9 ก.ค. เวลา 10:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ทีทีบี มองโอกาส เจาะ 4 ธีมการลงทุนครึ่งปีหลังเพื่อความยั่งยืน

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดทิศทางการลงทุนตลาดในครึ่งปีหลังของปี 2567 เจาะ 4 ธีมการลงทุนครึ่งปีหลังเพื่อความยั่งยืน
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดทิศทางการลงทุนตลาดในครึ่งปีหลังของปี 2567 เจาะ 4 ธีมการลงทุนครึ่งปีหลังเพื่อความยั่งยืน โดย ธีมแรก: Market Normalization สร้างความมั่งคั่ง ด้วยพอร์ตการลงทุนที่มั่นคง นายนาวิน อินทรสมบัติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารการลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ครึ่งปีแรกของปี 2567 ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นได้ดีตามที่ ttb investment office คาดการณ์ โดยเฉพาะในฝั่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ทีทีบี 4 ธีมการลงทุนครึ่งปีหลังเพื่อความยั่งยืน
สำหรับในครึ่งปีหลังมองว่าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปได้ รวมทั้งธีมการลงทุนทั้ง 4 ที่ธนาคารได้ฝากไว้ให้กับนักลงทุนตั้งแต่ช่วงต้นปีนั้น “จะยังคงอยู่คู่ตลาดต่อไป” จาก 4 ปัจจัยบวก
  • 1.
    อัตราดอกเบี้ยในประเทศหลัก ส่วนใหญ่เข้าสู่แนวโน้มขาลงชัดเจนมากขึ้น
  • 2.
    เศรษฐกิจโลกยังขยายตัวได้ ไม่ถดถอย
  • 3.
    ผลกำไรบริษัทยังเติบโตได้ดี
  • 4.
    ความไม่แน่นอนในตลาดการเงินหายไปหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ
ทั้งนี้ การที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศหลักมีแนวโน้มปรับตัวลงเข้าสู่ระดับปกติ จะส่งผลให้การเคลื่อนไหวของผลตอบแทนระหว่าง สินทรัพย์ต่างๆ กลับมาเป็นปกติเช่นกัน และทำให้ “การจัดพอร์ตลงทุนกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามธีม Market Normalization” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการลงทุนที่จะทำให้ทุกท่านลงทุน
เบื้องต้น ttb investment office นำเสนอ 3 โซลูชันการลงทุน จำแนกตามระดับความเสี่ยงและวัตถุประสงค์การลงทุน
  • 1.
    การจัดพอร์ตการลงทุนตามคำแนะนำของธนาคารที่เรียกว่า Advanced Asset Allocation (AAA) ซึ่งเหมาะสมกับท่านที่รับความเสี่ยงได้มากและมีเวลาติดตามตลาด
  • 2.
    ลงทุนในกองทุน Multi Asset อย่าง ES-GAINCOME ที่มีการกระจายความเสี่ยงในตัว ซึ่งเหมาะสมกับท่านที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางและมีเวลาติดตามตลาดไม่มากนัก
  • 3.
    การจัดพอร์ตแบบ ttb wellness solution ซึ่งเหมาะสมกับท่านที่รับความเสี่ยงได้น้อยถึงปานกลาง และเน้นการลงทุนที่มุ่งรักษาเงินต้นเป็นสำคัญ
นายวีรวัฒน์ คิรินทร์รัตนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนอมุนดิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Multi Asset Income (ES-GAINCOME) เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง โดยกองทุน ES-GAINCOME (ลงทุนระยะยาว 3 ปี เน้นการลงทุนในตราสารหลากหลายประเทศทั่วโลก เป็นโซลูชันที่เหมาะกับการเป็นพอร์ตหลัก (Core portfolio) ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงและมีความยืดหยุ่นสูง โดยกองทุนนี้มี 2 จุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อตอบโจทย์การลงทุน ได้แก่
  • 1.
    มุ่งสร้างกระแสเงินสด
  • 2.
    ให้ผลตอบแทนรวมที่ดีเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ธีมที่สอง : Yield Capture เสริมสร้างความมั่งคั่งด้วยการลงทุนแบบอุ่นใจ
นายกัมปนาท โอมฤก นักกลยุทธ์การลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า จากต้นปีจนถึงปัจจุบันจะเห็นได้ว่า Bond Yield ที่อยู่ในระดับสูง เงินเฟ้อของประเทศหลักและไทยเข้าใกล้ระดับเป้าหมายของธนาคารกลางมากขึ้น ทำให้มุมมองดอกเบี้ยมีแต่ทรงกับลง และเป็นสถานการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก จึงมองเป็นโอกาสเพื่อที่จะเข้าไปล๊อกผลตอบแทน
ด้านนางสาวรัตตินาถ แจ่มโสภณ หัวหน้าผลิตภัณฑ์ธุรกิจตลาดเงินและการตลาดผลิตภัณฑ์การเงิน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า บรรยากาศการลงทุนในปัจจุบันมีแนวโน้มดีขึ้น ปีนี้เป็นปีแห่งความหวังและความท้าทายในสภาวะที่ตลาดยังมีความผันผวน โดยคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 35.5 ล้านคน และการส่งออกจะฟื้นตัวจากปีก่อนหน้า
ในขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยแม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังคงดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.5% แต่มุมมองตลาดคาดแนวโน้มดอกเบี้ยในระยะกลาง มีโอกาสปรับลดลง 1-2 ครั้ง ซึ่งธนาคารมองว่าหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง หรือ Structured Notes เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่น่าสนใจ
ธีมที่สาม: The Next Stage of Generative AI หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ มาไกล ต้องไปต่อหรือพอแค่นี้
นายอภิวัฒน์ น้าประทานสุข ผู้บริหารกลยุทธ์การลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ผ่านมาครึ่งปี หุ้นกลุ่ม Big Tech สหรัฐฯ รวมถึงกลุ่ม Semiconductor ปรับตัวขึ้นได้เป็นอย่างดีเปรียบเสมือนกับเป็นผู้นำตลาดตามที่เราคาดการณ์ และแน่นอนว่าในครึ่งปีหลัง หุ้นกลุ่มดังกล่าวยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อได้อย่างทรงพลัง
โดย ttb investment office ขอแนะนำ “4 Keywords” ตามตัวอักษรของคำว่า “TECH” เพื่อเป็นแนวทางให้กับทุกท่านใช้ประกอบการตัดสินใจว่าทำไมต้องลงทุนในหุ้น Big Tech สหรัฐฯ และควรลงทุนอย่างไร ได้แก่
1. T : Timing ครึ่งหลังของปีเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการลงทุนในหุ้น Big Tech เนื่องจากเป็นช่วงที่ดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่วัฏจักรขาลง และการลงทุนควรลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่ควรเน้นจับจังหวะการลงทุนในระยะสั้น
2. E : Earnings ราคาหุ้นกลุ่ม Big Tech มีโอกาสปรับขึ้นต่อได้อีก จากผลกำไรที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ตามการพัฒนา Generative AI ที่ยังไม่จบสิ้น
3. C : Charming เสน่ห์การลงทุนในหุ้น Big Tech ยังคงอยู่เพราะในด้าน Valuation นั้น ไม่ได้แพงขึ้นตามราคาที่ปรับขึ้น
4. H : Heading เราไม่จำเป็นต้องปรับสัดส่วนการลงทุนตามหัวข้อข่าวที่เกิดขึ้นเป็นระยะ เช่น การที่ Fed จะลดดอกเบี้ยหรือไม่ อย่างไร ตราบใดที่ปัจจัยพื้นฐานกลุ่ม Big Tech ยังแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลง
ธีมที่สี่: Economic Recovery เศรษฐกิจยุโรปจากภาวะถดถอยสู่การฟื้นตัวที่เริ่มเด่นชัด
นายภูริพัฒน์ ละเอียดธนะกิจ นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า หากพิจารณาในแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างมั่นคงในช่วงปีนี้ต่อเนื่องปีหน้า นำโดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว และเศรษฐกิจอินเดียในฝั่งตลาดประเทศเกิดใหม่
แต่หากมุ่งเน้นไปที่เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเด่นชัด คงหนีไม่พ้นเศรษฐกิจยุโรป ที่ไม่ได้เกิดภาวะถดถอยอย่างที่เคยกังวล และคาดว่าจะมีการเติบโตในอัตราเร่งที่สูงขึ้นในช่วง 1-2 ปีนี้ จากทิศทางเงินเฟ้อที่ชะลอลงอย่างรวดเร็ว ช่วยเปิดทางให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป นอกจากนี้หุ้นยุโรปยังมีเสน่ห์ในแง่การเติบโตของคาดการณ์ผลกำไรที่ยังอยู่ในระดับสูง จากการที่หลายบริษัทในยุโรปเป็นบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้มาจากทั่วโลก และเป็นผู้นำในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยให้ระดับราคาของหุ้นยุโรปยังไม่แพง แม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงใหม่หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับระดับราคาของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTV บันเทิง : https://www.facebook.com/PPTVHD36Entertainment
โฆษณา