8 ก.ค. เวลา 13:12 • ไลฟ์สไตล์

คนเกษียณที่โชคดีและมีความสุขที่สุด

คนที่เกษียณอายุแล้วมีความสุขที่สุดคือ คนที่มีเงินเพียงพอที่จะใช้ชีวิต โดยมีครบ " ปัจจัยสี่ " ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน ในการดำรงชีวิต ได้แก่ ..... อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค บวกกับ " ปัจจัยที่ 5 " คือ มีแรงพอที่จะได้ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในสถานที่ต่างๆ
⏩ ในอดีต ข้าพเจ้า มีความคิดผิดมาตลอด ว่า มีเงินแล้ว ต้องซื้อทุกสิ่งที่อยากได้ : ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ทั้งในกรุงเทพฯ คอนโดริมทะเล ที่ดินในจังหวัดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด
⏩ แต่แล้ว ! ทุกอย่างที่ซื้อหามานี้ มันสร้างภาระ อันหนักหน่วงให้กับตัวเราอย่างมาก เพราะ ทั้ง ค่าดูแลรักษาสูงมาก แต่ก็ยังไม่สูงไปกว่าความกังวลต่างๆ นานา ที่เกิดขึ้นระหว่างครอบครองสมบัติต่างๆเหล่านี้
⏩ ไหนจะต้อง หาคนมาเช่า เวลาที่ว่างเว้น จากคนเช่า ก็อดกลุ้มใจมิได้ เพราะ มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายรับ และ เมื่อมีผู้เช่า ก็ต้องเอาอกเอาใจผู้เช่า เพื่อจะให้เขาเช่าไปนานๆ ได้ผู้เช่า ดี ก็ดีไป แต่ ถ้าไม่ดี ก็จะมีเรื่องจุกจิกกวนใจมิได้ขาด เมื่อผู้เช่าเลิกเช่า ก็ต้องหาช่างมาซ่อมแซม ส่วนที่เสียหาย รอผู้เช่าคนต่อไป
⏩ ส่วนอสังหาฯ อื่นๆ : ที่มิได้ให้เช่า เช่น ที่ดิน ก็มีภาระต้องชำระภาษีทุกปี ที่ดินจะปล่อยรกร้าง ให้วัชพืชขึ้นท่วมหัวก็ไม่ได้ ต้องคอยจ้างคนมาจัดการดูแลอยู่เนืองๆ มิฉะนั้น ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม 30 เท่า ถ้า เป็นที่รกร้าง ไม่ได้ทำประโยชน์
⏩ นอกจากอสังหาฯ ที่ซื้อหา มาอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง แล้ว : ของใช้ส่วนตัวต่างๆ ก็ยังซื้อหา ตามใจ ตามค่านิยมในยุคนั้น เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ นาฬิกา เครื่องสำอาง ต่างๆ ซื้อมาด้วยแล้ว ก็ใช้ได้ไม่นาน ก็เปลี่ยนใหม่ ... นี่ถ้าเอาเงิน ที่ซื้อสิ่งของเหล่านี้ มากองรวมๆ กัน คงซื้อบ้านหลังงามๆ ได้อีกหลังหนึ่ง ‼หรือ ท่องเที่ยวรอบโลกได้
⏩ ตั้งใจซื้อ คอนโดริมทะเล เพื่อเอาไว้มาพักผ่อนหย่อนใจ แต่ได้มาพัก ปีละไม่กี่วัน เท่านั้น และ ทุกครั้งที่มาพัก กลับไม่ได้พักผ่อนให้สบายใจดังหวัง เนื่องจาก ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการหาคนมาทำความสะอาด ต้องซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ซึ่งมีเป็นระยะๆ ในช่วงที่ไม่ได้มาพัก ก็มีค่าใช้จ่ายในการดูแล ค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษา ที่สำคัญคือ ... ทำให้เสียโอกาสที่จะได้ไปพักที่อื่น
⏩ ข้าพเจ้า จึงตัดสินใจ เปลี่ยนชีวิตใหม่ในวัยเกษียณ : เพื่อให้มีความสุข และผ่อนคลาย มากกว่า ต้องมาเสียเวลา ในการมานั่งวิตกกังวลต่างๆ
⏩ ดังนั้น เราจึงตัดสินใจ ขายทรัพย์สินเกือบทุกอย่าง เหลือไว้เพียง ที่พักส่วนตัว ที่ใช้เป็นที่พักอาศัย ในกรุงเทพฯ 1 แห่ง ในต่างจังหวัด 1 แห่งเท่านั้น นอกจากนั้น ตัดสินใจ จะขายทิ้งไป ถ้า ลูกๆ จะไม่ดูแลต่อไป
ไม่ต้องมีทรัพย์สินอะไร ให้มาก ไม่ต้องปวดหัวกังวล กับการหาคนเช่า ไม่ต้อง กังวลกับการได้ผู้เช่าไม่ดี ไม่ต้องเสียเงินค่าบำรุงรักษา ไม่ต้องเสียค่าดูแลส่วนกลาง ไม่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่นับวัน จะมีมากขึ้น
⏩ ไม่มีคอนโดริมทะเล เพื่อจะไปพักซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากไปพักที่ไหน ก็ไปพักตามโรงแรม สะดวกสบายทุกอย่าง ได้พักผ่อนในที่หลากหลาย สบายสมใจ ไม่ต้องทำความสะอาด ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางทุกเดือน ‼
⏩ ที่ดินต่างๆ ทั่วประเทศ : ก็ขายทิ้งไปหมด ได้เงินมากอด ไว้ให้สุขใจ แล้วนำไปฝากในสถาบันการเงิน 💸 ที่ให้ดอกผลเพียงพอกับการดำรงชีวิตโดยมีครบปัจจัยทั้ง 5
⏩ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ มีของเก่าก็ใช้ต่อ เก็บไว้แค่ไม่กี่ชิ้น เลือกชิ้นที่ใช้ได้บ่อยๆ นอกนั้นบริจาคไปจนหมด ไม่ต้องเก็บไว้ให้รกบ้าน ถ้าจะหาซื้อใหม่ก็ใช้ของราคาไม่แพง ให้คุ้มกับการใช้
🛑 ปัจจุบัน มีที่พักในกรุงเทพฯ และ บ้านที่ต่างจังหวัดเท่านั้น สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย ค่าใช้จ่ายลดลงมาก : จึงมีเงินเหลือใช้ เพื่อการท่องเที่ยวได้อย่างสบายๆ อยากไปไหนก็ไปกัน ไม่ต้องคอยห่วงสมบัติ ‼ ไม่ต้องห่วงหมาแมว
⏩ อยากทานอาหารอะไร : ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ก็ทำทานกันเอง ถ้าเบื่อที่จะทำ ก็สั่งอาหารมาที่บ้าน 🏠 เดี๋ยวนี้ แทบทุกแห่งในโลก สั่งอาหารได้ทางออนไลน์หาทานได้ แทบจะทุกภัตตาคาร ไม่ต้องถ่อขับรถ 🚘 ฝ่ารถติด ออกไปให้ปวดหัว ยามว่าง : ก็หาอะไรทำให้เพลิดเพลิน
⏩ พอเริ่มเบื่ออยู่บ้าน : ก็หาเรื่องขับรถไปเที่ยว ปิกนิกริมทะเล 🏖 หรือไปชมสวนดอกไม้ ในวนอุทยานต่างๆ ให้เพลิดเพลินเจริญใจ ซึ่งไม่ได้ทำให้ เงินในกระเป๋าร่อยหรอไปมากนัก
⏩ ไปตรวจสุขภาพ กับหมอบ้าง หรือ 🏥 ตรวจหัวใจ ตรวจสายตา ตรวจการได้ยิน ตรวจฟัน เป็นครั้งคราว
⏩ แดดร่มลมตก : ก็ออกไปเดินออกกำลังกาย ถ้าคู่ชีวิตยังอยู่
: ก็นั่งพูดจาภาษาดอกไม้ หรือ พูดหวานๆ เอาอกเอาใจซึ่งกันและกัน แค่นี้ ก็น่าจะพอ สำหรับคนที่เกษียณอายุแล้ว และ อยากหาความสุขใส่ตัว มิใช่ ตั้งหน้าตั้งตา หางาน หาภาระ มาใส่ตัวอีก ‼
⏩ เพื่อนน่ะ ! ไม่มีเลย ก็ไม่ดี แต่ ถ้ามีมากเกินไป ก็เป็นภาระอีก มีแต่พอดี และ ควรคบกับเพื่อนดีๆ ที่มี " ศีลเสมอกัน " จะได้ไม่เป็นที่กินแหนงแคลงใจกัน ให้กลุ้มใจเปล่าๆ คบเพื่อนที่รู้จัก Take And Give ไม่ใช่เพื่อนที่ทำตัวเป็นภาระ คอยแต่จะ Take จากเราตลอด เหมือนเป็นเจ้าหนี้ของเรามาแต่ชาติปางก่อน
⏩ ส่วนลูกๆ หลานๆ น่ะ : เราเหนื่อยยาก เลี้ยงดูพวกเค้ามาเยอะแล้ว ‼ ปล่อยเค้าไปตามทางของเค้า เค้าอยู่รอดปลอดภัยได้อยู่แล้ว : ไม่ต้องห่วงมากมาย และไม่ต้องไปหวังพึ่งอะไรลูกๆ เป็นอันขาด ! อย่าเอาตัวไปเป็นภาระของลูก แค่เค้าไม่มาพึ่งเราไปตลอดชีวิต ก็นับว่า " เป็นบุญแล้ว "
⏩ 💸💰 เงินทองก็เช่นกัน : ทำงานเหนื่อยยากมาตลอดชีวิต ถึงวัยเกษียณ : ก็หัดใช้เงินเสียบ้าง มิใช่เคยตัวกับการประหยัด เพื่ออนาคต ตอนนี้แหละ คือ อนาคตของเราที่รอคอย คือ เวลาที่จะต้องใช้เงิน 💸
" อนาคต " มันไม่ยาวไกล ถึงขนาด ต้องประหยัดกันอีก ! เผลอๆ วันพรุ่งนี้ก็อาจไม่มีชีวิตอยู่ ไม่สามารถใช้เงินได้อีกต่อไป ก็ได้ ‼
🛑 สมบัติน่ะ : ไม่ต้องเก็บไว้ให้ลูกหลานมากหรอก ให้พอทำทุนก็พอ : เลี้ยงพวกเค้า ให้การศึกษาพวกเค้า มาอย่างดีที่สุดแล้ว อย่าดูถูกเค้า เค้าน่าจะหาได้มากกว่าเราด้วยซ้ำ !!
🔴 อย่าลืมแบ่งเวลาตนเองดูแลสุขภาพกายใจให้แข็งแรงด้วยนะครับ
แบ่งเวลาวันละ 15-30 นาที แค่เดิน Jogging ออกกำลังกาย ทำให้ขามีกำลัง แข็งแรง เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น
เจริญสติ ปฏิบัติธรรมด้วยตนเองที่บ้านก็ได้ แบบ อานาปานสติ ให้จิตอยู่กับลมหายใจเข้า-ออก หรือ จะบริกรรมภาวนา “ พุทโธ “ ก็ได้ ถ้าระหว่างวัน ไม่ได้เจริญสติ ก็เจริญสติ ในเวลาจะเข้านอน หรือ ตอนตื่นนอนจะลุกจากเตียง เพื่อเตรียมความพร้อม กับลมหายใจที่ยังมีอยู่ ในเช้าตรู่วันใหม่ ผู้รู้ ผู้ตื่นผู้เบิกบาน คิด พูด ทำแต่สิ่งดีงาม
🔴 เท่านี้ : ก็น่าจะสุขมากพอ .....สำหรับคนที่ "เกษียณ" แล้ว ‼
เป็นบทความน่าคิด…น่าพิจารณาทบทวน…ว่า เราเป็นเช่นว่าเพียงใด
Cr.ไม่ทราบชื่อผู้เขียนในเรื่องนี้
โฆษณา