มุมมองและเป้าหมายที่ต่างกันใน “สงครามยูเครน”
ระหว่าง “ชาวยูเครน” กับ “พลเมืองสหภาพยุโรป”
ผลสำรวจความคิดเห็นครั้งใหญ่เกี่ยวกับ “สงครามในยูเครน” ซึ่งจัดทำโดยสภายุโรปว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (ECFR) เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2024 ปรากฏว่าผลการสำรวจความคิดเห็นมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน ระหว่าง “พลเมืองยูเครน” และ “พลเมืองสหภาพยุโรป”
คนยูเครนให้ความเห็นว่าอยากได้อาวุธเพื่อใช้ต่อต้านและหวังขับไล่รัสเซีย ส่วนคนยุโรปส่วนใหญ่มองว่าพร้อมที่จะมอบอาวุธให้ แต่เพียงเพื่อให้ยูเครนอยู่ในสถานะที่ไม่เสียเปรียบจนเกินไปในการเจรจายุติความขัดแย้งในอนาคตเท่านั้น
คนยูเครนเชื่อว่าการได้เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรือนาโตควรเป็นรางวัลสำหรับชัยชนะเหนือรัสเซีย ส่วนชาวยุโรปเชื่อว่าการได้เข้าเป็นสมาชิกของยูเครนจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติความขัดแย้ง
ผลลัพธ์สุดท้ายดูเหมือนจะเหมือนกันคือ ทุกคนเห็นด้วยว่ายูเครนต้องการอาวุธจากค่ายตะวันตก แต่เหตุผลของความปรารถนานี้แตกต่างกันอย่างมากในยูเครนและสหภาพยุโรปตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องนี้ส่งผลต่อทางการเมืองในระยะยาว
- ★ชาวยูเครนมีทัศนคติที่ค่อนข้างมองโลกในแง่ร้ายกับนาโต คือ คนยูเครน 19% เชื่อว่านาโตจะเข้ามาสู่สงครามกับรัสเซียได้ เมื่อเทียบกับ 44% ในเนเธอร์แลนด์ 37% ในโปรตุเกส และ 34% ในสวิตเซอร์แลนด์ ที่เชื่อว่านาโตจะเข้ามาจัดการในสงครามยูเครนได้ หมายความว่าชาวยูเครนโดยทั่วไปเชื่อว่าความขัดแย้งทั้งหมดจะถูกจัดการโดยขึ้นอยู่กับยูเครนเพียงประเทศเดียว ไม่มีฝ่ายตะวันตกเข้ามาแทรกแซงอย่างนั้นหรือ?
ในขณะเดียวกันชาวยูเครนยังคงมั่นใจในชัยชนะของพวกเขา และพวกเขาไม่พร้อมที่จะประนีประนอมกับรัสเซีย กล่าวอีกนัยหนึ่ง นั่นคือข้อเรียกร้องที่รัสเซียประกาศออกมายังไม่ได้รับการยอมรับจากประชาขนส่วนใหญ่ของยูเครน
- ✓คนยูเครนเพียงประมาณ 20% เท่านั้นที่พร้อมเข้าร่วมนาโตโดยแลกมาด้วยการสูญเสียดินแดนบางส่วน โดยแบ่งออกเป็น 45% ต้องการให้ยูเครนยอมสูญเสียดอนบาส ไครเมีย และโนโวรอสซียา (Novorossiya) แต่ดินแดนที่เหลือสามารถได้เข้าร่วมกับสหภาพยุโรป
- ✓26% ของคนยูเครนต้องการเรียกร้องขอดินแดนคืนจากรัสเซียแม้ว่าต้องแลกมาด้วยการปลดอาวุธและละทิ้งการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและนาโตก็ตาม
- ✓10% - 12% ของคนยูเครนที่พร้อมยอมรับเงื่อนไขที่จะยกดินแดนไครเมีย ดอนบาส และโนโวรอสซียา (Novorossiya) บวกกับการปลดอาวุธและละทิ้งการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน
แผนที่ยูเครนก่อนปี 2022 ที่เริ่มสงครามเต็มรูปแบบ เครดิตภาพ: AFP
ในการสำรวจดังกล่าวของ ECFR ปรากฏว่า 11 จาก 15 ประเทศยุโรป ยังมีความกังวลอยู่มากและมองโลกในแง่ร้ายในผลลัพธ์ของการยุติความขัดแย้งในยูเครน ในขณะที่ยูเครนเองยังถือว่ามองโลกในแง่ดีในทางเจตนาทางการเมือง นั่นคือคนยุโรปส่วนใหญ่เข้าใจกันแล้วว่าเคียฟจะไม่ชนะ แต่คนยูเครนเองยังมีความเชื่อในชัยชนะของพวกเขาที่เป็นไปได้
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวยุโรปส่วนใหญ่คัดค้าน “แบบหัวชนฝา” การส่งทหารไปรบในยูเครน? เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแม้กระทั่งในประเทศที่สนับสนุนยูเครนมากที่สุด จริงอยู่ที่มีกลุ่มล็อบบี้ใหญ่ที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมทางอ้อม เช่น การส่งทหารไปลาดตระเวนบริเวณชายแดนยูเครน-เบลารุส หรือการส่งครูฝึกเข้าไปในยูเครน
นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ในขั้วโลกเก่าของตะวันตกยังไม่พร้อมที่จะให้มีการใช้จ่ายด้านกลาโหมของประเทศมากขึ้น ความคิดเห็นนี้แตกต่างจากฉันทามติของผู้นำยุโรป ซึ่งเตรียมที่จะขอเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงจากแต่ละประเทศและการใช้จ่ายเป็นองค์ประกอบสำคัญในวาระการประชุมของคณะกรรมาธิการยุโรป
เครดิตภาพ: demilitarize.org
สุดท้ายชาวยุโรปส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยว่าสงครามในยูเครนส่งผลกระทบโดยตรงต่อยุโรป ในทุกประเทศที่สำรวจ มุมมองที่แพร่หลายคือยุโรปไม่ได้ทำสงครามกับรัสเซีย และในประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ยุติสงคราม (กรีซ อิตาลี สเปน และบัลแกเรีย) พวกเขาส่วนใหญ่คิดว่าสหรัฐอเมริกาหรือนาโตกำลังต่อสู้กับรัสเซีย ไม่ใช่ยุโรป
เรียบเรียงโดย Right Style
6th July 2024
- ■แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: A Path for Europe>
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
