3 ก.ค. เวลา 10:48 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

How scientists could now use your surname to catch serial killers

นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้นามสกุลของคุณเพื่อจับฆาตกรต่อเนื่องได้อย่างไร
การปฏิวัติดีเอ็นเอกำลังจะไขคดีทั่วโลก
เป็นเวลาเกือบสี่ปีแล้วนับตั้งแต่ ดีแอนเจโล Joseph James DeAngelo ฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันผู้โด่งดัง ที่รู้จักกันในชื่อ นักฆ่าแห่งโกลเด้นสเตท ถูกตัดสินว่ามีความผิด ในคดีอาญา ทั้งข่มขืน และฆาตกรรม เมื่อเกิดคดีเช่นนี้ขึ้นมา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในการแก้ปัญหาอาชญากรรม นี่คือยุคของ นิติพันธุศาสตร์เครือญาติ Forensic Investigative Genetic Genealogy ชื่อย่อว่า เอฟไอจีจี FIGG
การตรวจดีเอ็นเอ ถูกนำมาใช้เพื่อจับคู่ระหว่างอาชญากรรมกับอาชญากรมานานหลายทศวรรษ แต่เมื่อตำรวจขาดผู้ต้องสงสัยในการตรวจตัวอย่าง ดีเอ็นเอ คดีต่างๆ ก็อาจปิดไม่ลง ทำให้ เอฟไอจีจี เข้ามามีบทบาทในส่วนนี้
“การใช้ฐานข้อมูลของ ดีเอ็นเอ จะช่วยให้คุณค้นหาบุคคลที่เป็นญาติทางพันธุกรรมของดีเอ็นเอที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุได้” คิง Turi King กล่าวกับ บีบีซี ไซเอนซ์ โฟกัส BBC Science Focus ในงานเทศกาลวิทยาศาสตร์เมืองเชลต์นัม
“เมื่อคุณได้ดูในฐานข้อมูล คุณจะเห็นว่า มีคนในฐานข้อมูลมี ดีเอ็นเอจำนวนหนึ่งที่คล้ายกันกับดีเอ็นเอผู้กระทำผิดกฏหมาย บางทีพวกเขาเหล่านั้น อาจเป็นลูกพี่ลูกน้องคนที่สอง หรือคนที่สาม หรือเป็นอะไรสักอย่างกับผู้กระทำผิด แล้วคุณอาจถามว่า เอาล่ะ ใครคือปู่ย่าตายายของพวกเขา'”
คิง อธิบายว่า ตำรวจและผู้เชี่ยวชาญ ได้เริ่มสร้างแผนผังลำดับเครือญาติ หรือแผนภาพเพดีกรี จากการจับคู่ ดีเอ็นเอ จะเทียบดูไปเรื่อยๆ จนกว่าพวกเขา จะพบคนที่อาจก่ออาชญากรรม หากว่ามีใครสืบเชื้อสายมาจากแผนผังลำดับเครือญาติที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานที่ก่ออาชญากรรม หรือตรงกับหลักฐานอื่น เช่น คำให้การของพยาน หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ก็จะถือว่าพวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยได้
สำหรับ ดีแอนเจโลนั้น เขาเป็นอดีตตำรวจ เขาได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงระหว่างปี 1974 ถึงปี 1986 เขาถูกจับได้เมื่อนักลำดับวงศ์ตระกูล ได้อัปโหลดผลของการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ ที่ได้มาจากสถานที่เกิดเหตุ ไปยังเว็บไซต์ที่ให้บริการออนไลน์ เพื่อไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่มีอยู่ในฐานข้อมูลออนไลน์ ซึ่งเว็บไซต์นั้น มีชื่อว่า เก็ดแมทช์ GEDmatch
ทันใดนั้นเอง หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ก็หันมาใช้บริการที่ประชาชนใช้ เพื่อที่จะค้นหาญาติที่หายไปนานเพื่อจับฆาตกรต่อเนื่อง พวกเขาติดตาม ดีแอนเจโล โดยเอาดีเอ็นเอบางส่วนของเขาจากที่เกิดเหตุ และช่วยให้จับกุมเขาได้ในเดือนเมษายน 2018 และเขาถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ในเดือนสิงหาคม 2020
นับตั้งแต่การจับกุม ดีแอนเจโลเป็นต้นมา มีคดีจำนวนมากกว่า 500 คดี ที่ได้รับการสะสางโดยใช้ เอฟไอจีจี เมื่อผู้คนพากันอัปโหลดข้อมูล ดีเอ็นเอ ของตน ขึ้นไปเก็บไว้ที่ฐานข้อมูลออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสในการใช้ข้อมูลดีเอ็นเอเพื่อจับฆาตกร ก็เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา
เห็นได้ชัดว่า มีข้อพิจารณาด้านจริยธรรมที่ค่อนข้างจะสำคัญ จากการใช้โอกาสของข้อมูลดีเอ็นเอสาธารณะเพื่อจับ และดำเนินคดีกับอาชญากร
สำหรับ คิง สิ่งสำคัญคือ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของดีเอ็นเอ เพราะผู้คนย่อมจะรู้ว่าโปรไฟล์ ดีเอ็นเอ ของตน สามารถนำมาใช้ในลักษณะนี้ได้ และควรจะมีการใช้มาตรการป้องกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูล
“ถ้าฉันมีระบบของฐานข้อมูล และข้อมูลในฐานข้อมูลสามารถช่วยนำตำรวจไปหาใครก็ตามที่เป็นฆาตกร ซึ่งอาจก่อคดีขึ้นอีกครั้ง นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ ที่จะต้องทำ” เธอกล่าว
“แต่ฉันเห็นได้ว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน มีหลายคดีที่การตรวจดีเอ็นเอ ได้นำพาตำรวจ ไปพบบุคคลหนึ่งที่มีชื่อในทะเบียนประวัติของตำรวจ ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่กระทำความผิด ย่อมจะรู้ว่าผู้ที่กำลังมาหาตัวเองเป็นใคร”
“และในขณะที่บุคคลนี้เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ที่พวกเขาอัปโหลดข้อมูลดีเอ็นเอของพวกเขาเข้าฐานข้อมูลออนไลน์ แต่คุณไม่รู้ว่าผู้ที่กระทำผิด จะทำอะไรกับข้อมูลนั้น ดังนั้นคุณคงเข้าใจได้ว่า ผู้คนอาจจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เล็กน้อย”
ทั้งหมดนี้นำไปสู่ที่ไหน
นอกเหนือจากการพิจารณาด้านจริยธรรมแล้ว คิง มั่นใจว่า เอฟไอจีจี มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขอาชญากรรมร้ายแรงในอนาคต สำหรับคดีที่ยังปิดไม่ลงที่ยังค้างคาจำนวนมากทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา
แต่เราควรหยุดอยู่แค่นั้นกับเทคนิคดีเอ็นเอหรือไม่ หรือรหัสพันธุกรรมของเรา สามารถช่วยต่อสู้กับอาชญากรรมด้วยวิธีอื่นได้หรือไม่
ตัวอย่างที่น่าสนใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงสมมุติฐานก็ตาม ตัวอย่างที่ คิง กล่าวถึง คือการใช้นามสกุลเพื่อจะช่วยต่อสู้กับอาชญากรรม
เธออธิบายว่า เครื่องหมายทางพันธุกรรมบนโครโมโซม วาย Y ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าทารกในครรภ์เป็นผู้ชาย จะถ่ายทอดมาผ่านเพศชาย ดังนั้น คุณสามารถจะติดตามประวัติครอบครัวของผู้ชายได้ โดยติดตาม โครโมโซม วาย ประเภทเดียวกัน
แม้ว่าจะไม่ได้แม่นยำเหมือนกับดีเอ็นเอ แต่นามสกุลก็มีรูปแบบคล้ายกับโครโมโซม วาย เพราะนามสกุลมักจะสืบทอดมาจากผู้ชาย อาจมีการเชื่อมโยงระหว่างทั้งนามสกุลและโครโมโซม วาย หรือไม่
ปรากฎว่า ใช่ แม้ว่านามสกุลบางนามสกุล เช่น สมิธ Smith หรือ โจนส์ Jones จะพบได้มากจนเป็นเรื่องปกติ แต่ คิง อธิบายว่า จำนวน 'ผู้สืบเชื้อสายนามสกุลมา' โดยเฉลี่ยต่อนามสกุลในสหราชอาณาจักรนั้นอยู่ที่ประมาณ 70 เท่านั้น เมื่อคุณดูข้อมูล ดังนั้นจึงเป็นไปได้ ที่จะจับคู่ประเภทโครโมโซม วายที่เหมือนกัน เข้ากับนามสกุลของผู้คน
“คุณสามารถไปยังที่เกิดเหตุและเลือกโครโมโซม วาย ชนิดหนึ่ง ใส่ไว้ในฐานข้อมูล และคาดเดานามสกุลที่เป็นไปได้” คิง อธิบาย “หากคุณได้รับนามสกุลของใครบางคนที่อยู่ในรายชื่อผู้ต้องสงสัยของคุณแล้ว และมันเป็นนามสกุลที่ค่อนข้างแปลก คุณสามารถจะซักประวัติของพวกเขาก่อน และค่อยทำการตรวจ ดีเอ็นเอ แบบมาตรฐานต่อไป
“มันจะเป็นวิธีการจำกัดอาชญากรของคุณให้แคบลง มันไม่ใช่ว่าจะเป็นหลักฐาน แต่เป็นในเชิงสืบสวน” เธอกล่าว
คาดว่าเทคนิคนี้ สามารถใช้เพื่อแก้ปัญหาคดีข่มขืน หรือฆาตกรรม ได้ประมาณ 70 คดีต่อปี
และเราจะได้เข้าห้องสอบสวนเพราะนามสกุลของเราเร็วๆ นี้หรือไม่
ยังหรอก คิง กล่าว “มันเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ และเป็นไปได้ แต่ก็ยากที่จะนำไปใช้ เพราะคุณต้องการฐานข้อมูลสำหรับเก็บที่มีขนาดใหญ่มาก”
ผู้เขียน : Tom Howarth
แปลไทยโดย : Wichai Purisa (senior scientist)
โฆษณา