ซึ่งในกรณีรถ EV จากจีน คาดว่า คณะกรรมาธิการ EU จะออกมาประกาศผลการตัดสินภายใน 6 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า อัตราภาษีในอนาคตของรถ EV จากจีนน่าอยู่ระหว่าง 25-40% ภาคเอกชนของเยอรมันได้ออกมาผลักดันให้มีการคุ้มครองบริษัทในท้องถิ่นอีกด้วย
โดยนาย Karl Haeusgen ประธานสมาคมผู้สร้างเครื่องจักรและโรงงานเยอรมนี (VDMA -Verband Deutscher Maschinen- und Anlagenbau) ได้เปิดเผยต่อหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ว่า “นี่เป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ
จะปรับภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แน่นอนที่นโยบายเหล่านี่จะส่งผลโดยตรงต่อ EU
นาย Bernd Lange สังกัดพรรคสังคมนิยมเพื่อประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD – Sozialdemokratische Partei Deutschlands) ประธานคณะกรรมการด้านการค้าในรัฐสภาสหภาพยุโรปกล่าวว่า “การเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้า 100% เป็นเพียงการกีดกันทางการค้าเท่านั้น” นโยบายการแยกตัวของตลาดอเมริกาจะเพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทในยุโรปขึ้นไปอีก นาย Haeusgen ประธาน VDMA ยังเตือนด้วยว่า มีความเสี่ยงที่จีนจะเปลี่ยนเส้นทางการบุกตลาดจากสหรัฐอเมริกาไปยังยุโรปแทน
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดคือ สาเหตุที่ว่า ทำไมยุโรปจึงมีความกังวลใจมากขึ้น ในการพบปะกับนายสี จิ้น ผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนในกรุงปารีส ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นาย Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีเยอรมันและหัวหน้าพรรคสังคมนิยมเพื่อประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD – Sozialdemokratische Partei Deutschlands) พร้อมกับนาง Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป และนาย Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้กล่าวถึงปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
แต่นาย สี จิ้นผิง เพิกเฉยต่อข้อกังวลของ EU และได้กล่าวในการพบปะกับนาย Macron และนาง ฟอน von der Leyen ที่กรุงปารีสว่า ในมุมมองของจีนแล้วความสำเร็จในการส่งออกของประเทศเป็นผลมาจากความแข็งแกร่งทางด้านการแข่งขันของบริษัทในประเทศจีน ที่มีความเหนือกว่าประเทศคู่แข่ง
ประเทศจีนให้เงินสนับสนุนบริษัทในประเทศอย่างหนัก ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่สามารถรับรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสินค้าบางรายการจีนไดก้เข้ามาเป็นผู้ผลิตแทบจะเป็นผู้เดียวในโลก อย่างเช่น แผงโซล่าเชลล์ เป็นต้น ซึ่งในเวลานี้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง BYD ผู้ผลิตรถ EV
และบริษัท Mingyang ผู้ผลิตกังหันลม ผลิตไฟฟ้า ก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าจีนดำเนินนโยบายเชิงรุก ต่างกับคำพูดของนาย สี จิ้นผิง ซึ่งมีแนวโน้มที่ EU จะทยอยสร้างกำเเพงกีดกั้นสินค้าจำนวนมากจากจีนต่อไปเพื่อที่จะรักษากำลังผลิตและอุตสาหกรรมในท้องถิ่นไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด '' China shock 2.0 '' ขึ้นอีกครั้ง