8 ก.ค. 2024 เวลา 06:08

Traffic Pattern

การบินในวงจร พื้นฐานการบิน
เพื่อการลงจอดที่ถูกต้อง
ความเข้าใจและเชี่ยวชาญขั้นตอนการบินที่เป็นรูปแบบ Traffic Pattern เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบินและความปลอดภัย รวมทั้งถูกนำมาใช้กับสนามบินที่ไม่มีหอบังคับการบินด้วย
โดยสร้างเป็นเส้นทางลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้กลายเป็นเส้นทางที่เหมาะสมนำไปสู่การลงจอดที่ประสบความสำเร็จและยังถูกนำมาใช้กับการฝึกบินในรูปแบบ School Flight ของนักบินฝึกหัดก่อนไปทำการบินจริงกับเครื่องบินขนาดใหญ่อีกด้วยครับ
รูปแบบ Traffic Pattern ประกอบด้วย 
#Departure Leg (500-700 ฟุตเหนือพื้นดิน)
วิ่งขึ้น(Takeoff)จากทางวิ่ง(Runway)และบินขึ้นไปถึง 500-700 ฟุตเหนือระดับพื้นดิน (AGL) ช่วงนี้นักบินจะเห็นมุมมองกว้างของสนามบินและสภาพแวดล้อม ช่วยให้ประเมินและวางแผนการบินนำสู่การลงจอด(Landing)ที่ถูกต้อง
#Crosswind Leg (700-900 ฟุตเหนือพื้น)
เปลี่ยนผ่านจากช่วงต้นลม(ลมพัดตรงหน้า)รักษาระดับ 700-900 ฟุตเหนือพื้นดิน เริ่มปรับทิศทางและตำแหน่งของเครื่องบินเตรียมพร้อมสำหรับช่วง Downwind Leg
#Downwind Leg (ปกติอยู่ที่ความสูงประมาณ - 1000 ฟุตเหนือพื้นดิน)รักษาระดับความสูงของ Traffic Pattern โดยปกติคือ 1000 ฟุตเหนือระดับสนามบิน อาจแตกต่างได้บ้างตามความเหมาะสม
ช่วงนี้เครื่องบินจะบินขนานกับทางวิ่ง รักษาระดับการบินให้คงที่ในสภาพแวดล้อมและกระแสลมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
#Base Leg
เริ่มการลดระดับความสูงรูปจาก Traffic Pattern ลงมาที่ 500-600 ฟุตเหนือพื้นดิน ปรับกำลังเครื่องยนต์และเริ่มใช้อุปกรณ์เตรียมการลงจอดเตรียมพร้อมสำหรับเปลี่ยนไปสู่ Final Approach
#Final Approach
จัดตำแหน่งเครื่องบินให้ตรงกับแนวกึ่งกลางทางวิ่ง(Runway)ให้แม่นยำรักษาความเร็วประมาณ 1.3 เท่าของความเร็วที่เครื่องบินร่วงหล่นหรือ V stall (Vso) ลดระดับลงสู่ทางวิ่งด้วยอัตราการร่อนที่ถูกต้องแม่นยำเพื่อการลงจอดที่ปลอดภัย
** ในการบิน Traffic Pattern ความยืดหยุ่น
ปรับแต่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากการลงจอดแต่ละครั้งมีความท้าทายที่ไม่เหมือนกันมีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและลมตลอดเวลา
การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญ
โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเร็วและความสูงอย่างเหมาะสมซึ่งนักบินจะต้องนึกถึงทิศทางลมเสมอครับ
เรื่องท้าทายแบบนี้ถ้าผ่านแล้วจะมั่นใจครับ
กัปตันหมี
Cr: FB: The Sky’s The Limit
โฆษณา