2 ก.ค. เวลา 11:31 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Update❗มาตรการ Uptick กับ Upside และปัญหาต่อไปของหุ้นไทย

เป็นไปตามคาดนะครับ กับมาตรการ Uptick ที่พอประกาศใช้แล้วส่งผลให้ตัวเลข Short Sell ของตลาดหุ้นไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญในทันที ดังที่พวกเราได้อธิบายให้ทุกคนเห็นภาพไปในบทความที่แล้วก่อนประกาศ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อน้ำลดก็ได้เห็นตอที่ผุดขึ้นมากับความจริงและปัญหาบางอย่างที่ตลาดหุ้นไทยกำลังจะเผชิญต่อจากนี้ โดยเฉพาะกับคนที่เล่นเก็งกำไรและ TFEX ซึ่งจะเป็นอะไร และแนวโน้มผลกระทบของหุ้นจากมาตรการนี้เป็นอย่างไร ขอเชิญทุกคนมารับรู้ได้ในบทความนี้
 
ใครที่ยังไม่อ่านบทความก่อน สามารถติดตามได้
รูปแสดงข้อมูลการ Short Sell ก่อนประกาศ Uptick และหลังประกาศ Uptick
Short Sell หายไป 80% ตามคาด และ NVDR หายไปมากที่สุด
จากรูปจะเห็นว่า ตัวเลข Short Sell ของวันที่ 1 ก.ค. ที่เป็นวันแรกของการประกาศใช้มาตรการ Uptick เหลือเพียง 1,195 ล้านบาท หรือ 3.73% เมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวมประจำวัน แต่หากเทียบกับตัวเลขของยอด Short Sell ช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมาเฉลี่ยวันละ 5,556 ล้านบาท จะคิดเป็นการลดลงถีงเกือบ 80% ! นอกจากนี้ยังพบว่าสัดส่วนของ Player ที่หายไปก็เป็นไปตามที่คาดไว้ คือ กระดาน NVDR ที่จากเดิมมีสัดส่วนประมาณ 53% ในเดือน มิ.ย. 67 เหลือเพียงกว่า 30% ในวันที่ 1 ก.ค. เท่านั้น
ซึ่งผลลัพธ์นี้แทบจะเหมือนกับการใช้ Uptick ในรอบแรกทุกประการ ดังนั้น จึงสามารถคาดการณ์ต่อได้เลยว่า “ตัวเลขการ Short Sell จะลดลงอยู่ในระดับนี้ต่อไปในทุกวันที่ในอยู่ Period ของมาตรการนี้”
 
 
ตารางแสดงหุ้นที่ถูก Short Sell ผ่าน NVDR มากที่สุดพร้อมการเปลี่ยนแปลงราคา
หุ้นกลุ่มที่โดน NVDR Short Sell เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีทันที เม่าเคาะซื้อ
มาดูหนึ่งใน Highlight ของผลกระทบจากมาตรการนี้ ซึ่งในบทความก่อนเราได้ให้ทุกคนโฟกัสกับหุ้นที่โดน -R Short Sell โจมตีอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา (ยอดสะสมเดือน มิ.ย.) และได้ Ranking 20 ลำดับออกมา ดังนั้น จึงได้ติดตามผลลัพธ์ต่อโดยจากตารางจะพบว่า “การ Short Sell ด้วยกระดาน -R แทบจะหายใปเกือบหมดในทุกตัว”
โดยจากตารางจะเห็นว่าค่าเฉลี่ยการ Short Sell ผ่าน NVDR ของหุ้น 20 ตัว ณ วันที่ 1 ก.ค. เหลือเพียง 3.32% โดยมี TPIPL เพียงตัวเดียวที่ยังคงโดน Short หนัก ทำให้เป็นเพียงหุ้น 1 ใน 4 ตัวเท่านั้นที่ปรับตัวลดลง ขณะที่อีก 10 ตัวมีการปรับตัวขึ้นสวนทางกับตลาดในวันที่ 1 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา จึงสรุปได้ว่า หุ้นตัวที่ถูก Short Sell (โดยเฉพาะกระดาน NVDR) ในช่วงก่อนหน้า มีแนวโน้มปรับตัวได้ดีกว่าตลาด ดังนั้น หากใครที่คิดว่ารอบนี้จะเป็นขาขึ้นก็สามารถใช้ Logic นี้ในการคัดกรองเลือกหุ้นที่จะซื้อได้
รูปแสดงปริมาณการซื้อขายสุทธิตลาดหุ้นไทยของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ในวันที่ 1 ก.ค. 67
ต่างชาติกลับมาซื้อหลังขายติดต่อกันมากสุดเป็นประวัติการณ์ เจ้าหอบเงิน
อันนี้ก็เป็นไปตามที่คาดอีกเช่นกันกับผลกระทบทางอ้อมที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตลาดอย่างเรื่องของ Fund Flow โดยนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อหุ้นเป็นครั้งแรก หลังขายติดต่อกันตลอด 27 วันทำการที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขายติดต่อกันนานที่สุดแซงช่วงวิกฤตซัพไพร์มที่เคยทำไว้ที่ 26 วันทำการ รวมถึงตัวเลข Long สุทธิใน SET50 Futures พร้อมกันแบบที่ไม่ได้เห็นมานาน นับเป็นเรื่องดีที่ส่งผลต่อกำลังใจของนักลงทุนในประเทศ
ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าการ Short Sell ที่น้อยลงตลอดช่วงนี้ จะไปช่วยลดยอดการขายสุทธิของกลุ่มรายใหญ่ จนกลายเป็นตัวเลขซื้อสุทธิสีเขียวต่อเนื่องให้นักลงทุนได้มั่นใจกันในระยะยาวหรือไม่ ?
 
รูปแสดงตัวเลขการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (พ.ค. - มิ.ย. 67)
แต่มีปัญหาที่อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามเข้ามา
อันที่จริงหลายท่านเองก็คาดไว้อยู่แล้ว ว่ามาตรการบรรเทาการ Short Sell นี้อาจช่วยยับยั้งธุรกรรม Short Sell ได้จริง แต่มันก็ไม่ใช่ปัจจัยบวกที่จะทำให้ตลาดเป็นขาขึ้น รวมถึงยังส่งผลกระทบบางอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อแนวโน้มการลงทุน โดยสัญญาณแรก คือ ปริมาณการซื้อขายที่หดหายไป เหลือเพียงไม่ถึง 3 หมื่นล้านบาท ต่ำที่สุดในรอบ 52 วันทำการ ทำให้รู้ว่าที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยถูกซื้อ-ขายกันด้วยการ Short Sell แล้วก็ Cover กลับอยู่เยอะพอสมควร
ดังนั้น พอธุรกรรมนี้ถูกสกลัดกั้น จึงทำให้ตัวเลขมูลค่าซื้อขายเหือดแห้ง และที่สำคัญมันจะไปมีผลต่อพฤติกรรมความผันผวนที่ลดลงด้วย ทำให้นักเก็งกำไรระยะสั้นหรือคนเล่น TFEX อาจได้เห็นรอบการเคลื่อนไหวภายในวันที่น้อยลง รวมไปถึงในระยะยาวที่ไร้ทั้งปัจจัยบวก ขณะเดียวกันก็ทุบลงได้ยากกว่าเดิม จนสุดท้ายอาจกลายเป็นเหตุการณ์ Sideway ยาวนานอย่างตอนปี 2017 ที่นักเก็งกำไรทั้งหลายไม่อยากให้ปรากฏ
สรุปแล้วการใช้ Uptick ส่งผลให้ตัวเลขการ Short Sell ลดลงจริงและจะอยู่ในระดับต่ำแบบนี้ตลอดช่วงของมาตรการ โดยที่หุ้นที่เคยถูก Short Sell หนักมีแนวโน้มดีกว่าตลาด และธุรกรรมนี้ก็ส่งผลทางอ้อมต่อยอดการซื้อ-ขายของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยให้ตลาดขึ้น โดยคงต้องขึ้นอยู่กับนักลงทุนรายใหญ่ “ที่พวกเขาเองก็มีอีกหลายวิธีนอกเหนือจากการ Short Sell ที่จะใช้ทำให้ตลาดหุ้นลง เช่น การเอาหุ้นจากแหล่งอื่น ๆ ที่รู้จักมาขายโดยไม่ผ่าน Short Sell เป็นต้น”
และสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อมา คือ วอลุ่มและความผันผวนที่มีแนวโน้มลดลง โดยเราเองก็คาดหวังให้เจ้ามือใช้โอกาสนี้ในการลากหุ้นเพื่อสร้างโอกาสทำกำไรจากเทรนใหญ่สวนกับที่วิเคราะห์
รูปแสดงตัวอย่าง Live Trade For Future
สุดท้ายนี้ พวกเราเองก็ขออยู่ฝั่งคนที่ไม่ยังไม่หมดหวัง และพยายามหาทางเอาชนะตลาดหุ้นไทยต่อ โดยขอลองทำ Challenge ที่ท้าทายที่สุดกับการ ”live Trade TFEX” เป็นเวลา 1 ปี (Update 2 วันกำไรอยู่เล็กน้อย) โดยหวังว่าผลลัพธ์มันจะประสบความสำเร็จและเราจะนำความรู้ส่งต่อให้กับนักลงทุนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ฝากเป็นกำลังใจด้วยนะครับ โดยกำไรทั้งหมดจะนำไปบริจาคและตอบแทนคืนให้กับทุกคนที่ติดตาม และหากถ้ามีข้อมูลตลาดหุ้นที่น่าสนใจ เราจะจัดทำมันออกมาเผยแพร่ให้กับทุกท่านต่อ ๆ ไป ขอบคุณมากครับ
📣 "โปรลับค่าคอมลด 80%" ‼️ สำหรับสมาชิกคนพิเศษ
📍 เราให้ได้มากกว่า แค่คำว่า...”ค่าคอมถูก”
ง่ายๆ แค่คลิก👇🏻link แล้วกรอกข้อมูล📄
💬 สามารถพูดคุย สอบถาม หรือร่วมแชร์ข้อมูลกับเราได้ ในห้อง Line Open Chat “TFEX For Future”
👇🏻 คลิก link เข้ากลุ่มได้
โฆษณา