6 ก.ค. 2024 เวลา 11:32 • หุ้น & เศรษฐกิจ

กลยุทธ์การลงทุนแบบ "ปีนไหล่ ยักษ์ป่วย"

.
เมื่อมีคนถามผมว่า พี่ลงทุนแบบไหน ?
ผมมักจะตอบว่า ผมรอ "ปีนไหล่ ยักษ์ป่วย" ครับ
.
ยักษ์ในที่นี้ผมหมายถึงหุ้นที่มีความแข็งแกร่ง อาจจะเป็นหุ้นใหญ่ หรือหุ้นขนาดกลางที่เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดเล็ก หรือเป็นหุ้นที่ยังไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งแต่มีความแข็งแกร่งที่ชัดเจน หุ้นกลุ่มนี้เปรียบเสมือน “ยักษ์” ในตลาดหุ้น
.
ในฐานะนักลงทุน แน่นอนว่าการปีนไหล่ยักษ์เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่เราต้องไม่ลืมว่าการปีนไหล่ยักษ์ในภาวะปกติ อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีมากเท่าไหร่ ทำไม ?
.
ยักษ์ในภาวะปกติ พวกเขาจะอยู่สูงมาก การพยายามไปยืนบนไหล่ยักษ์ ต้องออกแรงมหาศาลและมีค่าใช้จ่ายมหาศาล (หุ้นแพง) แถมยักษ์ที่ตัวโตเต็มวัยคงไม่ได้ตัวสูงขึ้นเท่าไหร่แล้ว ไม่สามารถนำพาพอร์ตของเราให้โบยบินไปไหนได้อีกแล้ว เราอาจจะได้ประโยชน์จากการอยู่บนไหล่ยักษ์ แต่เมื่อเปรียบเทียบระหว่างแรงที่ต้องออก และผลประโยชน์ที่ได้รับ อาจจะไม่ได้น่าสนใจ
.
นั่นทำให้นักลงทุนหลายคนเบะปากกับการลงทุนในหุ้นแข็งแกร่ง เพราะพวกเค้าเชื่อว่ามันไม่สามารถทำให้รวยได้… แต่ผมไม่คิดแบบนั้นครับ ทำไม ? มีเหตุผลหลักสองข้อ ผมจะเล่าให้ฟังครับ
.
1. เราสามารถ ปีนไหล่ ยักษ์ที่กำลังป่วยได้
.
ยักษ์ป่วยคือ หุ้นแข็งแกร่งที่โดนตลาดเทขายด้วยเหตุผลเฉพาะตัวบางอย่าง แต่เราต้องไม่ลืมครับ ยักษ์ยังไงก็เป็นยักษ์ วันที่ป่วยอาจจะต้องนอนราบกับพื้น แต่เมื่อหายดี พวกเขาจะยืนขึ้นสง่า ตะหง่านฟ้าเหมือนที่เคย
.
ข้อดีสำหรับนักปีนไหล่ยักษ์ป่วยอย่างเราก็คือ ยักษ์ป่วยเหล่านี้นอนอยู่บนพื้น ปีนขึ้นไหล่ได้ง่ายมาก และเมื่อยักษ์หายป่วย เรายังได้อยู่สูงได้ในระดับเดียวกับคนอื่นๆ ที่ปีนไหล่ยักษ์ขึ้นมาอย่างยากลำบาก
.
การปีนไหล่ยักษ์ป่วยจึงสามารถทำให้เราได้ผลตอบแทนได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ กำไร 50-100% ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำ
.
แน่นอนว่าบางครั้งอาจต้องใช้เวลาหลายปี เพื่อรอให้ยักษ์กลับมายืนได้อีกครั้ง เราอาจต้องกางเต๊นท์นอนรอบนไหล่ยักษ์ [ที่นอนกองอยู่กับพื้น] แต่เราจะเดือดร้อนอะไรครับ ถ้าระหว่างรอ เรายังคงได้ปันผลเป็นค่าเสียเวลา
.
จากประสบการณ์ส่วนตัว บ่อยครั้งมาก ที่ผมไม่อยากขายหุ้นออกไปแม้ยักษ์จะยืนขึ้นมาจนราคาหุ้นขึ้นมา 50% แล้ว เพราะ ปันผลที่ผมได้ พร้อมโอกาสที่ยักษ์จะเติบโตไปทีละหน่อย ยังน่าสนใจและเพียงพอที่จะทำให้ผมมั่งคั่งได้ในระยะยาว
.
คุณอาจจะคิดว่า ยักษ์ที่ไหนมันจะมาหลับที่พื้น ?
.
เรามองไม่เห็น เพราะเรามองจากปัจจุบันครับ “ยักษ์ที่ป่วยอยู่ อาจดูเหมือนภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่งเท่านั้น” เรามองข้ามมันไปเพราะไม่ได้เห็นว่ามันน่าสนใจ แต่ในความเป็นจริงเมื่อเราลองมองย้อนหลัง เราจะเห็นได้ว่ามียักษ์มากมายที่เราพลาดโอกาสปีนไหล่มันไปแล้ว
.
ขอยกตัวอย่างเป็นกรณีศึกษา สำหรับเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วนะครับ (ไม่ได้เป็นการเชียร์หุ้นนะครับ เพราะหุ้นกลุ่มนี้ราคาก็ขึ้นมาแล้วในปัจจุบัน)
.
BBL (ธนาคารกรุงเทพ) เคยราคา 90 บาท ในตอนที่คนเชื่อว่าธุรกิจธนาคารจะตาย จนปัจจุบันราคาหุ้นขึ้นมาสูงกว่าจุดนั้นแล้ว 50% เพราะคนเริ่มเห็นแล้วว่าธนาคารอาจจะลำบาก แต่มันจะไม่หายไปจากสังคมไทย
.
ADVANC (AIS) เคยราคา 150 บาท ในตอนที่คนเห็นการแข่งขันในตลาดมือถือ และ Starlink เข้ามา จนปัจจุบันราคาหุ้นขึ้นมาสูงกว่าจุดนั้นแล้ว 40% เพราะคนเริ่มเห็นแล้วว่าในตลาดที่ผู้เล่นรายใหม่เข้ามายากแบบนี้ ยังไงการแข่งขันระหว่างรายใหญ่ก็ต้องจบลง และแม้แต่ Starlink เอง ก็มีดาวเทียมที่อยู่ไกลจากโลกมาก ทำให้สัญญาณไม่สามารถเข้ามาถึงในห้างสรรพสินค้าได้ โดยเฉพาะห้างที่มีคนเยอะๆ แถมยังค่าใช้จ่ายรายเดือนยังสูงกว่าแพคเกจโทรศัพท์ทั่วไปของไทยมากอีกด้วย
.
BH (โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์) เคยราคา 100 บาท ในตอนที่คนเริ่มเชื่อว่า Covid จะทำให้ผู้ป่วยไม่เดินทางมารักษาที่ไทยเหมือนที่เคยแ จนปัจจุบันราคาหุ้นขึ้นมาสูงกว่าจุดนั้นแล้ว 150% !!! เพราะคนเริ่มเห็นแล้วว่า ความแข็งแกร่งด้านสาธารณสุขและการท่องเที่ยวของเมืองไทยคือของจริง และมนุษย์จะไม่เลิกเดินทางอย่างที่เคยกังวลกัน
.
เมื่อมองย้อนกลับไป จะเห็นได้ว่าปัจจัยทั้งหมดที่ผมยกตัวอย่างมา ไม่ได้ยากเกินกว่าจะเข้าใจเลย ใช่มั้ยแหละครับ ? เราแค่กังวลและปล่อยให้ความกลัวเข้าครอบงำ จนพลาดโอกาสที่จะปีนไหล่ยักษ์ในตอนที่มันนอนกองกับพื้นไป
.
2. ความมั่งคงในการปีนไหล่ยักษ์สูง สูงพอที่เราจะวางแผน และใช้ “ดอกเบี้ยทบต้นเพื่อเปลี่ยนชีวิตเราได้”
.
นักลงทุนส่วนใหญ่คงจะรู้กันอยู่แล้วว่าการใส่เงินลงทุนและได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องในระยะยาวมากๆ (10 ปีขึ้นไป) เราจะสามารถใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้นสร้างพอร์ต 8 หลักได้ไม่ยาก มนุษย์เงินเดือนทุกคนสามารถทำได้
.
แต่ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่ก็คือ อยากรวยเร็วกว่านั้น ไปเล่นหุ้นที่ราคาแกว่งแรงมากๆ บางครั้งก็เจอความเสียหายจนพอร์พังไปก่อนที่จะได้เห็นพลังจากดอกเบี้ยทบต้น
.
“เราจะใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้นได้ง่ายกว่ามาก
ถ้าเราใช้ กลยุทธ์การลงทุน ปีนไหล่ ยักษ์ป่วย"
.
เพราะถ้าเรามีความรู้มากพอ ซื้อหุ้นที่แข็งแกร่งมากพอ ใจเย็นรอยักษ์นอนราบกับพื้นแล้วค่อยปีน อย่าไปรีบปีนตอนยักษ์ยังไม่ล้ม โอกาสแพ้ในการลงทุนแต่ละครั้งของเราจะน้อยมากครับ นั่นหมายถึงความเสี่ยงที่ลดลง และความเสี่ยงที่ต่ำลงนี่แหละครับ ที่จะทำให้ใจเรานิ่ง จนค่อยๆ เก็บผลประโยชน์ พร้อมลงเงินต้นเพิ่มในแต่ละปีได้อย่างต่อเนื่อง จนได้ใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้นในที่สุด
.
.
.
แน่นอนว่าการลงทุนทุกรูปแบบ ในแต่ละช่วงเวลาจะมีขึ้นและมีลง แต่ถ้าเรามองระยะยาว การลงทุนในระยะ 3+ ปี เราจะเห็นได้ว่า หากเราลงทุนแบบปีนไหล่ยักษ์ป่วย แม้จะไม่ได้มีหุ้นสิบเด้งแต่เราแทบจะไม่แพ้ในการลงทุนหุ้นแต่ละตัว และการลงทุนที่แพ้ยากนี่แหละครับ ที่จะสามารถทำให้อารมณ์เรานิ่งพอ มีความสุข นอนหลับสบาย และทำผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง
.
โดยส่วนตัว พอมองระยะ 10 ปี ที่ผ่านมา ผมกลับพบว่า พอร์ตที่ใช้ กลยุทธ์การลงทุน "ปีนไหล่ ยักษ์ป่วย" ของผม ทำกำไรได้มากกว่าพอร์ตที่เน้นหุ้นเติบโตและหุ้นวัฐจักรซะอีก เพราะแม้ว่าหุ้นเติบโตจะสามารถทำให้เรากำไร 3-4 เด้งได้ แต่หลายครั้งมันก็ทำให้เราขาดทุน นอนไม่หลับ หรืออดใจไม่ไหวจนขายมันไปก่อน และหลายครั้ง ยักษ์ของผมก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่เติบโตเลย ยักษ์หลายตัวก็ยังค่อยๆ เติบโตไปในแต่ละปี
.
แน่นอนครับ ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่ากลยุทธ์ "ปีนไหล่ ยักษ์ป่วย" ดีที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องของความถนัดส่วนบุคคล
.
สิ่งที่ผมอยากจะบอกในบทความนี้ก็คือ VI ไม่จำเป็นต้องลงทุนแต่หุ้นเติบโตเสมอไปนะครับ ใครที่มีนิสัยแนวๆ ผม ที่ชอบความมั่นคงแต่ก็ยังชอบสวนตลาด ยอมมองข้ามความมั่งคั่งในระยะสั้นได้ เพื่อแลกกับความมั่นคงในระยะยาว สามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้ครับ ผมลองมาแล้ว และขอยืนยันว่ามันใช้ได้ดีเลย
.
แต่ยังไงก็ตาม ก่อนจบบทความ ขอแอบเตือนนิดนึงนะครับ “ไม่มีการลงทุนง่ายๆ บนโลก” ไม่ใช่ว่าลงทุนกับยักษ์แล้วจะรวยง่าย
.
กลยุทธ์ "ปีนไหล่ ยักษ์ป่วย" เองก็ต้องใช้ความชำนาญและการทำการบ้านอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะคิดว่า “ซอมบี้ที่นอนราบอยู่ เป็นยักษ์ป่วย จนเผลอไปปีนไหล่ซอมบี้ก็เป็นได้”
.
.
.
ก่อนจบบทความ ผมอยากชวนคุณมาคิดครับ
“ในตอนนี้ คุณเห็นยักษ์ที่นอนป่วยเรียงกันอยู่บนพื้นหรือเปล่า?”
ลองมาแชร์ให้ฟังในคอมเม้นหน่อยนะครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณนะครับ
#Salarymanติดปีก #มาลงทุนหุ้นแข็งแกร่งกันครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃
หากคุณเป็นนักลงทุน ที่ทำควบคู่งานประจำ
หรือชอบเนื้อหาของ Salaryman ติดปีก
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
และจะได้ไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆ ของเรา ด้วยนะครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃
โฆษณา