1 ก.ค. เวลา 11:53 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Synopsys บริษัทออกแบบชิพ ไพ่ตายของสหรัฐในการคุมจีน

การผลิตชิพหรือ Semiconductor ขึ้นมา 1 ชิ้น มีกลุ่มบริษัทเกี่ยวข้องมากมาย แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มผู้ผลิต และกลุ่มออกแบบ โดยผู้ผลิตใหญ่ในปัจจุบันคือ TSMC ที่จะรับคำสั่งผลิตจากบริษัทผู้ออกแบบชิพทั่วโลก ไล่ตั้งแต่ Nvidia Apple หรือ AMD แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้ออกแบบชิพเหล่านี้ก็ต้องสั่งซื้อ Software การออกแบบเช่นกัน ซึ่งเรียกว่า “Electronic Design Automation (EDA)”
Software สำหรับการออกแบบชิพหรือ EDA ถือเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นสิ่งจำเป็นของการสร้างชิพรุ่นใหม่ขึ้นมา (ลองเทียบกับการออกแบบตึกสูง ถ้าไม่มี Software มาช่วยแล้วเราต้องออกแบบด้วยมือทั้งหมดผลลัพธ์มันจะยุ่งยากแค่ไหน)
โดยบริษัทที่สร้าง EDA หลักๆ มี 3 เจ้าคือ Synopsys, Cadence Design Systems และ Siemens ซึ่งทั้งสามครองส่วนแบ่งการตลาดรวมกันมากกว่า 80%
==========
#ขอTieInหน่อยครับ
Synopsys เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่เราจะไปเจาะลึกกันใน
BottomLiner Expert Series - AI Semiconductor
สมัครหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://forms.gle/e7M9XW2LcTa1obLg8
==========
Software ของแต่ละบริษัทมีความโดดเด่นต่างกันแล้วแต่รูปแบบการใช้งาน ทั้งนี้ Synopsys ถือเป็นบริษัทที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด โดยปี 2023 สร้างรายได้รวมทั้งปีที่ $5,318 ล้าน
โดยในไตรมาสล่าสุดบริษัทตัดสินใจขายธุรกิจ Software Integrity ให้กับ Clear Lake Capital และ Francisco Partners เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้ Synopsys เน้นไปที่ธุรกิจหลักอย่าง EDA และ IP ซึ่งเรื่องนี้ผมมองเป็นเรื่องบวกเลย เพราะส่วนธุรกิจนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์โตช้าแถมกำไรต่ำ ส่งผลให้รายได้จากการขาย Software และเครื่องมือสำหรับออกแบบชิพเปลี่ยนเป็นสัดส่วนมากถึง 73%
ขณะที่อีก 27% ของรายได้ มาจากการขายลิขสิทธิ์หรือ Intellectual Property (IP) ที่จำเป็นสำหรับการออกแบบและผลิตชิพ ซึ่งธุรกิจนี้กำลังเติบโตเร็วมาก เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Amazon, Alphabet, Alibaba หันมาออกแบบชิพใช้งานเองแล้ว ซึ่งเหล่า Big Tech จำเป็นต้องซื้อ IP เพื่อลัดขั้นตอนการออกแบบให้สินค้าใช้งานได้เร็วที่สุด
เมื่อไร้คู่แข่ง สหรัฐเลยใช้มันเป็นไพ่เหนือจีน !
ถ้าเราพิจารณา 3 ผู้เล่นหลักในตลาด EDA จะพบว่าทั้ง Synopsys, Cadence Design Systems และ Siemens เป็นบริษัทของสหรัฐ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐสามารถใช้มันเป็นเครื่องมือบีบคู่แข่งท้าชิงตำแหน่งผู้นำเทคโนโลยีโลกอย่างประเทศจีนได้ตรงๆ
เมื่อลองวิเคราะห์อุตสาหกรรม Semiconductor จะพบว่า เครื่องจักรในการผลิตชิพนั้นนอกเหนือจากของสหรัฐยังมีตัวทดแทนเป็นบริษัทในยุโรป และญี่ปุ่น (ASML, Tokyo Electron) ทางด้านโรงงานผลิตชิพก็มีไต้หวัน และเกาหลีใต้เป็นตัวเลือก (TSMC, Samsung) แต่ Software การออกแบบชิพนั้นถูกผูกขาดโดยประเทศสหรัฐ
ยกตัวอย่างเช่น วันที่รัฐบาลสหรัฐสั่งแบน Huawei ไม่ให้ทำธุรกิจร่วมกับบริษัทสัญชาติตัวเอง แต่ Huawei ยังสร้างชิพสำเร็จ สหรัฐจึงรู้ทันทีว่า Huawei ยังคงใช้งาน Software ออกแบบจากบริษัทของสหรัฐอยู่ จึงโดนบีบหนักขึ้นไปอีกขั้น จนล่าสุดไม่ให้บริษัททุกชาติทำธุรกิจกับ Huawei ด้วย
แม้เราจะเห็นการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรม Semiconductor ในประเทศจีน เพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติ แต่กลุ่มที่จีนจะพัฒนาทันสหรัฐเป็นอันดับท้ายๆ คือกลุ่ม Software การออกแบบชิพหรือ EDA เนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบันต่างกันเกิน 10 ปี
โดยปกติแล้วเทคโนโลยี EDA จะต้องนำหน้าการผลิตจริงถึง 2 ปีด้วย
จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณจะเห็นข่าวที่สหรัฐจะใช้กลุ่มธุรกิจนี้คอยต่อรองและบีบรัฐบาลจีนต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันบริษัทได้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี AI และการผสมผสานระหว่าง EDA และ IP ซึ่งมองว่าความต้องการในส่วนนี้ยังคงมีแนวโน้มที่สูงขึ้น และ Synopsys ก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีในการตอบสนองความต้องการนี้อีกด้วย
BottomLiner
1
โฆษณา