7 ก.ค. เวลา 02:30 • ธุรกิจ

อธิบายโมเดลธุรกิจ เซ็นทรัลรีเทล รายได้ 248,000 ล้าน มาจากอะไรบ้าง ?

บมจ.เซ็นทรัลรีเทล หรือ CRC คือเจ้าของ ห้างเซ็นทรัล, ห้างโรบินสัน
และร้านค้าอื่น ๆ ในเครือ อย่าง TOPS, B2S, Super Sports, OfficeMate, Power Buy, ไทวัสดุ, GO Wholesale
ปี 2566 เซ็นทรัลรีเทล มีรายได้รวม 248,688 ล้านบาท กำไร 8,016 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ รายได้ 2 แสนกว่าล้านบาทนี้ ไม่ได้มาจากประเทศไทยอย่างเดียว
แต่มาจากประเทศอื่น ๆ อย่าง เวียดนามและอิตาลีด้วย
แล้วรายได้และโมเดลธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล มาจากไหนบ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล หรือ CRC คือเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้ากว่า 1,897 แห่ง
และศูนย์การค้ากว่า 72 แห่ง ใน 3 ประเทศ ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี
แล้วสิ้นปี 2566 ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าเหล่านี้ มีทั้งหมดกี่สาขาแล้ว ?
1. ในประเทศไทย
เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า
- ห้างเซ็นทรัล 26 สาขา
- ห้างโรบินสัน 50 สาขา
เป็นเจ้าของร้านค้าเฉพาะทาง
- ร้าน Supersports 114 สาขา
- ห้างไทวัสดุ และ BnB home 81 สาขา
- ร้าน Power Buy 118 สาขา
- ร้าน B2S 141 สาขา
- ร้าน OfficeMate 78 สาขา
- แพลตฟอร์มออนไลน์ meb ตัวแทนจำหน่าย e-book ในประเทศไทย
- ซูเปอร์มาร์เก็ต TOPS, TOPS Food Hall, TOPS Fine Food และ TOPS daily 683 สาขา
- ร้านสุขภาพและความงาม มัทสึโมโตะ คิโยชิ 26 สาขา
- ห้างค้าส่ง GO! Wholesale ที่ขยายสาขากลายเป็น 7 สาขาในปัจจุบัน
- ร้านขายยา TOPS Care 24 สาขา
- ร้านขายอาหารเสริม TOPS Vita 90 สาขา
- ร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง PET’N ME 8 สาขา
เป็นเจ้าของ และบริหารศูนย์การค้า Robinson Lifestyle 28 สาขา
นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล
ก็ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า แบรนด์ดังจากต่างประเทศอย่าง Calvin Klein, Casio, Dyson, Crocs, Fila, Garmin, Skechers และ Wrangler โดยผ่านบริษัท CMG หรือ Central Marketing Group
2
ปัจจุบันเครือ CMG มีร้านค้าแบรนด์เหล่านี้อยู่ในเครือ
โดยไม่นับเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าทั้งหมด 338 ร้านค้า
2. ในประเทศเวียดนาม
เป็นเจ้าของร้านค้าเฉพาะอย่าง
- ร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เหงียนคิม 53 สาขา
- ซูเปอร์มาร์เก็ต TOPS Market 9 สาขา
- ซูเปอร์มาร์เก็ต Mini go! 9 สาขา
- ซูเปอร์มาร์เก็ต ลานซี มาร์ท 24 สาขา
เป็นเจ้าของ GO! ซึ่งเป็นห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่
คล้าย ๆ Lotus’s และ Big C บ้านเรา มีทั้งหมด 38 สาขา
แถมยังเป็นเจ้าของ และบริหารศูนย์การค้า GO! Mall 38 สาขา
3. ในประเทศอิตาลี
- เป็นเจ้าของ ห้างสรรพสินค้า Rinascente 9 สาขา
สำหรับในปี 2567 นี้ กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ก็มีแผนขยายธุรกิจที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น
- ขยายห้าง GO Wholesale ซึ่งเป็นห้างค้าส่งอาหารแบบครบวงจร
ปัจจุบันมี 7 สาขา และตั้งเป้าว่าจะมีทั้งหมด 11 สาขาภายในปีนี้
3
- ขยายห้างไทวัสดุ ซึ่งเป็นห้างค้าเฟอร์นิเจอร์ และวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรเพิ่มอีก 9 สาขา
จนกลายเป็น 90 สาขาภายในปีนี้
- ขยายห้าง GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ตในเวียดนามเพิ่ม จนมี 42 สาขาทั่วประเทศเวียดนามภายในปีนี้..
 
ทีนี้เราไปดูโครงสร้างรายได้กันบ้าง
รายได้ของกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ทุก ๆ 100 บาท มาจาก
1
- ประเทศไทย 71 บาท
- ประเทศเวียดนาม 21 บาท
- ประเทศอิตาลี 8 บาท
โดยถ้าแยกรายได้ตามส่วนธุรกิจดู จะแบ่งออกเป็น
1. รายได้จากธุรกิจซื้อมาขายไป
ซึ่งก็คือรายได้จากการขายของในห้าง ร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต 221,926 ล้านบาท
ส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วน 89% ของรายได้ทั้งหมด
โดยแบ่งเป็น
- ธุรกิจกลุ่มอาหาร อย่างร้าน TOPS และ GO Wholesale รายได้ทั้งหมด 85,155 ล้านบาท (34% ของรายได้รวม)
1
- ธุรกิจกลุ่มฮาร์ดไลน์ หรือกลุ่มของเครื่องใช้ในบ้านและอาคารสำนักงาน อย่างร้านไทวัสดุ, PowerBuy, OfficeMate และ B2S
รายได้ทั้งหมด 74,192 ล้านบาท (30% ของรายได้รวม)
1
- ธุรกิจกลุ่มแฟชั่น ซึ่งเป็นรายได้กลุ่มเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น อย่างห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน และร้านซูเปอร์สปอร์ต
รายได้ทั้งหมด 62,579 ล้านบาท (25% ของรายได้ทั้งหมด)
2. รายได้จากค่าเช่าศูนย์การค้า
ซึ่งประกอบด้วยศูนย์การค้า Robinson Lifestyle, Tops Plaza และ GO! Mall ในประเทศเวียดนาม
ส่วนนี้เป็นรายได้ 7,785 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3% ของรายได้ทั้งหมด
3. รายได้จากบริการศูนย์อาหาร 1,727 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1% ของรายได้ทั้งหมด
4. รายได้อื่น ๆ อย่างเช่น การส่งเสริมการขาย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ รายได้จากการขนส่งกระจายสินค้า และรายได้จากการลงทุน
ส่วนนี้เป็นรายได้ 17,250 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7% ของรายได้ทั้งหมด
1
ซึ่งรายได้จากค่าเช่าศูนย์การค้า และรายได้จากค่าบริการศูนย์อาหาร
ดูเหมือนจะน้อยกว่า รายได้จากการซื้อมาขายไปมาก ๆ
1
แต่ถ้าเราไปเปรียบเทียบอัตรากำไรขั้นต้นแล้ว เราก็จะเห็นว่า
- รายได้จากธุรกิจซื้อมาขายไป ทุก ๆ 100 บาท คิดเป็นกำไรขั้นต้น 27 บาท
2
- รายได้จากธุรกิจศูนย์การค้าและศูนย์อาหาร ทุก ๆ 100 บาท คิดเป็นกำไรขั้นต้น 75 บาท เลยทีเดียว
ซึ่งถ้าเราชำแหละงบการเงินของทั้งบริษัท เราจะเห็นว่า
รายได้ทุก ๆ 100 บาท หักต้นทุนขาย ต้นทุนให้เช่าและบริการ 66 บาท จะเหลือเป็นกำไรขั้นต้น 34 บาท..
และเมื่อหักค่าใช้จ่าย ในการขายและบริการ 28 บาท
จะเหลือเป็นกำไรจากการดำเนินงาน 6 บาท
1
และเมื่อหักดอกเบี้ย และภาษีไปทั้งหมด 3 บาท
ก็จะเหลือเป็นกำไรสุทธิเพียง 3 บาทเท่านั้น
และนี่ก็คือโมเดลธุรกิจของ กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ซึ่งมีธุรกิจหลักเป็นห้างและร้านค้าที่ซื้อมาขายไป
ที่มี รายได้รวม 248,688 ล้านบาท และกำไร 8,016 ล้านบาท
Reference
-รายงานประจำปี 2566 บมจ.เซ็นทรัลรีเทล
โฆษณา