8 ก.ค. เวลา 04:02 • หนังสือ

Tomorrow and Tomorrow and Tomorrow [BOOK REVIEW]

‘คุณเป็นคนเล่นเกมส์ ซึ่งนั่นแปลว่าคุณเป็นคนที่เชื่อว่า คำว่า ‘จบเกม’ คือการเริ่มต้นใหม่ เกมจะจบก็ต่อเมื่อเราเลิกเล่นมัน เพราะยังไงเราก็จะได้ชีวิตใหม่มาเล่น แม้แต่การตายที่โหดร้ายที่สุดก็ไม่ได้แปลว่าเราจะจบชีวิต คุณอาจจะกินยาพิษ ร่วงลงไปในบ่อกรด โดนตัดหัว หรือถูกยิงเป็นร้อย ๆ ครั้ง เมื่อไหร่ที่คุณกดเริ่มเกมใหม่ คุณก็สามารถเริ่มเล่นได้อีก…
‘เกมส์คืออะไร มันคือพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ และพรุ่งนี้ มันคือโอกาสที่ไม่สิ้นสุดในการเกิดใหม่ และการแก้ตัว ความคิดที่ว่าถ้าเราเล่นต่อ เราจะชนะ ไม่มีใครที่จะพ่ายแพ้ตลอดกาลเพราะไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะหยุดอยู่แค่วันนี้ ‘
ข้อความที่ให้คำนิยามคนเล่นวิดีโอเกมส์ไว้อย่างดีมาก ที่ Gabrielle Zevin เขียนไว้ในหนังสือของเธอชื่อ Tomorrow, and Tomorrow, and Tomorrow
แค่ชื่อหนังสือก็ดึงดูดให้ต้องอ่านและคุ้มค่าจริงๆที่ได้อ่าน เพราะพรุ่งนี้มีอะไรมากมายที่คนเราต้องเผชิญ ทั้งเรื่องดี ไม่ดี เรื่องที่ทำให้เราเป็นเราในวันนี้
Tomorrow, and Tomorrow, and Tomorrow เป็นเรื่องแต่งเกี่ยวกับผู้สร้างวิดีโอเกมส์ 2 คน Sam Mazur (แซม มาเซอร์) และ Sadie Green (เซดี้ กรีน) ที่พบเจอกันครั้งแรกในโรงพยาบาลที่แอลเอตั้งแต่ยังอยู่ชั้นประถม แซมเป็นคนไข้มารักษาแผลที่เท้าที่แตกละเอียดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทำให้แม่ต้องเสียชีวิต
เซดี้มีพี่สาวเป็นมะเร็ง ทั้งคู่พบกันที่ห้องเล่นเกมส์ และแซมทำให้ เซดี้ประทับใจในความเก่ง ทั้งคู่ผลัดกันเล่นเกมและพูดคุยกัน เป็นครั้งแรกที่แซมคุยกับคนอื่นในรอบ 6 อาทิตย์หลังเกิดอุบัติเหตุ จนพยาบาลและแม่ของเซดี้เกิดความคิดให้เซดี้มาพบแซมทุกวันโดยถือว่าเป็นงานบริการชุมชน โดยที่แซมไม่รู้เรื่องนี้ เซดี้เจอแซมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 600 ชม.ได้รางวัลจนอลิซพี่สาวเธออิจฉาและแอบบอกแซม
แซมโกรธและไม่เจอเซดี้อีกเลยจนพวกเขามาเจอกันที่บอสตัน แซมเข้าเรียนที่ Harvard ด้วยความเก่งคณิตศาสตร์ เซดี้เข้าที่ MIT มีความหวังที่จะเป็นนักพัฒนาเกมส์ พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นใหม่
เมื่อเซดี้เลิกกับ Dov (ดอฟ) แฟนนักพัฒนาเกมส์ อาจารย์ของเธอที่กลับไปหาภรรยาและลูกที่อิสราเอล เธอเก็บตัวอยู่ในห้องเช่า ไม่พบกับใคร แซมที่ยังเดินได้เพราะใช้เหล็กยึดกับเนื้อที่ขาเพื่อเป็นนิ้วเท้าเดินไปหาเซดี้ทุกวันเป็นเวลาหลายอาทิตย์เพื่อกระตุ้นให้เซดี้กลับมาใช้ชีวิต พวกเขาพูดคุยและเล่นเกมส์ด้วยกันเหมือนตอนเป็นเด็ก จนแซมเกิดความคิดว่าพวกเขาน่าจะมาทำเกมส์ด้วยกัน โดยมี Marx รูมเมทของแซมช่วยเหลือแบบใกล้ชิด จน Ichigo เกิดขึ้นมา
แซมยอมไม่เรียนต่อเพราะหวังกับเกมนี้มาก เนื่องจากครอบครัวตายายชาวเกาหลียากจน เขาต้องกู้เงินเรียนและติดค่ารักษาพยาบาล เขาผลักดันให้เซดี้เขียนเกมจากโครงเรื่องที่พวกเขาคิดร่วมกัน ทำให้เซดี้ต้องติดต่อดอฟเพื่อขอ Game engine (ซอฟต์แวร์เพื่อใช้สร้างวิดีโอเกม) มาใช้และกลับไปมีความสัมพันธ์กันใหม่
ดอฟช่วยพวกเขาปิดรูโหว่และเสนอขายเกม จน Ichigo โด่งดังและพวกเขาตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อสร้างสรรค์ผลงานในโลกเสมือนไปด้วยกันโดยมีแซมและเซดี้เป็นนักพัฒนาและมาร์กซ์เป็นผู้บริหาร
เรื่องราวคงจบ happy ending แบบนี้ถ้าไม่มีวันพรุ่งนี้ ที่มีเหตุนำไปสู่การค้นหาตัวตน ความสำเร็จ ความผิดหวังและความล้มเหลว ไปจนถึงการต้องคอยแก้ความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิง ฝ่าฟันปัญหาชีวิต จากเด็กน้อยสิบขวบจนพวกเขาอายุสามสิบกว่า และได้เรียนรู้ว่าโลกความเป็นจริง เราต่างไม่มีปุ่มให้กดเริ่มต้นเกมใหม่ นอกจากกดผจญภัยต่อไปในวันพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วจะทำให้ทุกคนประทับใจในความสัมพันธ์ และร่วมเดินไปกับแซมและเซดี้ในการรับมือกับสิ่งที่เข้ามาในชีวิต โดยไม่มีใครผิดหรือถูก เพราะทุกคนมีแบ็คกราวด์และความคิดที่ต่างกันที่ทำให้การกระทำออกมาไม่เหมือนกันแม้ว่าจะเจอกับสิ่งที่พรุ่งนี้นำมาเหมือนๆกัน
ทำให้เรารู้ว่าโลกเสมือนและชีวิตจริง มีความต่าง ในเกมเราอาจเริ่มใหม่ได้ทุกวัน แต่ในชีวิตจริง เรากด rewind หรือ forward ไม่ได้ ชีวิตที่ดีของวันพรุ่งนี้เริ่มจากวันนี้
โฆษณา