วิเคราะห์ (มโน) Music Video "Not Like Us"
เมื่อเวลา 6 โมงเช้าในบ้านเราที่ผ่านมา ในที่สุด Kendrick Lamar ก็ได้ปล่อย Music Video เพลงดิสที่ทำให้ทุกคนได้โยกไปพร้อมกับด่า Drake ไปด้วย กับเพลง "Not Like Us"
โดย Kendrick ได้มีการประกาศว่าจะถ่าย MV ในรูปแบบ Outdoor ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 22-23 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากจัดคอนเสิร์ต "The Pop Out" ที่จัดขึ้นในวัน Juneteenth (19 มิถุนายน) ที่ได้พาพวกพี่ๆน้องๆ ทั้งในวงการเพลงและนอกวงการเพลง หรือรวมถึงตำนานจากชายฝั่งตะวันตกจากแวดวงต่างๆ ขึ้นมาแสดงบนเวที แสดงถึงการ Support ต่อฝั่ง West Coast ของ Kendrick เช่น การเลือกใช้ Dancer ที่มาจาก Compton บ้านเกิดของ Kendrick หรือการนำ DJ Hed และ Mustard ซึ่งเป็น DJ จาก LA มาเปิดหัวให้ หรือการเชิญ Dr.Dre มาเล่น
Music Video นี้กำกับโดย Dave Free และ ตัว Kendrick เอง ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้ Drake ดูดิสพลาดแล้ว เพราะไปดิสว่า "Dave Free น่าจะเป็นพ่อของลูกของ Kendrick" ถึงแม้จะใช้คำว่า "Might Be" แต่ก็เหมือนตะโกนว่า "ใช่" อยู่ดี แถมยังใช้คอมเมนต์ของ Dave Free ที่ไปส่งหัวใจให้ Whitney ภรรยาของ Kendrick ใน IG มาเป็นปกเพลง The Heart Part 6 อีก กะจะให้คนเชื่อว่า นี่คือเรื่องจริง แต่สุดท้ายคนก็มองข้ามเรื่องปกไปเลย
I heard that one of 'em little kids might be Dave Free
กูได้ยินมาว่าลูกมึงสักคนเนี่ยแหละ เป็นลูกของ Dave Free
Dave leaving heart emojis underneath pics of the child
Speakin' of anything with a child, let's get to that now
Dave Free ไปเม้นหัวใจใต้รูปของลูกมึง งั้นถ้าจะเริ่มพูดอะไรเกี่ยวกับลูกคนอื่นเนี่ย ควรเริ่มพูดเรื่องลูกของมึงก่อน
โดย MV นี้ถูกปล่อยในวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งก็คือวันชาติของอเมริกา นับว่าปล่อยได้ถูกวันจริงๆ เพราะเพิ่งเห็น Drake ฉลองวันชาติของแคนาดาไปหมาดๆ
บ่นก่อนเข้าเรื่อง : ผมว่า Dave Free เป็นคนนึงที่มีลายเซ็นในงานตัวเองที่ชัดมากๆ ยกตัวอย่างเช่น Family Ties, N95, HUMBLE. เน้นให้เห็นบรรยากาศรอบข้าง ออกกว้าง แต่ก็มีการเน้นคนเหมือนกัน มีความ aesthetic ในรูปแบบของตัวเอง ออกแคบ เน้นโทนน้ำตาล, ขาว ภาพดูเข้มๆ earth tone มั้ง (อันนี้พูดไม่ถูกจริงๆ แต่ผมดูออกจริงนะ) และ MV ที่กำกับโดยพี่แก มักจะใส่ Details เล็กๆน้อยๆ อยู่เสมอ
- "Tease เพลงใหม่"
เริ่มต้นด้วยการเปิด Snippet 18 วินาทีของเพลงใหม่ (ที่ชะตากรรมอาจจะเหมือนเพลงที่อยู่ใน Music Video เพลง Alright นั่นก็คือไม่ปล่อยอ่ะแหละ) แต่ก็มีท่อนที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
I am reincarnated, I was stargazing
Life goes on, Honey, All my babies
กูกลับมาเกิดใหม่ กูเคยใช้ชีวิตที่ผิดพลาด แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป กับคนที่รักและลูกๆ
โดยรวมๆพูดถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีที่เคยทำ และเขาก็พร้อมที่จะเกิดใหม่หรือเป็นคนใหม่เพื่อได้ใช้ชีวิตต่อกับภรรยาและลูกๆ
- "Tommy The Clown & Therapy Session"
เปิดฉากด้วย Kendrick ไปเคาะช่อง และเป็น Tommy The Clown มาเปิดรับ พร้อมรหัสลับ "I see dead people" โดย Tommy The Clown ได้ปรากฎตัวอีกครั้ง หลังจากไปโผล่ใน The Pop Out และใน MV นี้ เขามาในฐานะหัวหน้าการบำบัด พร้อมกับฉากที่คล้ายห้องบำบัดหมู่ หรือ Group Therapy และในห้องนั้นก็มี Dancer ที่มาจาก LA (น่าจะชุดเดียวกันกับในงาน The Pop Out)
ซึ่งการบำบัดนี้ ดันไปคล้ายกับ Theme ของอัลบั้มปี 2022 ที่ปล่อยออกมา นั่นคือ "Mr.Morale and The Big Steppers" ที่มีการ Narrate หรือดำเนินเรื่องโดยการให้ Kendrick ไปหานักบำบัด (Eckhart Tolle) เพราะตัวเขามีอาการหรือปมต่างๆอยู่มาก
และในฉากนี้ มีเก้าอี้ทั้งหมด 12 ตัว แต่เหลือเก้าอี้ว่างไว้ตัวนึง ถ้า Tommy The Clown เป็นหัวหน้าการบำบัด นั่นหมายความว่า เขาอาจจะไม่ต้องนั่งตรงนั้น แล้วตรงนั้นคือที่สำหรับใคร?
และฉากยื่นคัมภีร์ Bible ก็เป็นการล้อกับเนื้อเพลง
Beat your ass and hide the Bible if God watchin'
กระทืบมึงและเอา Bible แอบไว้ถ้าพระเจ้ากำลังดูเราอยู่
- "ฉากมืดๆ"
จะเป็นฉากที่มีคน 3 คน นั่นคือ 1.Kendrick 2.คนที่ใส่หมวก Compton และ 3.คือคนที่จะลอบฆ่า Kendrick ซึ่งคล้าย Drake ในปกอัลบั้ม "Dark Lame Demo Tape" ซึ่งก็โดนลากออกไป เหลือแต่ Kendrick กับคนที่ใส่หมวก Compton ซึ่งจะสื่อถึงว่า "ถึงแม้จะจ้างคนมาฆ่ากูแค่ไหน กูก็รอดอยู่ดี พร้อมกับคนในเมืองบ้านเกิดกู" และฉากนี้ก็จะล้อไปถึง Music Video เพลง "Family Matters" ของ Drake ที่เป็น Beat Switch แรก (ตั้งแต่ 2:40 ถึง 5:15) ที่เป็นฉากโทนนี้เหมือนๆกัน
- "ฉากที่วิดพื้นพร้อมกับการ Split วิดีโอเป็น 2 ฝั่ง"
กลับมาฉากขาวอีกรอบ คราวนี้ เราจะเห็น Kendrick กำลังวิดพื้น และหลังจากนั้นฉากก็เริ่ม Split แบ่งเป็น 2 ฝั่ง/ข้าง ข้างบนเป็นภาพที่กำลังวิดพื้นอยู่ และข้างล่างคือภาพที่กำลังนั่งตรงปลายเตียง ซึ่งแน่นอน ฉากบนคือกำลังวิดพื้น คือการล้อกลับถึงเพลง "Push Ups" ของ Drake ที่ปล่อยออกมา ซึ่งก็ล้อมาจากที่ Kendrick มีคลิปที่ออกกำลังกายแบบวิดพื้นออกมาเหมือนกัน Drake ก็เลยเอามาเล่นเลย Kendrick ก็เลยเอากลับมาเล่นมั่ง
และข้างล่าง จะเป็นฉากที่ทำนิ้วเป็นรูปตัว L ซึ่งก็ไปล้อกับคลิปที่ Drake ไปเต้น tiktok กับ "เด็ก"
(search ใน tiktok ก็ได้ครับ "drake in the club with my twin")
และการ Split ฉากเป็น 2 อาจจะเป็นการล้อไปถึงเพลง "Push Ups" ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
The way you doin' splits, b****, your pants might rip
- "ฉากล่อตี Pinata"
จริงๆแล้ว ภาพของฉากนี้ ถูกปล่อยหลุดออกมาก่อนที่ MV จะปล่อยออกมา คนก็เริ่มคิดไปต่างๆนาๆว่า "นั่นหน้าใคร" ซึ่งผมก็ไม่กล้าตี 100 เปอร์ ว่าเป็น Drake เพราะผมก็ดูไม่ออก แต่พอเห็น Disclaimer ก็เริ่มกระจ่าง
DISCLAIMER
NO OVHOES WERE HARMED DURING
THE MAKING OF THIS VIDEO.
คำเตือน : ไม่มีลูกหรี่ OVO คนไหนได้รับบาดเจ็บในระหว่างการถ่ายทำครั้งนี้
อาจจะไม่ใช่ Drake จริงๆ ก็ได้ แต่ทรงผมก็เหมือนอยู่ แต่คำเตือนก็... นั่นแหละ และพี่ dot ก็ตีแรงจังเลย
แต่ฉากนี้ก็ทำให้ผมนึกย้อนไปถึง MV เพลง ELEMENT. ที่ก็มีตีหรือตบอย่างนี้แหละ แบบฉากกับโทนสีมันให้
- "A-MINORRRRRRRRRRRRRRRRRRR"
หลังจากนั้นจะได้ยินคนตะโกนท่อน punchline ที่หนักที่สุดของเพลง เป็นท่อนด่าที่ทำให้ทุกคนร้องและตะโกนออกมาได้
Tryna strike a chord and it's probably A-Minor
และก็ซูมออกมา เราจะเห็นเป็นตารางตัวเลข 1-10 ซึ่งเป็นเกมที่ชื่อว่า "Hotscotch" หรือ "ตั้งเต" ในบ้านเรานั่นเอง ซึ่งเกมนี้คือ การละเล่นของ "เด็ก"
ที่ช่วยฝึกการทรงตัว การควบคุมกล้ามเนื้อ ได้ออกกำลังกาย ซึ่งก็น่าจะล้อ Drake ด้วยว่า "ออกกำลังกายบ้างนะ ถ้าอยากสร้างกล้ามอ่ะ อย่าริหาทางลัด" ตามที่กล่าวใน meet the grahams
Even if it don't benefit your goals, do some push-ups, get some discipline
Don't cut them corners like your daddy did, f*** what Ozempic did
Don't pay to play with them Brazilians, get a gym membership
และในฉากนี้ ก็ได้ไปถ่ายที่ "Compton Courthouse" พร้อมกับแฟนคลับที่รับชมอยู่มากมาย และ Kendrick ก็ได้กลับมาถ่าย ณ สถานที่นี้อีกครั้ง ในปี 2009 Kendrick ก็เคยมาถ่าย MV ที่นี่เหมือนกัน (Compton State Of Mind)
Since 2009, I had this b**** jumpin'
และบางฉากก็ทำให้นึกถึง MV เพลง "King Kunta" เหมือนกัน ที่เป็นฉากถ่ายไหลไปโดยมีฉากหลังเป็นผู้คน
- ฉาก Container ที่ Contain ไปด้วยคนที่ถูกกล่าวถึงใน Beef นี้
I'm glad DeRoz' came home, y'all didn't deserve him neither
กูดีใจนะที่ Demar Derozan ได้กลับบ้าน พวกมึงไม่สมควรได้เขาไปเลย
Context : Demar Derozan คือนักบาสเกตบอล เกิดที่ Compton, CA ในปี 2009 ได้ถูกดราฟท์เข้าไปอยู่กับทีม Toronto Raptors ในแคนาดา (มี Drake เป็น Brand Ambassador) และในปี 2018 ก็ได้กลับมาเล่นให้สโมสรในอเมริกา (Spurs, Bulls) ในเวลาต่อมา
ใน MV นี้ก็ได้ "Demar Derozan" มานั่งยองๆเท่ๆ เป็น Cameo เพื่อเป็นการกล่าวถึงตามท่อนที่อยู่ด้านบน
และมี "Dave Free" ผู้กำกับคู่ใจของ Kendrick มาโผล่ในฉากด้วย เราคงไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว สำหรับ Dave กับ Dot เพราะมีการจับมือกันใน MV ซึ่งบางอย่างที่ Drake พูดเกี่ยวกับ Dave Free อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง อาจะเป็นแค่เรื่องที่กุขึ้นมาดิสเท่านั้น
โดน Diss แบบ 3D เลย, Crodie
- "TDE"
มีฉากที่เป็นการรวมกลุ่มของค่าย Top Dawg Ent. ซึ่งเป็นค่ายเก่าของ Kendrick (ไม่ใช่เจ้าของนะ) ก่อนออกมาจากค่าย หลังจากปล่อยอัลบั้ม Mr.Morale and The Big Steppers และมาสร้างค่ายของตัวเอง ในชื่อ "pgLang" ซึ่ง Kendrick กับ Top Dawg และค่าย ก็สร้างผลงานด้วยกันมาอย่างยาวนาน
มาพร้อมกับศิลปินหรือเพื่อนในค่ายเก่า Jay Rock, Ab-Soul, Schoolboy Q และคนอื่นๆ และเจ้าของค่าย TDE อย่าง "Anthony Tiffith"
ซึ่งก็ล้างที่ว่า Kendrick มีปัญหาที่ต้องแบ่งรายได้จากการขายอัลบั้มให้ Anthony เจ้าของค่าย 50%
Top say drop, you better drop and give 'em 50
- "Break It Down"
กลับมาฉากห้องบำบัดอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีเก้าอี้ ทุกคนลุกขึ้น พร้อมกับเต้น ซึ่งยอมรับเลยว่าท่าเต้นเหมือนถูกออกแบบให้เข้ากับเนื้อเพลง มีการโปรยเงิน ทำท่าถือโทรศัพท์ตามท่อนที่กล่าวถึง Future เป็นต้น
- "Family Matters"
The family matter and the truth of the matter
It was God's plan to show y'all the liar
การใส่ใจต่อครอบครัวกับความจริงของความใส่ใจ คือแผนของพระเจ้าที่จะแสดงให้พวกนายรู้ว่าใครคือคนโกหก
Shot นี้ก็เป็นอีก Shot นึงที่มีการปล่อยหลุดออกมาก่อนปล่อย เป็น Shot ที่น่าจะลบล้างท่อนดิสของ Drake ที่เกี่ยวกับครอบครัวในแต่ละเพลงได้เลย
เป็นฉากที่ Kendrick ยืนคู่กับ Whitney ภรรยา และลูกๆอีก 2 คน ยืนถ่ายเหมือนถ่ายรูปครอบครัว และหลังจากนั้นก็เต้นกันไป ทำท่าคล้าย Crip Walk หรือการเต้นในลักษณะ Gang ดูเหมือนเป็นครอบครัวที่มีความสุขกันดี ไม่เคยทิ้งกันไปไหน
ซึ่งบอกตามตรงคือ ลบท่อนบางท่อนในเพลงที่ Drake ปล่อยได้เลย (ไม่ยกตัวอย่างละกัน เยอะอยู่)
- "นกฮูก"
ก่อนที่เพลงจะตัดจบ จะมาเจอฉากที่ Kendrick กำลังจ้องนกฮูกอยู่ และสุดท้ายก็จับขังไว้ในกรงและก็เดินจากไป ซึ่งนกฮูกคือสัญลักษณ์ของค่าย OVO ที่เป็นรูปนกฮูกนั่นเอง ซึ่ง Kendrick ก็เคยดิสไปในหลายเพลงแล้วว่า คนในค่าย มีประวัติหรือพฤติกรรมที่สมควรนอนในคุก แต่ก็ยังรอดออกมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้
และสังเกตว่า นกฮูก "หลังงอ" อาจจะหมายถึง "40" Producer คู่ใจของ Drake ที่เคยโดน Pusha T ดิสในเพลง "The Story Of Adidon" ซึ่งก็เป็นเพลงที่ด่า Drake เหมือนกัน
OVO 40, hunched over like he 80
40 แห่ง OVO แต่หลังงอเหมือนคนอายุ 80 เลย
- "Get more love in the city that you from"
สุดท้ายจบด้วยคนที่มาดูการถ่ายทำ ร้องเพลงท่อนจบไปด้วยกัน พร้อมเอา YG และ Roddy Ricch ซึ่งเป็นศิลปินที่มาจาก West Coast มาอยู่ใน MV อีก เป็นการล้างท่อน Drake ที่บอกว่าได้รับความรักจากเมืองที่มึงเกิดมากกว่ามึงอีก (จริงๆ The Pop Out นี่ก็น่าจะล้างแล้วนะ แต่อันนี้คือการยืนยันจริงๆ ว่าไม่จริงอย่างที่พูดเลย)
พร้อมตัดจบด้วย Credit "Directed by Dave Free & Kendrick Lamar"
Put the wrong label on me, I'ma get 'em dropped
พูดอะไรมั่วๆ เกี่ยวกับกู กูจะเล่นแม่งให้
ผมเห็นใน Twitter บอกว่า "2024 ปีนี้แม่งคือปีแห่ง Hip-Hop" และที่ตลกก็คือ ผมได้เห็นประโยคนี้ก่อน Beef นี้จะเริ่มอย่างจริงจังเสียอีก ซึ่งหลังจากมี Beef นี้เข้าไป ก็เหมือนเป็นการเติมความมั่นใจไปอีกว่า "ปีนี้ คือปีของ Hip-Hop จริงๆ"
ในตอนนี้เพลง Not Like Us ได้ทำสถิติทำลายต่างๆ ของฮิปฮอปไปแล้วเรียบร้อย ผมก็เลยจะมายกตัวอย่างครับ
- 1.เพลง Hip-Hop ที่มียอดสตรีมใน 1 วันใน Spotify มากที่สุด (แซง Drake "Girls Want Girls)
- 2.เพลง Hip-Hop ที่มียอดสตรีมใน 1 สัปดาห์ใน Spotify มากที่สุด (แซง Drake "In My Feelings")
- 3.เพลง Hip-Hop ที่มียอดสตรีมแตะ 100 และ 200 ล้านเร็วที่สุด (แซง Drake "God's Plan")
- 4.เพลง Hip-Hop ที่มียอดผู้ฟังที่สูงที่สุด (ที่ไม่นับ UGC: User Generate Content เช่น Lyrics Video ที่ถูกจัดทำขึ้นโดยผู้ใช้ทั่วไป ไม่นับศิลปิน) (แซง Drake "Way 2 Sexy")
ซึ่งเห็นได้เลยว่า สถิติส่วนใหญ่ของ Hip-Hop จะเป็น Drake ถือครอง แต่วันนี้ Kendrick ได้โค่นบัลลังก์อันดับทิ้งลงไปแล้ว
ผมไม่รู้ว่า MV นี้จะเป็นจุดจบของ Beef นี้ หรืออาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรบางอย่างหรือเปล่า แต่อย่างน้อย เราก็ได้ Witness กับ Beef ที่ขนาดใหญ่ที่สุดที่เราเคยเจอมา นับตั้งแต่ 2Pac และ Biggie แต่อย่างน้อยก็ลบล้างกับคำสบประมาทที่ว่า "ฮิปฮอปแม่งตายไปแล้ว"
It's funny how one verse can fuck up the game
แค่ Verse เดียวก็ทำทุกอย่างพังได้ โคตรตลกเลย
somethingtorapabout.
special thank to Genius, X (formerly twitter)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
