3 ก.ค. เวลา 08:05 • ความคิดเห็น
เรื่องจานบิน เคยเห็นอยู่ครั้งเดียว บินมาสองลำคู่กัน ตอนช่วงเช้า เวลาแสงเงินแสงทอง ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น บินมาคู่กัน แล้วก็หักมุม ลงไปในทะเล ไม่ไกลจากเรือที่กำลังแล่นอยู่
..อ้อ ..ยังมีอีกอย่างหนึ่ง มาให้เห็น ..เค้ามาโผล่ืจากที่ยืนถือพังงาเรือ ..มองตาแป๋ว หน้าตาแปลกตาเหมือนแมว สีออกเหลือง หูเหมือนค้างคาว ..มาให้ดูยามห้าทุ่ม .ต่างคนต่างมอง ..เราก็คุยกับน้องๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่ส่นใจ ..ตอนหลังก็ไปถามพระที่เรานั้นถือ ท่านบอกนั้นเค้าเรียกว่า ปีศาจทะเล มีมากมาย ..แต่ครั้งนั้นก็แปลก พอเรือเข้าท่า ปรากฏว่า เจอหางเสือร้าว (เรื่องพวกนี้ ..เวลาเอาไปเล่าให้ใครหัง เค้าว่าบ้าเอา)
เรื่องมนุษย์ต่างดาว นั่น เค้าเป็นมิติหนึ่ง เหมือนเรื่ิองราวคนธรรพ์ คนลับแล ที่ก็เป็นมิติที่อยู่ใกล้เรา แต่เราก็ไม่สามารถเห็นเค้าได้ เช่นเค้าว่า ภูเขาบริเวณนี้มีคนธรรพ์ คนลับแลอยู่ เราก็เห็นแต่ต้นไม้ภูเขา แต่ในความเป็นจริง คนธรรพ์เค้าก็อยู่ที่บริเวณเขา แต่ไม่มีต้นไม้ภูเขาสำหรับคนธรรพ์ ..เราเคยไปทำบุญสวดมนต์ เห็นเป็นภาพเหมือนคนนั่งในภูเขา เป็นเหมือนนั่งในห้องกระจก ..ตอนเราเราก็มาถามพระในเรื่องเหล่านี้ ที่มันเป็นมิติซ้อนกันอยู่
เราเคยยืน..ทำอะไรหน้าที่ทำงาน ก็เห็นเป็นเงาโปร่งแสง เคลือนผ่าตัวเราไป ..เราก็ถามพระท่าน ว่าเป็นอะไร ท่านบอกว่า นั่นเป็นชีปะขาว เค้าผ่านมา เค้ารู้จักเรา(แต่เร่ไม่รู้จักเค้า) ท่านบอกว่า เค้าผ่านมาเห็นเรา ก็เลยเข้ามาเยี่ยม (มาเยี่ยมยังไงไม่ได้คุยกัน)
เรื่องมิติต่างดาว นั้นเค้าก็คล้ายคนธรรพ์ ไปไหนมาไหนได้ เค้าเหมือนมีหูทิพย์ตาทิพย์ คล้ายอย่างนั้น ที่เคยเห็น เพราะอธิษฐานขอให้ดู .ตัวเค้าหน้ากลมเหมือนพระจันทร์เต็มดวง เห็นเป็นเงาๆโปร่งใส ลอยอยู่ในอากาศ กายมนุษย์วิญญาณทั้งหก มันหยาบไม่สามารถจะไปรับรู้หรือเห็นเค้าได้
เคยคุยกับพระ ..ท่านบอกว่า ที่เค้าปฏิบัติธรรมกันดีๆ สร้างบุญกุศลดี มีแสงรัตนะเกิดขึ้น ที่สว่างไสวไปไกล เค้าก็มาดู มาเรียนรู้ว่า มนุษย์เค้าทำอย่างไร จึงเกิดแสงนั้นได้ ที่มาจากดาวมฤตยูก็มี เค้าเป็นเหมือนเรื่ิงภพภูมิหนึ่ง ที่เราเคยได้ยินได้ฟัง ในคำว่า สี่ชมพูทวีป สที่พระพุทธเจ้าท่านเคยตรัสไว้ เค้าต้องมาเกิดในโลก อาศัยกายมนุษย์ เพื่อสร้างบุญกุศลบารมีเหมือนกัน
เรื่องข้อจำกัด ภพภูมิ ที่เป็นมิติ ของโลกมนุษย์ .ก็ทำให้ไม่สามารถเข้าไปถึงในเรื่องเหล่านี้ เพราะมันเป็นเรื่องมิติที่เป็นนามธรรม มันเรื่องหนึ่ง ที่เค้าสามารถที่จะเรียนรู้จักขึ้นมาได้ เรื่องราวของจิต ที่ทำให้จิตนั้นเป็นจิต ไม่มีกาย ..หรือ เรื่องราวของจิตที่สามารถทำกายนั้น เป็นกายแก้ว กายที่บริสุทธิ์ ทั้งกายทั้งจิตสะอาดสะอ้านบริสุทธิ์ ทั้งหมดเป็นธรรม (เราก็จดจำพระท่านมาอีกทีหนึ่ง.น่ะ ..แต่ก็ไม่รู้ว่า จริงนั้นเป็นอย่างไร เพราะทำไม่ได้ ทำไปไม่ถึง ได้แต่ฟังมา รู้เพียงเงา..ไม่รู้จริงน่ะ)
โฆษณา