9 ก.ค. เวลา 00:09 • ธุรกิจ

ความท้าทายใหม่ของ Elon Musk เมื่อ Tesla กำลังจะสิ้นมนต์ขลังในตลาดรถยนต์ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ๆ กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับสถานการณ์ของ Tesla โดยเฉพาะในตลาด EV อันดับหนึ่งของโลกอย่างประเทศจีน
เหล่าพนักงานที่แสนภาคภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์รถยนต์ผู้บุกเบิก EV แต่กลับมารู้ตัวว่าชะตาพวกเขากำลังจะขาดก็เมื่อเสียบบัตรพนักงานเพื่อเข้าสู่การทำงานที่ไซต์งาน แต่พบว่าบัตรของพวกเขานั้นใช้การไม่ได้อีกต่อไปแล้ว พวกเขากำลังถูกเลิกจ้าง!
5
เหล่าซัพพลายเออร์ของ Tesla ก็ต้องประสบพบเจอกับสถานการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นเดียวกัน เพราะได้รับแจ้งตารางการผลิตใหม่จากสไลด์เพียงแผ่นเดียวในการประชุมช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด
1
ซัพพลายเออร์รายหนึ่งที่เคยทำงาน 6 วันครึ่งต่อสัปดาห์ในช่วงที่วุ่นวายที่สุดของไตรมาสแรก ได้เปิดเผยว่ากำลังการผลิตของพวกเขาต้องลดลงสูงถึง 40% เลยทีเดียวจากแผนการผลิตใหม่
2
หลังจากนั้นไม่นาน การเลิกจ้างพนักงานของ Tesla ก็ดำเนินต่อไป ผู้บริหารระดับสูงทยอยลาออกคนแล้วคนเล่า และทีมสร้างสถานี Supercharger ก็ได้ถูกลดขนาดลงอย่างมาก เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องการลดการผลิตแบบทั่วไป แต่มันแสดงให้เห็นว่าพายุกำลังซัดกระหน่ำ Tesla อย่างรุนแรงในตลาดประเทศจีน
2
ต้องบอกว่าวิกฤติครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ในช่วงรุ่งเรืองที่สุด ราคาหุ้นของ Tesla พุ่งสูงขึ้น 20 เท่า และมูลค่าตลาดของบริษัทก็สูงกว่ายักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ 11 รายรวมกัน ซึ่งรวมถึง Honda , Volkswagen และ General Motors
1
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปลายปี 2021 มูลค่าตลาดของ Tesla ได้ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 1.235 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เหลือเพียง 574.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับ Tesla?
ต้องบอกว่าหลังจากต่อสู้กับสงครามราคาเกือบสองปี กำไรสุทธิประจำปีของ Tesla ในปี 2023 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดปี นอกจากนี้ในไตรมาสแรกของปี 2024 Tesla ส่งมอบรถยนต์ทั่วโลก 387,000 คัน ลดลง 8.53% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และลดลง 20.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
แม้จะครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก แต่ Tesla กำลังแสดงสัญญาณของการถดถอยเป็นครั้งแรก
สภาพแวดล้อมในตลาดโลกก็เลวร้ายลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา Mercedes-Benz , General Motors และ Ford ได้ประกาศชะลอแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
3
ตลาดจีนยิ่งหนัก โดยมีส่วนแบ่งถึงหนึ่งในสามของยอดขายทั่วโลกของ Tesla และมากกว่าครึ่งหนึ่งของการผลิตก็อยู่ที่ประเทศจีนนี่เอง
1
Tesla กำลังเผชิญการแข่งขันอันดุเดือด เรียกได้ว่าทุกแบรนด์จีนกำลังไล่รุมสกรัม Tesla ในเดือนเมษายนยอดขายของ Tesla Model 3 ลดลงเหลือ 5,065 คัน ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดจาก Xiaomi SU7 , IM L6 และ Zeekr 001
การโฟกัสของ Elon Musk ที่มีกับ Tesla ก็ลดลงไป เนื่องจากเขาต้องดูแลอีกหลายบริษัท ทั้ง xAI , SpaceX และ X ซึ่งล้วนแต่ดูดพลังงานของเขาไปเป็นอย่างมาก
Elon Musk ที่งานล้นมือ และตอนนี้กำลังโฟกัสกับ xAI (CR:xataka.com)
xAI เพิ่งระดมทุนรอบ Series B มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเร่งนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ซึ่ง Musk เองก็ไม่อยากแพ้ในเกมนี้เพราะเคยบาดหมางกับ Sam Altman แห่ง OpenAI เรียกได้ว่า Musk คงไม่ยอมโดนหยามหน้าในธุรกิจนี้ที่เขาแทบจะเป็นคนจุดประกายมาเป็นคนแรก ๆ ด้วยซ้ำ แต่โดนคนอื่นแย่งไปกินขุมทรัพย์อันมหาศาล
เหล่าพนักงานของ Tesla ก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของ Musk อย่างชัดเจน โดยมีรายงานว่า เมื่อก่อน Musk เคยจัดประชุมทุกสัปดาห์เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ แต่ในช่วงหลัง การประชุมเหล่านี้ลดลงเหลือเพียงการอัปเดททุกไตรมาส
1
ตลาดในประเทศจีน เรียกได้ว่า Cycle ของยานยนต์ไฟฟ้าที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดต้องวัดกันเดือนต่อเดือน แต่รุ่นหลักของ Tesla คือ Model 3 และ Model Y เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 และ 2019
ในปี 2018 Musk เคยกล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าราคา 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ อาจจะมีความเป็นไปได้ และจะเปิดตัวภายในสามปี นั่นหมายถึงรถยนต์ขนาดเล็กแต่ราคาไม่แพงสำหรับตลาด mass อย่างไรก็ตามผ่านมาหกปี แทบไม่มีความคืบหน้าเกิดขึ้น
Tesla มีโครงการรถยนต์ใหม่สองรุ่น คือ รถซีดานและรถ SUV รหัส NV91 และ NV93 ซึ่งเป็นรุ่นขนาดเล็กกว่า Model 3 และ Model Y ตามลำดับ โครงการ NV91 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าราคา 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีข่าวลือว่าจะเป็น Model Q หรือ Model 2 โดยมีกำหนดการผลิตจริงในเดือนสิงหาคม 2025
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีข่าวว่าสองโครงการได้ถูกยกเลิกไป คนวงในกล่าวว่า เหตุผลหนึ่งอาจะเป็นเพราะรุ่นใหม่เหล่านี้มุ่งเป้าไปที่ตลาดจีนเป็นหลัก แต่ Tesla ดูเหมือนจะยอมแพ้ไปซะแล้วเมื่อเผชิญกับสงครามราคาอันบ้าคลั่งในจีน
1
รถยนต์ไฟฟ้าแดนมังกรผู้หิวโหย
1
ความล่าช้าของ Tesla ในการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งตรงกันข้ามอย่างชัดเจนกับสภาพแวดล้อมของตลาดโดยรวมที่เปลี่ยนแปลงไปไวดุจความเร็วแสง
2
ในปี 2024 อัตราการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด Ford , GM , Mercedes-Benz , Volkswagen และผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปและอเมริกันรายอื่น ๆ ได้ประกาศชะลอแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแทบจะทั้งหมด
1
Tesla ได้รับผลกระทบมากที่สุด ในไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดของ Tesla ในยุโรปอยู่ที่ประมาณ 66,200 คัน ลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในสหรัฐอเมริกา ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 140,100 คัน ลดลง 13.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
2
การลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุดในประเทศจีน ในเดือนเมษายน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ในจีนอยู่ที่ 62,200 คัน ลดลง 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และลดลง 30.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
1
เหล่าผู้บริโภคชาวจีนกำลังเมิน Tesla เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์จากจีนดินแดนบ้านเกิดของพวกเขาได้ทะลักเข้าสู่ตลาดให้ผู้บริโภคชาวจีนได้เลือกสรร บวกด้วยความชาตินิยมที่กำลังก่อตัวขึ้นในประเทศจีนซึ่งมันแสดงให้เห็นแล้วในตลาดมือมือสมาร์ทโฟนที่แบรนด์บ้านเกิดอย่าง Huawei แม้จะไม่มีระบบปฏิบัติการ android ก็สามารถทำยอดขายได้แบบพุ่งกระฉูด
1
เมื่อ Xiaomi เปิดตัว SU7 ผู้ก่อตั้ง Lei Jun กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของรถยนต์แบรนด์ Xiaomi นั้นชัดเจนว่าต้องการถล่ม Tesla Model 3 และ SU7 ก็สร้างกระแสอย่างรวดเร็วได้รับคำสั่งซื้อไปแล้วกว่า 100,000 คัน
Lei Jun ส่ง SU7 มาเพื่อถล่ม Tesla โดยตรง (CR:news.rthk.hk)
นอกจากนี้แบรนด์อื่น ๆ อย่าง Xpeng G6 และ Li Auto L6 ก็เข้ามารุมสกรัม Tesla ใน Model X รวมถึงแบรนด์รองของ Nio อย่าง Alps ก็ได้ประกาศกร้าวอย่างชัดเจนว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 และมีราคาถูกกว่า Model Y 10%
สถานการณ์กำลังวิกฤติ แต่ดูเหมือนผู้บริหารของ Tesla จะไม่ตระหนักถึงภัยคุกคามที่อาจจะมาทำลายบริษัทของพวกเขาได้เลยด้วยซ้ำ
1
“ตราบใดที่รถยนต์ Tesla ถูกผลิตออกมา ยังไงก็ขายได้” Tom Zhu ซึ่งถูกส่งตัวจาก HQ ในอเมริกาเหนือเพื่อกลับมากู้วิกฤติในจีนกล่าวสุนทรพจน์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทีมงาน Tesla
แต่ก็ต้องบอกว่าเหล่าพนักงานต่างส่ายหัว พวกเขาแทบไม่มีความมั่นใจเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ซัพพลายเออร์หลายรายก็บ่นออกมาว่าการผลิตของ Tesla ชะลอตัวลงอย่างมากในปีนี้ ทำให้เกิดปัญหาสิงค้าคงคลังค้างสต็อกจำนวนมหาศาล
จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของ Tesla โดยในปี 2023 Tesla ขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนได้ 603,664 คัน คิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของยอดขายรวม 1.81 ล้านคัน รองจากสหรัฐอเมริกาที่ขายได้ 654,888 คันเพียงเท่านั้น
1
โรงงานในจีนก็มีกำลังการผลิตกว่าครึ่งของกำลังการผลิต Tesla ทั้งหมด จากรถยนต์ใหม่ 1.81 ล้านคันที่ Tesla ส่งขายทั่วโลกในปี 2023 เกือบ 957,000 คันผลิตจากโรงงานในเซี่ยงไฮ้ นอกจากนั้น อัตราการใช้ชิ้นส่วนในประเทศของ Gigafactory Shanghai ยังเกิน 95% ซึ่งทำให้ Tesla สามารถทำกำไรได้สูงมาก แต่พวกเขาก็ต้องพึ่งพาตลาดจีนและห่วงโซ่อุปทานในจีนอย่างมากเช่นเดียวกัน
Gigafactory Shanghai ศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญที่สุดของ Tesla (CR:Xinhua)
อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าจะมีระยะห่างที่เพิ่มขึ้นระหว่าง Tesla จีนกับสำนักงานใหญ่ในอเมริกา เพราะเมื่อก่อนงานวิจัยและพัฒนาในประเทศจีนจะมีบทบาทอย่างสูงมาก ๆ แต่หลังจากมีการเลิกจ้างครั้งใหญ่ ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
การปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่นี้ทำให้มีช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างสำนักงานใหญ่กับแผนกในประเทศจีนชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเหล่าซัพพลายเออร์ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนเพราะต้องไปคุยกับสำนักงานใหญ่ Tesla ที่อเมริกาเหนือ เนื่องจากการตัดสินใจด้านการจัดซื้อทำที่นั่น และ Tesla ในจีนต้องปฏิบัติตามเพียงเท่านั้น
ในช่วงต้นปี 2020 เรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของ Tesla ในจีน ยอดขาย Model 3 ในจีนเติบโตอย่างบ้าคลั่ง สร้างความคึกครื้นให้กับห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดในการผลิตของ Tesla แต่ตอนนี้การแข่งขันอันดุเดือนในจีนกำลังค่อย ๆ กัดกร่อนส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทไปทีละน้อย
ความเป็นจริงหากมันดำเนินไปตามแผน รุ่นใหม่ ๆ ราคาย่อมเยาว์ของ Tesla จะช่วยกระตุ้นยอดขายของ Tesla ได้เป็นอย่างมาก หาก Tesla สามารถเปิดตัวรถยนต์รุ่นประหยัดที่ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2021 ตามที่ Musk ได้วาดฝันไว้ในปี 2018
1
แต่สภาพของตลาดจีนในทุกวันนี้ เต็มไปด้วยแบรนด์ดินแดนมังกรผู้หิวโหย มีตัวเลือกมากมายให้เหล่าผู้บริโภคเลือกสรร สำหรับงบประมาณ 25,000 ดอลลาร์ (180,000 หยวน) ผู้ซื้อชาวจีนสามารถเลือกซื้อรถยนต์ระดับไฮเอนด์มากมายเช่น Xpeng G6 , Geely’s Galaxy E8 , BYD Han , Song L และ Tang DM-i
แม้แต่ BYD Seal ซึ่งถูกประกบคู่มวยโดยตรงกับ Model 3 ตอนนี้ราคาลดเหลือเพียงแค่ 149,800 หยวน (21,110 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ในขณะที่ Qin Plus รุ่นราคาประหยัดสำหรับตลาด Mass มีราคาเพียง 79,800 หยวน (11,240 ดอลลาร์สหรัฐฯ)
ดูเหมือนว่า Tesla ไม่ได้รับรู้ถึงความก้าวหน้าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนได้ทันเวลา ยังคงใช้ตรรกะการพัฒนาแบบเดิม ๆ เพื่อรับมือกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วแบบติดจรวดที่จีนกำลังสร้างขึ้นมา
ตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ชาร์จเร็วพิเศษที่สามารถเพิ่มระยะทางการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าได้ประมาณ 400 กิโลเมตรในเวลาสิบนาที นอกจากนี้ แบตเตอรี่ลิเธียมเฟอร์โรฟอสเฟต (LFP) รุ่นใหม่สามารถปรับตัวได้ดีขึ้นกับอุณหภูมิต่ำ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าพึ่งพาสภาพอากาศอบอุ่นน้อยลงและเหมาะสมกับภูมิภาคที่หนาวเย็นมากขึ้น
แต่แนวโน้มการแข่งขันเหล่านี้กลับถูกเมินที่สำนักงานใหญ่ของ Tesla ที่ยังคงคิดว่าคนขับรถจะหยุดทุก 300 กิโลเมตรเพื่อชาร์จแบต และการชาร์จแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 18 นาที ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่ง mindset เหล่านี้นี่เองที่ทำให้ Tesla ตามไม่ทันสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดจีน นำไปสู่การพลาดโอกาสมากมายของพวกเขา
3
บทสรุป
2
ต้องบอกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ของ Tesla โดยเฉพาะในประเทศจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ บริษัทกำลังประสบปัญหาในเรื่องยอดขายการเข้าสู่สงครามราคาไม่ใช่เรื่องดีกับ Tesla ในระยะยาวอย่างแน่นอน และไม่ใช่วิถีทางของ Elon Musk ในการทำธุรกิจ
การแข่งขันอย่างรุนแรงจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน ความล่าช้าในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่และการขาดการตอบสนองต่อแนวโน้มของตลาดทำให้ Tesla กำลังอยู่ในภาวะเสียเปรียบอย่างยิ่ง แต่ Elon Musk ก็กำลังแก้ไขสถานการณ์โดยมุ่งเน้นไปที่ AI และการขับขี่แบบอัตโนมัติ
แต่แม้ว่า Tesla จะเผชิญกับความท้าทายมากมายขนาดไหน แต่ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่างแล้วว่า Elon Musk มักจะพลิกสถานการณ์ได้อย่างน่าทึ่ง การเดิมพันครั้งใหญ่ของเขาใน AI และรถยนต์ไร้คนขับอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่จะกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมดก็เป็นได้
แต่คำถามที่สำคัญก็คือ Tesla จะกลับมาผงาดครองผู้นำได้อีกครั้งหรือไม่ เราก็ต้องมาติดตามความเคลื่อนไหวของ Elon Musk กับ Tesla อย่างใกล้ชิด เพราะนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติครั้งใหม่ในวงการยานยนต์ที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราตลอดไปนั่นเองครับผม
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา