กว่าเราจะเข้าใจ ในการสร้างบุญกุศลทุกครั้ง ที่มีพระผู้ใหญ่ สอนให้ทำ เมื่อนำกายมาสวดมนต์ ท่านบอกให้ ไม่ให้รีบร้อน นั่งพับเพียบ นั่งกายตรงๆ หายใจลึก สำรวจตรวจสอบกายนิ่งมั้ย จิตเรามีมีอารมณ์นึกคิดอะไรทั้งนั้น
..มองดูที่หน้าอก เมื่อกายนิ่ง จิตนิ่ง..เราก็พูดให้หูเราได้ยิน จิตของข้าพเจ้า อาศัยอยู่ในเรื่อนกายของคุณบิดามารดา จิตข้าพเจ้ามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอนำกายบิดามารดา ธาตุทั้งสองของบิดามารดา พระแม่ทั้งสี่ ขันธ์ทั้งห้าวิญญาณทั้งหก ตลอดจนน้ำเลือดน้ำหนองของผู้ที่มีกรรม มาหนุนนำเรือนกายของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอนำมากราบพระสร้างบุญกุศลบารมี แล้วเราก็ค่อยๆ ยกมือขึ้นมาพนม มือซ้ายมารดา มือขวาบิดา .. แล้วเราก็ค่อยบรรจงกราบพระ ตาก็เพ่งมองดูที่มือ ไม่เคลื่อนไหวไปไหน เรากค่อนนอบน้อมกราบพระ เวลาอุทิศกุศล เราก็บอกให้หูเราได้ยิน เช่น เหมือนการกราบ บอกตัวเอง ข้าพเจ้าขอนำธาตุนะโม มากระจายบุญกุศล
..เรื่องราวเหล่านี้ เป็นเรื่องราวของคำพูดที่สูงๆ เรานำมากระทำด้วยกายวาจาใจ ให้หูของเราได้ยินเสียงของตัวเอง เพื่อเก็บบันทึก เรื่องราวดีๆ ลงไปที่ธาตุทั้งสี่ ที่จะบันทึกว่า เราได้นำกายพ่อแม่ มาสร้างบุญ เก็บไว้กับจิตของเรา ที่จะต้องเกิดมาอีก .มีธาตุนะโมดีๆ มีธาตุนะโม ที่เป็นกายมนุษย์ สามารถ นำมาสร้างบุญกุศลบารมี หนีเวรกรรมได้
เรานั้น ระลึกในครูบาอาจารย์ ที่เป็นเหมือน พ่อธรรม แม่ธรรมให้กับจิตของเรา ให้เรารู้จักกรรม ให้รู้จักธรรม เพื่อสร้างบุญกุศลบารมี หนีเวรกรรม
แล้วก็ต้องขอขอบคุณ ผู้ที่แสดงกิริยาของกรรม แสดงอารมณ์กรรม ด้วยกายวาจาใจ ให้เราดู เป็นหนังตัวอย่างให้เราดู ให้เราได้เรียนรู้จักอารมณ์กรรมตัวกระทำ เค้าเหล่านั้น ในทัศนหนึ่งก็เป็นเหมือนครู ฝึกหัด ให้เราเรียนรู้ จักกรรม ..เรียนรู้จักสิ่งที่เค้าสร้างกรรม เค้าจะต้องเจอะเจอผลของกรรมเอง เราก็ได้เรียนรู้จัก จากบุคคล ที่ห้อมล้อม ผู้ที่คล้องกรรมกันมาก เราก็ได้ เวลาสร้างบุญกุศล เราก็อุทิศเผื่อแผ่ไปให้ เผื่อไปถึงผู้ที่เข้ามาอ่าน ในเค้ามีความสุขกายสุขใจ
หากเรารู้จักว่า สิ่งที่เราทำอยู่นั้นคือ กรรม เราก็ถอยออกมา แต่เรามันไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ที่ท่านชี้ทางให้ ..มันก็เลยมีทุกข์ของจิต เวียนว่ายตายเกิด เกิดตาย..หาทางยุติการเกิดไม่ได้ ..ที่ส่วนมากคนเราก็ สนใจที่จะเรียนรู้จักทุกข์ของจิตที่ไม่มีกาย จิตต้องไปอาสังขารใหม่ ..ไม่รู้ว่าจะได้สถานที่ใด .นรกเปรตอสุรกาย หรือ บุญกุศลหนุนนำให้มีกายบุญ กายเทพยดาอินทร์พรหม
เวลาสร้างบุญกุศล เราก็พูด บอกกล่าว ขอให้คุณบิดามารดา พระแม่พระธรณี พระแม่พระคงคา พระแม่พระเพลิง พระแม่พระพาย พระแม่พระโพสพ โปรดอนุโมทนากุสลในครั้งนี้ และโปรดอโหสิกรรม และตัดกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย
นั้นก็เป็นเรื่องราวที่เราได้เรียนรู้ ที่มีพระผู้ใหญ่ ท่านแนะนำสอนให้เราทำ ..ต้องใช้เวลา แบ่งเวลาฝึกหัด กว่าจะเรียนรู้จักมาทีละขั้น ในสิ่งที่ว่า สร้างกายกรรม ให้เป็นกายบุญ แล้วก็นำกายบุญมาสร้างให้เป็นกายบารมี ที่มีเป็นขั้นเป็นตอน หากไม่พระท่านตักเตือน แนะนำสอนให้ ก็ไม่รู้ตนเอง มันจะจมอยู่กับโคลนตมอีกนานแค่ไหน ..ไม่รู้จักคำว่า กรรม ไม่รู้จักคำว่า ธรรม ไม่รู้เรื่องบุญกุศลบารมีเอาเสียเลย คงเหมือนวัวควายที่เค้าเลี้ยงอยู่ในคอก
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมสักการะบูชา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอน และพระอรหันต์สาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ตลอดจนพระอริยะเจ้า หลวงพ่อพระแก้วมรกต องค์ธรรมมิกราชา องค์พระสัตตะระมิกราชา พระยมตะ องค์เทพ พระอเสขะ พระอริยะเจ้าทุกๆพระองค์ พระสยามเทวาธิราช และผู้ที่มีหูทิพย์ตาทิพย์ ที่ท่านอนุเคราะห์สงเคราะห์
..เพื่อที่จะช่วยเหลือจิต ใหีไปเกิดทันต้น พระศรีอริยะเมตตไตรย ข้าพเจ้าของนอบน้อมสักการะบูชา (เราก็บอกกล่าวของเราไป ส่วนจะเป็นไปได้ หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของธาตุทั้งสี่ ดินฟ้าอากาศ จะนำพาไป)
ส่วนเรื่อพระคุณพ่อแม่ เราก็หมั่นระลึกอยู่เสมอ นำกายของท่านมาสร้างบุญกุศลบารมี ..
และผู้ที่ช่วยหนุนนำ ในเรื่องธรรม ที่เรานอบน้อมสักการบูชาท่าน มีหลวงตาที่เรานับถือ ท่านนำพาให้เรารู้จัก ก็เรื่องของท้าวสักกะเทวราข ที่ท่านบอกว่า อย่ามายึดถือฉันน่ะ ให้ไปหาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นบรมครูของจิตเรา ..ท่านเป็นผู้ที่มีจิตเมตตาสูงส่งมาก ..ท่านเป็นอัคระมัคคทายก ..ในการหนุนนำ ..ในเรื่องราวการสร้างบุญกุศลบารมี
หมายเหตุ ..เรื่องราวที่เขียนนี่ ความจริง ก็ไม่อยากเขียน ..มันสวนความรู้ ..ที่เราเรียนรู้กันมา ..แต่นั้นแหละ มันก็เรื่องราว ที่ท่านบอกว่า มะโนทัศนะศึกษา..อย่าไปยึด อย่าไปเชื่อ ในสิ่งที่เราเขียน . เมื่อเราปฏิบัติธรรม ไปเรื่อยๆ มันก็มีเรื่องราวต่างๆ ให้เรียนรู้มากมายก่ายกอง ..รู้แล้วก็ละ แล้วก็ปฏิบัติธรรมของเราไปเรื่อยๆ ในรอยคำว่า สร้างบุญกุศลบารมีให้แก่จิตของตัวเอง ในรอยทั้งสี่ขององค์พระสัมมาสัมพุทธะเจ้า ..
..ธัมมัง จักกะวาลัง วิมุตตญาณ ทัศนะวิสุทธิ..
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
