8 ก.ค. เวลา 06:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

‘Google’ ปล่อยก๊าซคาร์บอนเพิ่ม 13% ใช้พลังงานเทรน AI - ดาต้าเซ็นเตอร์ ดับฝันมุ่งสู่เป้า ‘Net Zero’

เป้าหมายมุ่งสู่เน็ตซีโร่ ของ Google อาจจะเป็นไปได้ยาก หลังจากในปี 2566 Google ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แตะระดับ 14.3 ล้านเมตริกตัน เทียบเท่ากับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 38 แห่งปล่อยออกมาในแต่ปี ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการใช้พัฒนาเอไอให้มีความสามารถมากขึ้น
ปัจจุบัน Google บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี พยายามผสานเอไอเข้าไปในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นในการประมวลผลเอไอ รายงานสิ่งแวดล้อมของ Google ยอมรับว่า ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัทเพิ่มขึ้น 48%
การผลิตไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้การเผาไหม้ถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติ ซึ่งปล่อย “ก๊าซเรือนกระจก” ที่ทำให้โลกร้อน ทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมีเทน ส่งผลให้สภาพอากาศเลวร้ายมากขึ้น
ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในศูนย์ข้อมูลของ Google เพิ่มขึ้น 17% ในปี 2566 และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต ตามรายงาน Google ระบุว่าศูนย์ข้อมูลของบริษัทใช้ไฟฟ้าคิดเป็น 10% ของการใช้ไฟฟ้าของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกในปี 2566
หนึ่งในวิธีที่จะช่วยจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ คือ การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด แต่การขยายตัวของศูนย์ข้อมูลที่ใช้สำหรับการขับเคลื่อนเอไอในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ กำลังทำให้การเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าสะอาดทั้งหมดทำได้ยากยิ่งขึ้น
ศูนย์ข้อมูลแต่ละแห่งใช้พลังงานมาก ซึ่งยังคงพึ่งพาจากโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิลเป็นหลัก อีกทั้งศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ยังต้องใช้สายส่งไฟฟ้าแรงสูง ใช้น้ำปริมาณมากเพื่อรักษาความเย็นให้คงที่ และทำงานเสียงดังด้วย ดังนั้นศูนย์ข้อมูลจึงถูกสร้างในพื้นที่ที่มีค่าไฟถูกที่สุด ไม่ได้มีพลังงานหมุนเวียน เช่น ลมและแสงอาทิตย์ เป็นแหล่งพลังงานหลัก
ตามรายงานของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA พบว่า ปัจจุบันศูนย์ข้อมูลทั่วโลกใช้ไฟฟ้าประมาณ 1% ของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด แต่เนื่องจากอุตสาหกรรมเอไอกำลังเฟื่องฟู IEA ประเมินว่า ความต้องการไฟฟ้าจากศูนย์ข้อมูลและเอไอ อาจเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าภายในปี 2569
อ่านต่อ:
โฆษณา