9 ก.ค. เวลา 00:34 • หุ้น & เศรษฐกิจ

🎯 Sahm Rule สัญญาณ recession ที่อาจทำให้เฟดต้องเปลี่ยนใจ | By Beauty Investor

กฎของซาห์ม (Sahm Rule) เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ใช้ในการตรวจสอบว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ โดยอาศัยข้อมูลอัตราการว่างงานรายเดือนจากสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริกา
ซึ่งกฎดังกล่าวถูกตั้งชื่อตามนักเศรษฐศาสตร์คลอเดีย ซาห์ม ที่เคยทำงานที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) และสภาที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ
📌 กฎของซาห์ม นั้นจะทำงานก็ต่อเมื่อ อัตราการว่างงานเฉลี่ยย้อนหลังสามเดือนเพิ่มขึ้น 0.50 จุดเปอร์เซ็นต์ (Percentage Point) หรือมากกว่าเมื่อเทียบกับ อัตราการว่างงานเฉลี่ยย้อนหลังสามเดือนที่ต่ำที่สุดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถ้าตัวเลขดังนั้นกล่าวมากกว่าหรือเท่ากับ 0.50 จุดเปอร์เซ็นต์เมื่อไหร่ ก็จะหมายความว่าเศรษฐกิจกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยนั่นเองค่ะ
ตัวอย่างการคำนวณกฎของซาห์ม:
Sahm Rule Indicator = {3-month MA of U3} - {Lowest 3-month MA of U3 in the past 12 months}
🔸 MA = Moving Average
🔹 U3 = Unemployment Rate (ตัวที่เราเห็นกันปกติ)
ดังนั้นกฎนี้มีประโยชน์ในการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจแบบเรียลไทม์และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจทางนโยบายการเงินและการคลังอีกด้วยค่ะ
🎯 แม่นยำแค่ไหน
ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย 11 ครั้งนับตั้งแต่ปี 1950 กฎของซาห์มได้เกิดขึ้นในทุกๆครั้งค่ะ โดยเฉลี่ยแล้วจะเกิดขึ้นประมาณ 3 เดือนหลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และเกิดก่อนเวลาที่ NBER จะประกาศภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการ (NBER หรือ National Bureau of Economic Research จะเป็นหน่วยงานที่ประกาศภาวะ recession) และก่อนที่ข้อมูล GDP จะประกาศนานมากๆ
📌 ปกติ GDP รายไตรมาสหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อจะนับเป็น technical recession ทันที ซึ่งปกติ GDP ก็ประกาศช้าอยู่แล้ว ส่วน NBER จะดูตัวเลขอื่นๆประกอบอีก แล้วถึงตัดสินใจว่าจะประกาศเป็น recession หรือไม่ ซึ่งก็จะยิ่งช้าออกไปอีกค่ะ
ครั้งล่าสุดที่ GDP ส่งสัญญาณ technical recession คือช่วง Covid-19 แต่สุดท้าย NBER บอกว่าไม่ได้เกิด recession ค่ะ
✅ ตั้งแต่ปี 1950 กฎของ Sahm ส่งสัญญาณผิดเพียงครั้งเดียวเท่านั้นซึ่งก็คือ ในปี 1959 อย่างไรก็ตามในตอนนั้นสหรัฐฯก็เข้าสู่ภาวะถดถอยในเวลาหกเดือนต่อมา (จะเรียกว่าผิดก็ไม่เชิง แค่เกิดขึ้นช้ากว่าปกติค่ะ)
🎯 สถานการณ์ตอนนี้ใกล้เคียงแค่ไหน
หลังจากอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 4.1% ในเดือนมิถุนายน และได้ออกมาอยู่ในระดับที่สูงกว่าการคาดการณ์ของ FOMC ที่ 4% ในช่วงสิ้นปีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ประธานเฟดเองก็ย้ำแล้วย้ำอีกอีกว่าจุดอ่อนใดๆในตลาดแรงงานจะทำให้ผู้กำหนดนโยบายมีการตอบสนองค่ะ แม้ว่าอาจจะยังไม่มีเหตุผลที่ต้องตกใจในขณะนี้
แต่ถ้าหากเกิดกฎ Sahm ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าขึ้นจริง ก็อาจเป็นแรงกระตุ้นให้เฟดต้องเปลี่ยนใจกลับมาคิดใหม่อีกรอบค่ะ ซึ่งนั่นจะหมายถึงการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนั่นเอง
1
โดยในปัจจุบัน Sahm Rule อยู่ที่ 0.43 percentage point แล้ว (จุดอันตรายคือ 0.5) ซึ่งถ้าหากอัตราการว่างงานมีการเพิ่มขึ้นเป็น 4.2% ในเดือนกรกฎาคม ตัวเลข Sahm Rule จะพุ่งเกิดจุดอันตรายทันทีค่ะ
1
ซึ่งไม่ใช่เป็นไปไม่ได้นะคะ เพราะ ตั้งแต่เดือนเมษายน ตัวเลขการว่างงานสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเดือนละ 0.1% มาโดยตลอด จาก 3.8% มาเป็น 4.1% ในเดือนล่าสุดค่ะ
🎯 ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้จริงๆ นิคกี้จะรีบมาอัพเดทให้ฟังนะคะ เพราะมุมมองการลงทุนจะเปลี่ยนไปพอสมควรค่ะ ถ้าไม่อยากพลาด อย่าลืมกด follow ให้นิคกี้ด้วยนะคะ แล้วอย่าลืมกด like กด share เพื่อให้เพื่อนๆคนอื่นเห็นประเด็นสำคัญนี้ด้วยเช่นกันค่ะ 🥹
โฆษณา