6 ก.ค. เวลา 15:06 • ไลฟ์สไตล์

Ep. 29 คนที่ฆ่าฉัน > Part สีม่วง

[*] ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความรู้สึกบางอย่างเวลามองสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คือ สี และโทนของภาพ
<“อดีตคิงไซรัส กษัตริย์แห่งเปอร์เซียใช้สีม่วงเป็นสีประจำพระองค์” [1] เป็นที่นิยมอย่างมากในยุควิกตอเรียน หนังสือแฟชั่นร่วมสมัยอย่าง Color in Dress ถึงขั้นกล่าวว่า “สีม่วงนั้นเป็นสีที่น่าจับตามากที่สุด” [2] ตามหลักฮวงจุ้ยจะยกย่องสีม่วงเป็นสีแห่งมงคล โชคลาภ และอำนาจ
<“สีม่วง” สีโทนร้อน (Warm Tone) [*] สื่อถึงการปลอบโยน จิตวิญญาณ ลึกลับ สร้างสรรค์ ความอดทน ความเพ้อฝัน ความฟุ่มเฟือย ความฉลาด เชี่ยวชาญ โหดร้าย น่าค้นหา หยิ่งยโส จินตนาการ ร่ำรวย หรูหรา ช่วยสร้างความสมดุลของจิตใจอีกด้วย
[*] สีม่วงอ่อน ความหมายที่ใกล้เคียงกับสีชมพู แต่ให้ความรู้สึกที่รุนแรงกว่า เช่น ความรู้สึกโหยหาเป็นความรู้สึกที่รุนแรง แต่ก็สื่อถึงความรู้สึกอ่อนไหวของอารมณ์ได้อย่างชัดเจน
[*] สีม่วงเข้ม อดีตสีม่วงนั้นเป็นสีของชนชั้นสูงในยุโรป จากงานเขียนหรือภาพวาดจะพบว่าชนชั้นอื่น ไม่ได้สวมเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับสีม่วง จึงทำให้สีม่วงมีความหมายถึง ความระทึกขวัญ เร้าใจ ความโลภ ความฉลาด และความกล้าหาญในบางโอกาส [3]
ปี 2552-2553
ความโหดร้าย:
<ไร้สิ่งสินอับแล้ว ปัญญา
อีกญาติวงศ์พงศา บ่ใกล้
คนรักย่อมโรยรา รสรัก กันแฮ
พบแทบทางทำใบ้ เบี่ยงหน้าเมินหนี ฯ
"อ๊าาา สะอาดแล้ว"
ฉันพูดกับเคนที่กำลังยืนจับหัวไหล่ ยิ้มแฉ่ง แล้วโน้มตัวมาคลอเคลียฉัน
ฉันทำความสะอาดเคนเสร็จเรียบร้อย จึงอุ้มเคนเดินสวนกับดีที่กำลังเดินมาทางฉัน
เมื่อถึงจุดที่สวนกัน ดียื่นแขนตนเองมากระชากแขนของฉัน แม่ของดีเดินมากระชากเคนออกจากอ้อมแขนของฉัน แล้วอุ้มเคนแทนอย่างรวดเร็ว เหมือนรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
“อ่ะ…??” ฉันร้องอุทาน
พรางหันหน้าไปมองดีที่กระชากแขนของฉันอย่างรวดเร็ว และรุนแรง
ฉันเริ่มโมโห ด้วยความห่วงเกรงว่าเคนจะตกจากแขนของฉัน เมื่อฉันหันหน้าไปทางดีที่ยืนอยู่ ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวหรืออ้าปากเอ่ยถามสิ่งใด แก้มของฉันก็รู้สึกถึงแรงตบจากคนที่ฉันรัก
“เพียะ!!!!!”
เสียงฝ่ามือฟาดปะทะลงบนแก้มของฉัน แรงตบของดีทำให้เส้นผม และใบหน้าของฉันสะบัดอย่างรวดเร็ว
“อึก ๆๆๆ ตึก ๆๆๆๆ!!!”
ดียื่นมือมาบีบคอ สันมือของดีแนบกับลำคอ และกรามของฉันอย่างพอดี ฉันพยายามเอื้อมมือต่อยใบหน้าดี และจิกผมของดีหลายต่อหลายครั้ง จนฉันเริ่มหายใจไม่ออกฉันจึงพยายามแกะมือของดีออกจากลำคอ ในเวลานั้นขาของฉันดิ้นลอยค้างในอากาศ ดีบีบคอไถดันร่างของฉันถอยกรูไปด้านหลังเรื่อย ๆ
"ตึง!!!!"
แผ่นหลังของฉันกระแทกกับผนังตู้เสื้อผ้าไม้เก่าแก่หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่เกือบกลางบ้าน ดีใช้พละกำลังแขนตัวเองบีบคอของฉันอยู่ค่อย ๆ สูงขึ้น ๆ นิ้วชี้ และนิ้วหัวแม่มือของดีกดลงใต้กรามของฉัน ร่างของฉันถูกดียกขึ้นค้างเติ่งในแขนเดียว ขาของฉันเต๊ะถีบในอากาศไปมาอย่างไร้ทิศทาง สักพักฉันก็เริ่มนิ่ง แขนที่ปัดป้องร่วงหล่นมาแนบลำตัว ขาของฉันไม่ได้ดิ้นเพื่อเอาตัวรอดแล้ว เหมือนเหตุการณ์หยุดไปชั่วขณะหมดแรง
ฉันหายใจไม่ออก เหมือนมีก้อนเจ็บ ๆ จุกที่ลำคอ สายตาที่มองหน้าดีเริ่มเลือนราง
ฉันรู้สึกตัวอีกครั้ง เมื่อดีตวัดมือขวาที่บีบคอของฉันโยนเหวี่ยงออกไปด้านข้าง สะโพกของฉันกระแทกพื้น ฉันไอ เจ็บในลำคอ กราม ดวงตาของฉันพร่ามัวมันเต็มไปด้วยน้ำตา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในสายตาของพ่อและแม่ของดี ที่ยืนมองอย่างสงบนิ่ง
<เมื่อเข้าสู่สภาวะใกล้ตาย สมองจะลดการทำงานส่วนที่ไม่สำคัญลง จนเราแทบไม่รู้สึกอะไรหรืออยู่ในภาวะคล้ายฝัน
“ถ้าอยากไปมึงก็ไปคนเดียว เคนต้องอยู่กับกู” ดียืนพูดอย่างเกรี้ยวกราด พร้อมทั้งชี้หน้าเหยียดหยามฉันอย่างไม่มีเยื้อใย
แม่ของดียืนตรงกลาง ภายในวงแขนโอบอุุ้มเคน อายุ 1 ปีกว่า ดียืนอยู่ด้านขวามือ และพ่อของดียืนด้านซ้าย ทั้งสามคนมองมายังฉันด้วยสายตาตำหนิ ไม่พึงพอใจ เพิกเฉย ผู้ใหญ่ในบ้านทั้งสองคนไร้การห้ามปรามใด ๆ ขณะที่ดีทำร้ายร่างกายของฉัน
ฉันไม่เจ็บที่แก้ม ใบหน้า หนังศรีษะหรือตำแหน่งใด ๆ ก็ตามที่ถูกดีทำร้าย หากแต่ความเจ็บของฉันมันบาดลึกลงไปถึงข้างในอก เพียงแค่ฉาดเดียวเท่านั้น
ความรักเต็มเปี่ยมที่ฉันเคยมีให้ดีตลอดมาได้สิ้นสุดลง ความพยายามในการอดทนเพื่อถนอมสถานะครอบครัวของฉันก็หมดลงในนาทีนั้นเช่นกัน !
BBC News ไทย พบว่า ในช่วงปี ค.ศ. 2016 – 2022 ประเทศไทยมีเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว 2,223 ราย และ 87.4% ของเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใครเลย
ความหยิ่งยโส:
เดือนมีนาคม ปี 2553
ที่ผ่านมาใครจะพูดลับหลังดีว่าอย่างไร? ฉันก็ยังคงเลือกอยู่กับดี เพราะความเชื่อมั่นแบบโง่ ๆ ของฉัน แม้ความหวังเรื่องคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคตของฉันและดี ดูจะตกต่ำหนักกว่าเดิมมาก ห่างไกลเพื่อนฝูง ฉันก็ยังไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เกิดขึ้น
การทะเลาะกันเพียงครั้งเดียวในชีวิตคู่ของฉัน ทำให้ฉันอยากจบความสัมพันธ์ห่วย ๆ ที่ฉันอุตส่าห์พยายามสร้างความเชื่อมั่นในตัวของดีว่า “อีกไม่นานวุฒิภาวะความเป็นพ่อของดีก็คงจะมา” เฉกเช่นวุฒิภาวะความเป็นแม่ของฉัน ที่มาในวันรุ่งขึ้น ทันทีที่ฉันเห็นหน้าเคนเป็นครั้งแรก แต่ฉันคงคาดหวังมากเกินไป
“ฮือออ อึกกก ฮือออ อึกกกกกกก”
เสียงสั่นเครือ สะอึกสะอื้นสลับเจือกระซิก ฉันสติหลุด ฉันไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ ฉันใช้ความพยายามอย่างมากในการกลั้นน้ำตาเก็บเสียงร้องไห้ ไม่แสดงความเจ็บปวดและผิดหวัง ร่างกายของฉันกระตุกเป็นระลอก น้ำตาของฉันก็ยังคงไหลไม่หยุด มันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ชีวิตสมรสของฉันพังทลายลงในวันนั้นนาทีนั้น
สายตาของฉันจับจ้องมองที่เคน ที่กำลังมองฉัน แล้วยิ้มแป้นอย่างเด็กยิ้มง่าย อยู่ในวงแขนของแม่ของดี หัวใจของฉันร้าวราน ความต่ำต้อย ด้อยคุณค่าที่คนรักยัดเยียดให้ฉัน พุ่งกระโจนเข้าทำร้ายกอบกุมจิตใจของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี
ความรักที่ฉันเคยให้ดีไป ดีใช้มือคู่ใหญ่ที่มีแรงมหาศาลคู่นั้นขยำหัวใจของฉัน ด้วยการตบเข้าที่ใบหน้า บีบคอ แล้วเขวี้ยงร่างของฉันดั่งเศษขยะที่เหลือในกำมือ ฉันถูกคนรักเหยียบย่ำจิตใจ ด้อยคุณค่า หยามศักดิ์ศรีของฉันอย่างไม่น่าให้อภัย
ความเชื่อมั่น ความภักดี ความศรัทธา และความซื่อสัตย์ในความรักของฉัน ดีใช้มันมาทำร้ายฉัน ดีมองจ้องทำทีท่าท้าทายเย้ยหยันฉัน อย่างผู้กำชัยชนะ
ดีรู้เป็นอย่างดีว่าการแต่งงานของฉันและดีครอบครัวของฉันไม่พึงพอใจเอาเสียเลย แต่เป็นฉันเองที่ยังรั้น ดึงดัน ไม่ฟังคำทัดทานจากป๊า ฉันถูกป๊าตัดหางปล่อยวัดตั้งแต่วันแรกที่แต่งงานออกจากบ้าน จนถึงวันสุดท้ายที่อยู่กับดี
ทุกครั้งที่ฉันโทรฯ กลับมาที่บ้าน แม่จะเป็นผู้รับสาย และสนทนากับฉัน ไร้เสียงป๊า ไร้การพูดคุยกับป๊า ฉันเข้าใจป๊าเป็นอย่างดีที่ทำกับฉันแบบนั้น ฉันทำป๊าผิดหวัง นาทีนั้นฉันเคว้งมากจริง ๆ
ฉันไร้ที่พึ่ง ไร้คนปลอบใจ ไร้พรรคพวก ไร้งาน ไร้เงิน ไร้เกียจ และไร้ศักดิ์ศรี ทั้งดีและเคนเป็นโลกทั้งใบของฉันในเวลานั้น แต่ดีก็ยังทรยศฉันอย่างหน้าไม่อาย
เคนเป็นความสุขเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของฉัน ดีก็ยังขู่พรากเคนไปจากฉันอีก ชีวิตของฉันช่วงนั้นช่างน่าอดสูเสียจริง
ความเพ้อฝัน:
ดี และครอบครัวของดียืนมองฉันเป็นตาเดียว นาทีนั้นฉันไม่สนใจความหมายของสายตาที่พวกเขาพยายามสื่อ
ฉันคิดเพียงแค่ว่า “ฉันสัญญาว่าจะไปจากครอบครัวนี้แน่นอนอีกไม่นาน แต่ฉันขอเวลาอยู่กับเคนลูกรักของฉันให้นานขึ้นอีกสักนิด หรืออีกเพียงสักวันก็ยังดี”
ฉันกำลังจดจำใบหน้าของเคน ฉันอยากจ้องมองเคนอย่างนี้ให้นานเท่านาน เผื่อการมองเคนครั้งนี้ของฉันจะช่วยฉันซึมซับใบหน้า รอยยิ้ม ความรัก และความคิดถึงเคนไปใช้ในยามที่ฉันและเคนต้องจากกัน และเผื่อเคนจะจดจำใบหน้าของฉันได้บ้างในอนาคต
หูของฉันได้ยินเพียงเสียงสะอื้นไห้ของตัวเองสลับกับเสียงของฟันบน และฟันล่างกระทบกันไปมา ร่างกายที่สั่นเทาของฉันยืนแน่นิ่งด้วยความกลัวการพลัดพราก ฉันจะทำอย่างไรดี ถ้าพรุ่งนี้ฉันอยู่บนโลกที่ไม่มีเคน ฉันจะทนได้อย่างไร
ชีวิตของฉันที่ผ่านมา ฉันมักไม่เคยมีอาการกลัวสิ่งใดเลย ฉันกล้าหาญ ดื้อรั้น มั่นใจในตัวเองตลอดมา ฉันไม่เคยอ่อนแอ รันทด อดสู ร้องไห้เสียใจ สะอึกสะอื้น ไร้ทางออก และกลัวอะไรมากเท่านี้มาก่อน ฉันกลัวที่จะต้องห่างจากเคน ฉันกลัวเหลือเกิน
ความระทึกขวัญ:
<พฤติกรรมการข่มขู่ทำร้ายในความสัมพันธ์ใกล้ชิด เป็นความรุนแรงในครอบครัว ในความสัมพันธ์บุคคลหนึ่ง อยู่ในสถานะที่มีอำนาจเหนือกว่า และทำให้เกิดความกลัว มีชื่อเรียกหลายอย่าง เช่น ความรุนแรงในความสัมพันธ์ ความรุนแรงในครอบครัว หรือความรุนแรงของคู่รัก มักเรียกผู้ทำร้ายว่า “ผู้กระทำความรุนแรง”
<ผู้กระทำความรุนแรง ใช้วิธีการหลายอย่างเพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจ และการควบคุมไว้ ได้แก่ การบีบคอ การทุบตี การผลัก ขู่จะทำอันตราย ทำร้ายจิตใจ ด่า ว่า ดูถูก เหยียดหยาม ปฏิบัติต่อกันอย่างไม่ให้ความเคารพ ทำให้โดดเดี่ยว จนไม่ได้รับความช่วยเหลือ ถูกแยกตัวออกจากครอบครัว
<การส่งข้อความหรือโพสต์ในสื่อ social network ตามดู ติดตามช่องทางต่าง ๆ การห้ามไม่ให้ทำงาน การข่มขู่บังคับให้เซ็นเอกสาร บังคับเอาเงินจากอีกคนหนึ่ง ขู่จะทำร้ายสัตว์เลี้ยง ขู่จะทำร้ายคนรัก “ทำให้อีกฝ่ายหมดศักดิ์ศรี ก็เรียกว่าการใช้ความรุนแรง”[4]
ความเชี่ยวชาญ:
“มึงยังจะยืนเฉยอีกทำไม? ถ้าเขาไปฟ้องพ่อ ฟ้องแม่เขา เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ รีบขึ้นไปกอดสักสองสามทีเดี๋ยวก็หายไป ๆ รีบตามไป” พ่อสามีสอนลูกชายของตนอย่างคนที่ผ่านโลกมาก่อน อย่างนี้เขาเรียกกันว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นหรือเปล่านะ!?
“ครับ” ดีตอบพ่อของตน อย่างคนที่เชื่อฟังพ่อแม่
ฉันเดินลงบันไดมาได้เกือบครึ่งทาง ฉันอยากพาเคนขึ้นไปที่ห้องนอนด้วย ฉันอยากกอดเคนระหว่างร้องไห้ เวลานั้นฉันไม่มีหน้าเพียงพอที่โทรฯ กลับมาบ้านป๊าแม่ เพื่อระบายให้ป๊ากับแม่ฟัง ว่าฉันถูกผู้ชายที่ฉันเลือกใช้ชีวิตด้วยทำร้ายร่างกาย และชี้หน้าด่าไล่ฉันอย่างคนไร้ที่ไป ฉันจึงทำได้เพียงกอดเคนแทนคำปลอบใจป๊าและแม่เท่านั้น
อีกไม่กี่ขั้นบันไดก็ถึงชั้นหนึ่งแล้ว ระหว่างทางฉันได้ยินประโยคสนทนาระหว่างพ่อของดีที่สั่งสอนดีอย่างชัดเจน ด้วยหูทั้งสองข้างของฉันเอง ฉันจึงหันหลังกลับแล้วเดินขึ้นชั้นสองไปที่ห้องนอนเช่นเดิม
การปลอบโยน:
< “ลูกรัก จงดูเยี่ยงพยัคฆ์โคร่งใหญ่ ถึงเก่งกาจอาจหาญสักปานใด ย่อมมิเคยทำร้าย ซึ่งลูกเมีย”[☆] [5]
[☆] วรรณดีเรื่อง เงาะป่า พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตอน "ลำหับแต่งงานกับฮเนา"
“หนูพี่ดีขอโทษนะ เจ็บไหมคะ? จะบอกป๊าหรือเปล่า? อย่าบอกเลยนะ ถ้าบอกป๊า ๆ ก็ไม่อยากให้เราอยู่ด้วยกันแล้ว?” ดีอุ้มเคนมาให้ฉัน ๆ กอดเคน
“ฮือออออ อึกกกก”
ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้น ส่วนดีกำลังกอด หอมแก้ม และจูบลงที่หน้าผากของฉัน ตามคำสั่งพ่อของเขา ฉันนั่งนิ่ง ๆ ให้ดีลองง้อฉัน แบบที่พ่อของดีสอน ฉันไม่รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
“กูจะไปนอนบ้านตูน” ฉันพูดสวนดีทันที
ฉันนั่งบนที่นอนหกฟุต สายตาและมือของฉันกอดเคนชิดแนบอกแน่น เคนกำลังเอาใบหน้ามาซุกไหล่
ฉันทนนิ่งเฉยให้ดีกอด หอม จูบเรียบร้อยแล้ว ความโกรธของฉันไม่ลดลงดังคำที่พ่อของดีพูด ความเจ็บช้ำของฉันไม่จางหายไป แต่เหมือนมีเหตุผลบางอย่างโดดเด่น และแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น
นั่นคือความขยะแขยง และรู้สึกว่าช่างตาต่ำอะไรมากมายเช่นนี้ เริ่มมีคำถามใหม่วนเวียนในหัวคือ !? ฉันมีปัญญาเลือกคู่ชีวิตได้ดีแค่นี้เองหรือ? ฉันอยากอยู่กับครอบครัวแบบนี้ตลอดชีวิตของฉันหรือ?
ครอบครัวที่ฉันอยู่ด้วยตอนนี้มีพฤติกรรมทุเรศ หน้าด้าน ไร้ยางอาย หยาบคาย และถ่อย!! ครอบครัวนี้หรือที่ฉันอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วย!!??
ความจงเกลียดจงชัง เหม็นขี้หน้า จนไม่อยากมองดี และครอบครัวของดี เพิ่มขึ้นภายในใจของฉันอย่างรวดเร็ว
ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พรุ่งนี้หลังจากที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา ความคิดเหล่านี้จะอันตรธานหายไป ฉันจำต้องทนพยายามอดทนกว่านี้ เพื่อเคน ฉันไม่อยากให้ลูกต้องกำพร้าแม่!!
ความสมดุลของจิตใจ:
< ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น มีสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งมาจากการที่ร่างกาย และจิตใจเสียสมดุล โดยมีปัจจัยจากสภาพแวดล้อม มลพิษ สารเคมี ฝุ่นละออง และเชื้อโรค รวมถึงการดำเนินชีวิตประจำวันที่มีความเร่งรีบ แข่งขัน ความเครียดทำให้เกิดผลต่อจิตใจ[6]
ประมาณ 19.00 น. ปี 3553
คืนนี้ฉันไม่สามารถอยู่ที่บ้านนี้ได้จริง ๆ ฉันไม่สามารถนอนร่วมเตียง ใช้ชีวิตภายในห้องเดียวกันกับดีได้อย่างสนิทใจเช่นเคย
ฉันไม่อยากแม้แต่จะได้ยินเสียง เห็นหน้า หรือเสแสร้งแสดงว่าฉันไม่โกรธ ฉันอภัยได้เพื่อเคน เพราะแท้จริงแล้วฉันแทบจะเก็บอาการรังเกียจดีไว้ไม่ไหว
ตั้งแต่ฉันย้ายมาอยู่กับดีแบบจริงจังหลังแต่งงาน ดีเป็นผู้ถือโทรศัพท์มือถือของฉันไว้ตลอดเวลา ดีลบหมายเลขโทรศัพท์มือถือบรรดาเพื่อนทั้งหญิงและชายของฉันจนหมดสิ้น ไม่เว้นแม้รายชื่อที่แสดงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นชื่อคนในครอบครัวของฉัน ดีไม่ได้เลือกลบชื่อใดชื่อหนึ่ง แต่ดีเลือกลบทั้งหมด
ฉันฉวยโทรศัพท์มือถือของฉันที่ดีถืออยู่ แล้วกดหมายเลขโทรศัพท์มือถือของตูน ต่อสายหาตูน ตั้งแต่คลอดเคนฉันยังไม่ได้เจอตูนเลย ฉันรู้ดีว่าทำไมตูนถึงเงียบหายไปจากชีวิตของฉัน เพราะ “ตูนโทรฯ หาฉันหลายครั้งแต่ดีบอกว่าฉันไม่ว่าง ถ้าว่างแล้วจะให้โทรฯ กลับ” ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
“มึงอยู่บ้านไหม?” ฉันโทรฯ ถามตูน ก่อนที่จะได้ยินคำกล่าวทักทายจากตูน
“อ่ะ อยู่ เสียงไม่ดีเลยเป็นไร?” ตูนสังเกตฉันเสมอ และตูนก็ยังคงฉลาดเช่นเคย
“กูโดนตบ” ฉันบอกตูนเสียงเครียด
“มาบ้านกู! มีเงินไหม?” ตูนบอกฉัน
“ไม่มี” ฉันตอบ
“มึงนั่งแท็กซี่มาเลย ของไม่ต้องเก็บ เดี๋ยวกูจัดการเอง ออกจากบ้านมันมาเลย กูจะลงไปรอมึงตอนนี้เลย ไม่ต้องกังวล” ตูนสั่งฉันด้วยน้ำเสียงที่โมโห และร้อนใจ
“ตุบ!!!”
ทันทีที่วางสายจากตูน ฉันลบหมายเลขโทรศัพท์ของตูนอย่างรวดเร็ว แล้วโยนโทรศัพท์มือถือของฉันคืนให้ดี ลงบนพื้นห้องนอน
ฉันเดินลงบันไดไปยังชั้นหนึ่ง เดินเข้าไปในห้องครัว เปิดเครื่องอบขวดนมที่ลูกพี่ลูกน้องของดีให้มาใช้ไปพราง ๆ ระหว่างลูกพี่ลูกตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง ฉันหยิบขวดนมที่อบเสร็จเรียบร้อย ค่อย ๆ เทน้ำอุ่นลงไป จัดแจงชงนมให้เคนสี่ขวดใหญ่
ระหว่างที่เตรียมนมให้เคน แขนข้างหนึ่งของฉันอุ้มเคนตลอดเวลา แขนอีกข้างหนึ่งของฉันก็ชงนม แล้วหยิบขวดนมที่ชงเรียบร้อยแล้วเตรียมใส่ในถุงหิ้วพลาสติกใส ตั้งแต่เคนเกิดฉันสามารถทำอะไรได้ด้วยแขนเดียวทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว และทำได้ดีเสียด้วย
ฉันเดินดิ่งออกจากบ้านของดี โดยไม่ได้ขออนุญาตใครเลยสักคน โชคดีของฉันมีรถแท็กซี่ขับผ่านมาทางฉันพอดี ฉันยื่นมือเรียกรถฯ แล้วเปิดประตูขึ้นรถฯ แจ้งสถานที่ปลายทางให้คนขับรถฯ ออกรถฯ ทันทีไ ไม่ต้องชะลอ ดีวิ่งตามมาเคาะประตูแบบหวุดหวิด
< เหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวทุกคน เมื่อถูกทำร้ายมักจะหนีเพื่อเอาตัวรอด และผู้ทำร้ายก็มักจะมีวิธีคล้าย ๆ กัน คือ ขู่ทำร้ายคนที่เหยื่อรัก เช่น ขู่ทำร้ายลูก ขู่ทำร้ายครอบครัวเหยื่อ ขู่แฉเรื่องลับ (Blackmail) เป็นต้น ทำให้เหยื่อเกิดความหวาดกลัว ต้องกลับมาด้วยความหวาดระแวง รู้สึกหมดทางเลือก (Hopelessness)
เมื่อถึงหน้าบ้านตูน ๆ จ่ายเงินค่ารถฯ ให้ฉันเกือบสามร้อยบาท แล้วพาฉันไปไหว้กล่าวทักทายพ่อและแม่ตูนในบ้าน พ่อแม่ของตูนรับไหว้ฉันตามปกติ แต่สายตาของพ่อและแม่ตูนมองมาที่ฉัน ทั้งสองนิ่ง ดูอึ้ง ๆไปเกือบสิบวินาที พ่อแม่ของตูนคงรู้อยู่แล้วว่าฉันเจอเหตุการณ์อะไรมาบ้าง
แม่ของตูนเดินดิ่งตรงมาที่ฉัน ยื่นมือขออุ้มเคน แล้วก็อุ้มเคนเดินไป เดินมาในบ้าน สักพักก็อุ้มออกไปนอกบ้าน คุยกับแม่ค้าขายของริมทางด้วยเสียงดังเจื้อยแจ้วตามปกติแม่ของตูน จบด้วยการอุ้มเคนเข้าร้านสะดวกซื้อ
เคนได้ของเล่นมา 2-3 ชิ้น แม่ของตูนบอกฉันว่าเคนเลือกเอง เคนอยากได้ทุกชิ้นเลยแล้วก็หัวเราะเสียงดัง เคนได้ยินแม่ของตูนหัวเราะก็พลอยหัวเราะเอิ๊กอ๊ากตามไปด้วย ดูเคนมีความสุขดูชอบใจเป็นอย่างมาก
“จ๊ะเอ๋ ๆๆๆ”
เสียงพ่อของตูนเล่นกับเคน แม่ของตูนลองปล่อยให้เคนเดินเล่นภายในบ้าน เคนเดินตรงดิ่งไปเกาะที่บั้นท้ายพ่อของตูน ที่ยืนมองสารรูปของฉันอย่างเงียบ แล้วชะโงกหน้าคล้ายชวนพ่อของตูนเล่นจ๊ะเอ๋ พ่อของตูนมองหน้าฉัน คล้ายจะบอกว่าจะขออุ้มเล่นหน่อย
“...” ฉันยิ้ม และพยักหน้าเบา ๆ ให้พ่อของตูน ที่ผ่านมาพ่อของตูนไม่ชอบฉัน และแสดงออกอย่างชัดเจนเลยทีเดียว แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะไล่ฉันออกจากบ้าน ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ฉันรู้ว่าสายตาที่พ่อของตูนมองฉันหมายความว่าอย่างไร? ฉันต้องขอบคุณตูนและครอบครัวอย่างมากที่เมตตาฉันตลอดมา
การตัดสินใจในการเลือกคู่ครอง หมายถึง ความสุข ความสมหวัง หรือความล้มเหลวในชีวิตของคู่สมรส ก่อนตัดสินใจแต่งงานควรคิดอย่างรอบคอบ และเตรียมใจให้พร้อม
การเลือกคู่ครองจึงควรใช้เหตุผลมากกว่าที่จะใช้อารมณ์ โดยพิจารณาคุณสมบัติพื้นฐานของผู้ที่จะได้รับเลือก เพื่อคาดหวังผลสำเร็จในอนาคต[7]
▫️▫️▫️▫️▫️
#จิตวิทยา #ครอบครัวของฉัน #ประสบการณ์ #บันทึก #ความทรงจำ #รักสีเทา #redflags #พลัดพราก
▫️▫️▫️▫️▫️
บันทึกเรื่องสั้น “ดราม่า” แฝงความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ
ขอฝากกดติดตาม กด Like และแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ฉันด้วย
ขอบคุณค่ะ 🙏
สองทุ่มสิบ ♧ 20.10
นามปากกา♧ ทรงศรี (SONGSI)
LINE 🆔️ ♧ 2010_songsi
หมายเหตุ:
[No] อ่านเพิ่มเติม / Ref
[☆] ขยายความ
< อื่น ๆ
▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
Ep. 29 คนที่ฆ่าฉัน > Part สีม่วง
▫️▫️▫️▫️▫️
Ref:
▫️▫️▫️▫️▫️
[1] ความหมายของสี https://www.thaisoung.com/page/tips/meaning-of-colors
[2]“ฉันเกิดในสีม่วง” เรื่องราวสูงสุดสู่สามัญของสีที่บอกว่าฉันคนนี้มีความราชนิกูล https://adaymagazine.com/purple-color/
[3] ความหมาย นัยสำคัญ และอารมณ์ต่างๆที่แฝงอยู่ในสีแต่ละสี https://www.spaceship.in.th/knowledge-base/5
[4]เกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวและในความสัมพันธ์ https://www.1800respect.org.au/languages/thai-what-is-1800respect/thai-about-domestic-and-family-violence
[5]เพลง ทองย่อน https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/7527-00
[6]การดูแลสุขภาพกายและใจให้สมดุล https://www.manarom.com/blog/Balance_mind_and_body.html
โฆษณา