาล มูเซียล่า สามารถเลือกเล่นได้ ทั้งกับเยอรมัน และ อังกฤษ แต่สุดท้ายตัดสินใจเลือกเยอรมัน เหตุผลหลักคือ เฮดโค้ชทีมชาติ ณ เวลานั้น โยอาคิม เลิฟ เข้ามาทาบทามโดยตรง ตั้งแต่เขาอายุ 17 ปี ตรงข้ามกับแกเร็ธ เซาธ์เกต เฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษ ที่เอาแต่มองดูอยู่ห่างๆ
ถ้าไปดูสตอรี่ตั้งแต่แรก อาจรู้สึกแปลกใจ เพราะมูเซียล่า บอกเสมอว่าอยากเล่นให้อังกฤษ และเล่นให้ทีมเยาวชนอังกฤษมาถึง 4 รุ่น แถมฝันว่าอยากลงเล่นในสนามเวมบลีย์อีกต่างหาก แต่เมื่อต้องเลือกทีมชาติชุดใหญ่จริงๆ เขากลับลำ 180 องศา หันไปเลือกเยอรมันแทน
แบ็กกราวน์ของมูเซียล่า เขามีคุณแม่เป็นคนเยอรมันเชื้อสายโปแลนด์ และมีคุณพ่อเป็นคนไนจีเรีย
มูเซียล่าเติบโตที่เมืองสตุ๊ตการ์ต ในเยอรมัน จากนั้นตอนอายุ 7 ขวบ คุณแม่ของเขาที่เป็นนักศึกษาปริญญาโท ต้องไปทำวิจัยที่มหาวิทยาลัยเซาธ์แฮมป์ตัน ในประเทศอังกฤษ ดังนั้นทั้งครอบครัวจึงต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่อังกฤษกันหมดเลย
เมื่อย้ายไปอังกฤษ มูเซียล่าเข้าไปอยู่ในสังกัด สโมสรเซาธ์แฮมป์ตัน ชุดทีม u-7 และเล่นได้โดดเด่นมาก มีหนึ่งเกม ที่เขายิงได้ 6 ลูกในช่วงเวลาแค่ 10 นาที จนเป็นที่ลือลั่นกันไปทั่ว หลายคนบอกว่า เด็กคนนี้อนาคตไกลแน่
ผ่านไป 1 ปี คุณแม่ของมูเซียล่าทำงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยเซาธ์แฮมป์ตันเสร็จแล้ว ตามจริงก็ควรจะกลับไปที่เยอรมัน แต่เส้นทางฟุตบอลของลูกชายดูจะไปได้สวยที่อังกฤษ เธอจึงตัดสินใจว่า อยู่อังกฤษต่อดีกว่า หางานทำที่อังกฤษไปเลย ไม่ต้องกลับเยอรมันแล้ว
จากนั้นมูเซียล่า จึงถูกส่งเรียนหนังสือในโรงเรียนที่อังกฤษอย่างเป็นกิจจะลักษณะ และสามารถพูดอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในที่สุด เขาใช้ภาษาเก่งขนาดที่แต่งบทประพันธ์ไปร่วมแข่งขันในโรงเรียน จนได้รางวัลชนะเลิศด้วย
ด้วยความที่มูเซียล่า เป็นผู้เล่นพรสวรรค์ ทำให้เซาธ์แฮมป์ตันอยากรั้งตัวต่อไป แต่ปัญหาคือ เชลซี กับ อาร์เซน่อลก็อยากได้เช่นกัน กลายเป็นศึกสามเส้า แต่สุดท้ายเชลซีเป็นฝ่ายชนะ สาเหตุหลัก เพราะคุณแม่ได้งานที่บริษัทใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสนามซ้อมค็อบแฮมของเชลซี คือมันเป็นชอยส์ที่ตอบโจทย์ชีวิตมากสุด
โรงเรียนในสมัยประถมของมูเซียล่า ชื่อ คอร์ปัส คริสตี้ ซึ่งมูเซียล่าพาทีมฟุตบอลของโรงเรียนคว้าแชมป์ระดับประเทศได้ในปี 2013 ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นั้น แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่เป็นโค้ชเยาวชนทีมชาติ ได้เข้ามาเป็นวิทยากรให้เด็กๆ ด้วย และกล่าวชื่นชมจามาล มูเซียล่า วัย 10 ขวบ เป็นการส่วนตัว
ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่า เซาธ์เกต รู้จักกับมูเซียล่ามานานมากแล้ว และรู้ด้วยว่าเป็นผู้เล่นที่มีอนาคตไกล
มูเซียล่าอยู่อังกฤษมา 7 ปี จนได้สัญชาติสหราชอาณาจักร จากนั้นในเดือนธันวาคม 2016 เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุด u-15 ลงเล่นเกมกระชับมิตรกับทีมชาติตุรกี
ในเกมเจอตุรกี มูเซียล่าถูกส่งลงมาเป็นสำรอง และยิงประตูได้ทันที ช่วยอังกฤษชนะตุรกี 5-2 โดยใน Squad ของอังกฤษวันนั้น นอกจากมูเซียล่าแล้ว ยังมีจู๊ด เบลลิงแฮม, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ ทีโน่ ลีฟราเมนโต้อีกด้วย
มูเซียล่า เริ่มติดทีมเยาวชนบ่อยขึ้น ในเดือนธันวาคม 2017 เขาลงเล่นให้อังกฤษ เอาชนะเนเธอร์แลนด์ ชุด u-15 ไป 3-1 โดยยิงแฮตทริกได้อย่างสวยงาม จนสร้างความตื่นตะลึงให้คนที่พบเห็น ว่าเด็กคนนี้มันมีของจริงๆ
ความฝันของมูเซียล่า คืออยากติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ อยากเล่นในเวมบลีย์ และอยากทำแฮตทริกได้ที่เวมบลีย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อมูเซียล่าเริ่มเด่นขึ้นมาในระดับเยาวชน สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันจึงเริ่มเคลื่อนไหวทันที คือพวกเขารู้อยู่แล้วว่ามูเซียล่า เล่นให้ทีมชาติเยอรมันได้ เนื่องจากคุณแม่เป็นคนเยอรมัน
ในเดือนตุลาคม 2018 สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน ส่งเทียบเชิญให้มูเซียล่า มาลงเล่นกับทีมชาติชุด u-16 ในเกมอุ่นเครื่องกับเบลเยี่ยม ซึ่งมูเซียล่าตอบตกลง แต่ผลการแข่งเกมนั้น เยอรมันแพ้เละคาบ้าน 4-1 มูเซียล่าทำอะไรไม่ได้เลย มันไม่เหมือนกับตอนที่เขาเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ
สุดท้าย พอเล่นไป 2 นัดแล้วไม่เวิร์ก มูเซียล่าเลยกลับไปเล่นให้ทีมเยาวชนอังกฤษต่อดีกว่า คือตอนนั้น เหมือนโมเมนตั้มจะเอียงไปทางอังกฤษแบบชัดเจนมากแล้ว
จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดของมูเซียล่าเกี่ยวกับการเลือกทีมชาติ เกิดขึ้นในปี 2019 ตอนที่เขาอายุ 16 ปี เมื่อสโมสรบาเยิร์น มิวนิค จากบุนเดสลีกาได้ติดต่อเชลซี เพื่อขอซื้อตัวคัลลัม ฮัดสัน-โอดอย
การเจรจาล่ม เพราะเชลซีไม่ยอมขาย แต่เอเยนต์ของฮัดสัน-โอดอย ที่เป็นอเยนต์คนเดียวกับมูเซียล่า ได้แนะนำบาเยิร์นว่า งั้นซื้อมูเซียล่าไปแทนสิ ถ้าอยากได้ตัวรุกสักคนไว้ใช้งาน
ตามกฎของฟุตบอลอังกฤษ ถ้านักเตะอายุ 16 ปี จะยังไม่มีสัญญาอาชีพ ทีมต่างๆ สามารถเซ็นสัญญาแย่งตัวมาได้เลย โดยในเคสของมูเซียล่า บาเยิร์นจะจ่ายเงินชดเชยเพียง 170,000 ปอนด์เท่านั้น
ณ เวลานั้น มูเซียล่า มีข้อเสนอจากหลายทีม แต่เมื่อบาเยิร์นกระโดดมาอยู่ในวงสนทนาด้วย มันก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง มูเซียล่ากล่าวว่า "เมื่อไหร่ก็ตามที่สโมสรอย่างบาเยิร์น มิวนิคต้องการคุณ คุณไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอได้"
กรกฎาคม 2019 มูเซียล่าวัย 16 ปี 4 เดือน ย้ายจากเชลซี มาบาเยิร์น และเริ่มต้นเล่นให้ทีมอะคาเดมี่ของทีมเสือใต้
แต่คนมันเก่ง ดูยังไงก็เก่ง หลังจากอยู่อะคาเดมี่ได้แค่แวบเดียว มูเซียล่าก็เปล่งแสงออกมา เขาเล่นได้เหนือกว่าเยาวชนในรุ่นเดียวกันแบบเห็นด้วยตาเปล่า
นั่นทำให้ วันที่ 20 มิถุนายน 2020 เกมนัดรองสุดท้ายของบุนเดสลีกา ที่บาเยิร์นเจอไฟร์บวร์ก หลังจากสกอร์นำขาด 3-1 นาทีที่ 88 เฮดโค้ชฮันซี่ ฟลิค ถอดโทมัส มุลเลอร์ออก แล้วส่งมูเซียล่า ลงเล่นเป็นเกมแรก
การได้ลงนัดนั้น ทำให้มูเซียล่าสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดตลอดกาลของบาเยิร์น ที่ได้ลงในบุนเดสลีกา ด้วยวัย 17 ปี กับอีก 115 วัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเขากับทีมเสือใต้
เมื่อเริ่มแจ้งเกิดในวงการได้แล้ว ฮันซี่ ฟลิค กล่าวชมว่ามูเซียล่ามี "พรสวรรค์อันเหลือล้น" ขณะที่ลีรอย ซาเน่ กล่าวชมว่า "เอาจริง และซ้อมหนัก" ส่วนโจชัว คิมมิชบอกว่า "เก่งเหลือเชื่อสำหรับคนอายุน้อยแบบเขา"
เรื่องราวจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดี มูเซียล่าฉายแสงอย่างเต็มตัวกับบาเยิร์น เขาได้ลงเล่นต่อเนื่อง ยิงประตูสม่ำเสมอ พอฮันซี่ ฟลิค ลาทีมไป ยูเลียน นาเกลส์มันน์ และ โทมัส ทูเคิล ใช้งานต่อ ซึ่งมูเซียล่าก็ยิ่งเก่งขึ้นกว่าเดิมอีก
ฮีโร่ที่ซัดประตูชัย ทำให้บาเยิร์นได้แชมป์ลีก 11 สมัยซ้อน ก็มูเซียล่านี่แหละ เส้นทางชีวิตของเขาไปได้สวยมาก
กลับมาที่ประเด็นการเลือกทีมชาติ ในข้อเท็จจริง มูเซียล่า สามารถเล่นได้กับทั้ง ไนจีเรีย, โปแลนด์, เยอรมัน และ อังกฤษ แต่ประเทศที่อยู่ในลิสต์ของมูเซียล่า มีแค่เยอรมัน กับอังกฤษเท่านั้น
ตอนแรก มูเซียล่า อยากเล่นให้อังกฤษ แต่เมื่อเวลาผ่านไปใจของเขาก็ไขว้เขว
เหตุผลข้อแรก ที่ส่งผลต่อมูเซียล่า คือ ช่วงเวลาที่อยู่บาเยิร์น พวกรุ่นพี่ในทีมทั้งโจชัว คิมมิช, มานูเอล นอยเออร์, โทมัส มุลเลอร์, ลีรอย ซาเน่, แซร์ช นาบรี้ และ ลีออน โกเร็ตซ์ก้า ได้เกลี้ยกล่อมให้มูเซียล่า เลือกทีมชาติเยอรมัน แทนที่จะไปเลือกอังกฤษ
การโดนกล่อมทุกวันแบบนี้ ต่อให้คุณเคยฝันว่าอยากเล่นให้อังกฤษมาก่อน มันก็เอนเอียงง่ายๆ เหมือนกัน
ส่วนเหตุผลข้อสอง นั่นคือ เยอรมันเป็นชาติที่ไม่เคยยอมแพ้เรื่องการทาบทามนักเตะ
สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน เชื่อในหลักการว่า นักเตะจะผูกพันกับชาติไหนไม่สำคัญ ตราบใดที่ยังไม่ได้เล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ พวกเขามีโอกาสแย่งมาเสมอ
ลีรอย ซาเน่ (ฝรั่งเศส), อันโตนิโอ รูดิเกอร์ (เซียร์ร่าลีโอน), โจนาธาน ทาห์ (ไอวอรีโคสต์), คาริม เบลลาราบี้ (โมร็อกโก), มาห์มูด ดาฮูด (ซีเรีย) ฯลฯ นักเตะเหล่านี้ มีสองสัญชาติ แต่ทั้งหมดโดนเกลี้ยกล่อม จนเลือกเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของเยอรมัน
ในเคสของมูเซียล่า โยอาคิม เลิฟ เฮดโค้ชทีมชาติเยอรมันในขณะนั้น และ โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ผู้อำนวยการทีมชาติ เข้ามาคุยกับมูเซียล่าในวัย 17 ปีอย่างจริงจัง และอธิบายให้ฟังว่า ถ้าเลือกเยอรมัน เส้นทางต่อไปของเขาจะเป็นอย่างไร นอกจากนั้น ยังเตรียมข้อมูลมาวิเคราะห์มูเซียล่าให้ฟังอีกด้วยว่า เขามีจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างไรบ้าง ทำอย่างไรถึงจะเก่งขึ้น
นอกจากนั้น เลิฟ ยังยืนยันว่า ถ้าเลือกเยอรมัน ก็พร้อมให้โอกาสติดทีม ลุยศึกยูโร 2020 อย่างแน่นอน โดยไม่สนใจว่านักเตะจะอายุน้อยแค่ไหนก็ตาม
สำหรับตัวมูเซียล่า นี่คือจุดชี้ขาดเลยก็ว่าได้ เพราะโค้ชทีมชาติระดับโยกี้ เลิฟ ที่คว้าแชมป์โลกมาแล้ว มานั่งคุยกับเด็กอายุ 17 ปีแบบเขา ที่เพิ่งเล่นทีมชุดใหญ่บาเยิร์นได้ไม่นาน แสดงให้เห็นถึงความจริงจัง ของเยอรมัน ที่อยากใช้งานเขาจริงๆ
จุดนี้เป็นสิ่งที่ฝั่งอังกฤษไม่ได้ทำ แกเร็ธ เซาธ์เกต รู้จักกับมูเซียล่ามานานแล้ว แต่ไม่เคยนั่งคุยถึงอนาคตกันอย่างชัดเจนขนาดนี้
สถานการณ์ของมูเซียล่า ว่าง่ายๆ คือถ้าเลือกเยอรมัน เขาจะติดทีมชุดใหญ่ทันที ตั้งแต่อายุ 17-18 แต่ถ้าเลือกอังกฤษ ก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน กว่าแกเร็ธ เซาธ์เกตจะเรียกเขา เพราะดูท่าที ไม่ได้จริงจังขนาดนั้น
24 กุมภาพันธ์ 2021 มูเซียล่า จึงตัดสินใจเลือกเยอรมันในที่สุด ซึ่งมีไม่บ่อยนัก ที่นักเตะสักคนที่เล่นทีมเยาวชนอังกฤษมาตลอด ตั้งแต่ u15, u16, u17 และ u21 จะเปลี่ยนใจไปเลือกชาติอื่นแทน
มูเซียล่าอธิบายว่า "ผมมีหัวใจให้เยอรมัน และ มีหัวใจให้อังกฤษ ทั้งสองประเทศจะอยู่ในหัวใจของผมเสมอ ส่วนการเลือกครั้งนี้ ผมใช้เวลาคิดมานานมาก แต่สุดท้ายผมเชื่อความรู้สึกของตัวเอง ว่าเยอรมันจะเป็นชอยส์ที่ถูกต้อง"
"ผมใช้เวลาคิดนานมาก คิดว่าทางเลือกไหน จะทำให้ผมมีโอกาสได้เล่นมากที่สุด มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย"
เมื่อมูเซียล่าตัดสินใจแบบนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กล่าวว่า "เราอยากให้เขาเลือกอังกฤษ แต่เมื่อเขาลงซ้อมกับทีมบาเยิร์น มิวนิคทุกวัน รายล้อมด้วยผู้เล่นทีมชาติเยอรมันแบบนั้น รวมถึงมีครอบครัวที่มีสายสัมพันธ์แน่นหนากับทางนั้น มันก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะไม่เลือกเรา"
บทสรุปของมูเซียล่า คืออังกฤษพลาดเพชรเม็ดงามไป หลายคนเชื่อว่า ถ้าสมาคมฟุตบอลอังกฤษ และแกเร็ธ เซาธ์เกตเดินหน้ารุกเร็วกว่านี้ ดึงมูเซียล่ามาติดทีมชาติแต่เนิ่นๆ ก็คงได้ตัวไปแล้ว เพราะใจของนักเตะก็เอนเอียงมาทางนี้แต่แรก
จริงๆ เรื่องนี้ ถ้าเราคิดถึงมุมของมูเซียล่า ก็จะเข้าใจว่าทำไมเขาเลือกเยอรมัน
- ความจริงใจของทีมอินทรีเหล็ก มีเฮดโค้ชมานั่งคุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
- ถ้าเขาพาเยอรมันประสบความสำเร็จได้ ก็จะเป็นฮีโร่ทั้งกับบาเยิร์น และ กับทีมชาติไปพร้อมกัน สามารถทำมาหากินในเยอรมันได้ไปอีกในระยะยาว
- ถ้าเลือกอังกฤษ จะมีอะไรการันตีว่าเขาจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง เมื่อทีมสิงโตคำราม มีทั้ง บูกาโย่ ซาก้า และ ฟิล โฟเด้น ประจำปีกขวา-ซ้าย และมีแฮร์รี่ เคน ยึดตำแหน่งหน้าเป้า คำถามคือ มูเซียล่าจะไปอยู่ตรงไหนได้ อยู่เยอรมันโอกาสเป็นตัวจริงง่ายกว่า
ดังนั้นการเลือกเยอรมัน ดูจะเป็นคำตอบที่ใช่กว่า ซึ่งถ้าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ดูเหมือนมูเซียล่าจะเลือกถูก เพราะเขาติดทีมชาติลงเล่นทุกทัวร์นาเมนต์ (ยูโร 2020, บอลโลก 2022, ยูโร 2024)
คือปัจจุบันอายุแค่ 21 แต่ลงเล่นทีมชาติไปแล้ว 32 นัด แปลว่ามีโอกาสแตะหลัก 100 นัดได้สบายๆ
ตั้งแต่สมาคมฟุตบอลเยอรมันก่อตั้ง มีนักเตะติดทีมชาติเกินร้อยนัด 13 คน บางทีมูเซียล่านี่แหละ อาจเป็นคนที่ 14 ก็ได้
เรื่องที่สะท้อนให้เห็นจากเหตุการณ์นี้ คือในฟุตบอลยุคปัจจุบัน นักเตะจำนวนมาก มีหลายเชื้อชาติ หรือ หลายสัญชาติ ในตัวคนเดียว ทำให้พวกเขามีชอยส์เยอะ ว่าจะเล่นให้กับทีมชาติไหนดี
การต่อสู้นอกสนามของสมาคมฟุตบอล และของเฮดโค้ช ในการโน้มน้าวผู้เล่นพรสวรรค์ มาเล่นให้กับทีมชาติตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเดินเกมช้าจนพลาดได้ตัวเก่งๆ แล้วปล่อยเพชรเม็ดงามให้คู่แข่ง ก็มีแต่จะเสียดาย
และในเคสของจามาล มูเซียล่าครั้งนี้ เยอรมันที่อ่านเกมได้ดี ตัดสินใจรุกเร็ว ก็เป็นฝ่ายชนะในสงครามการแย่งชิงตัวครับ
#MUSIALACHOICE
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
