8 ก.ค. เวลา 03:00 • ยานยนต์

ฮุนได-แอลจี เปิดโรงงานแบตเตอรี่ EV แห่งแรกในอินโดนีเซีย

ฮุนได มอเตอร์ และ แอลจี เอเนอร์จี โซลูชัน สองบริษัทชั้นนำจากเกาหลีใต้ เปิดตัวโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกของอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิต 10 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ต่อปี โดยอินโดนีเซียเป็นแหล่งแร่นิกเกิลและทองแดงที่มีความอุดมสมบูรณ์
อินโดนีเซีย 3 กรกฎาคม 2567 รอยเตอร์เผย บริษัท ฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป และ แอลจี เอเนอร์จี โซลูชั่น (LGES) จากเกาหลีใต้ ได้เปิดตัวโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกของอินโดนีเซีย อย่างเป็นทางการ โดยโรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตแบตเตอรี่เซลล์ 10 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ต่อปี
โรงงานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่าสูงสุด 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของฮุนได มอเตอร์ และ แอลจี เอเนอร์จี โซลูชั่น ในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อพัฒนาห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้า โดยอาศัยทรัพยากรแร่ธาตุที่อุดมไปด้วยนิกเกิลและทองแดงของประเทศ
“ทรัพยากรแร่ธาตุของประเทศอินโดนีเซีย เช่น เหล็กและนิกเกิล เป็นส่วนประกอบสำคัญในแบตเตอรี่ที่จะขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าหลายล้านคันทั่วโลก” Euisun Chung ประธานกรรมการบริหารของฮุนได มอเตอร์ กล่าวในพิธีเปิดโรงงาน
โรงงานแห่งนี้ยังบูรณาการเข้ากับโรงงานประกอบรถยนต์ของฮุนได โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเริ่มผลิต Kona Electric รถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้าจำนวน 50,000 คันต่อปี ซึ่งจะใช้แบตเตอรี่ที่ผลิตในอินโดนีเซีย
ฮุนได และ แอลจี เอเนอร์จี โซลูชัน กำลังเตรียมที่จะพัฒนาโรงงานผลิตแบตเตอรี่เฟส 2 ซึ่งจะใช้งบประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20 GWh
ทั้งสองบริษัทได้ประกาศในปี 2564 ว่าได้ลงทุน 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่ที่จังหวัดเวสต์ชวา ซึ่งมีกำลังการผลิตเพียงพอที่จะผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่า 150,000 คันต่อปี
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้จะช่วยยกตำแหน่งที่สำคัญของอินโดนีเซียในห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก เนื่องจากจะช่วยสร้างอุตสาหกรรมการแปรรูปภายในประเทศ
“นี่คือโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถเอาชนะการแข่งขันนี้กับประเทศอื่น ๆ ได้ เพราะนิกเกิล บอกไซต์ และทองแดง มีอยู่ที่นี่” ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด
อินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตนิกเกิลรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ประกาศห้ามส่งออกนิกเกิลดิบในปี 2563 เพื่อส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมการแปรรูปนิกเกิลภายในประเทศ
อ่านข่าวและบทความอื่น ๆ ได้ที่ https://www.mreport.co.th/?utm_source=bd
ติดตาม M Report ได้ที่
LINE Official : https://bit.ly/357ySYm
โฆษณา