ลามีน ยามาล นักเตะ 16 ผู้สั่นสะเทือนฟุตบอลยุโรป
พาดหัวของมาร์ก้า สื่อยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของสเปน เขียนว่า "สวัสดี ราบิโอต์ ผมชื่อลามีน ยามาล ผมอายุ 16 ปี และคุณรู้ไหม ว่าผมไม่กลัวคุณหรอก"
ชัยชนะของสเปน เหนือ ฝรั่งเศส ในรอบรองชนะเลิศของยูโร สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนสเปนอย่างมาก เพราะ เป็นการโค่นฝรั่งเศส ทีมที่มีเกมรับอันดับหนึ่งในยูโรครั้งนี้ (เสียแค่ 1 ลูก ใน 5 นัด) ได้อย่างสวยงามในเวลา 90 นาที
แต่ที่น่าทึ่งกว่าการชนะสวย คือแกนหลักของทีม ยังอายุไม่เยอะ ลามีน ยามาล 16 ปี, นิโก้ วิลเลียมส์ 21 ปี, ดานี่ โอลโม่ 26 ปี, มาร์ก คูคูเรลย่า 25 ปี แม้แต่โรดรี้ ก็เพิ่ง 28 ปี หมายความว่า นักเตะกลุ่มนี้ จะลงเล่นให้สเปนได้ต่อเนื่อง ในฟุตบอลโลก 2026 และยูโร 2028 ด้วย
อาณาจักรความยิ่งใหญ่ของสเปน ที่เคยเกิดขึ้นในยุคทอง ของชาบี-อิเนียสต้า-กาซียาส-รามอส อาจจะคัมแบ็กกลับมา ตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นต้นไป คนสเปนสามารถกลับไปเชียร์ฟุตบอล แบบมีลุ้นแชมป์ได้ทุกรายการแล้ว
ไฮไลท์อันดับหนึ่งของเกมสเปน กับ ฝรั่งเศส ทุกคนโฟกัส ไปที่ลามีน ยามาล ปีกจากบาร์เซโลน่า ว่าจะทำผลงานเป็นอย่างไร ในเกมอันตึงเครียดแบบนี้
จริงๆ แล้ว กระแสของยามาล เริ่มแรงมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ในนัดเปิดสนาม พอเขาแอสซิสต์ได้ในเกมกับโครเอเชีย ทีมต่างๆ ก็เริ่มจับตามองกันแล้ว ว่าเด็กคนนี้อาจเป็นตัวอันตรายได้
วิธีการที่ทีมทั่วไปใช้เล่นงานเด็กอายุน้อยๆ คือการเล่น Mind Game โยนความกดดันเข้าไปให้ตั้งแต่ก่อนแข่ง เพราะเด็กอายุ 16-17 แบบนี้ ส่วนใหญ่รับมือกับเรื่องจิตวิทยาไม่เก่ง เมื่อเจอความเครียดถาโถมเข้าใส่ ก็จะส่งผลกับเกมในสนามโดยอัตโนมัติ
คนแรกที่ใช้กลยุทธ์จิตวิทยา คือยูเลียน นาเกลส์มันน์ เฮดโค้ชของทีมชาติเยอรมัน คู่แข่งของสเปนในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยนาเกลส์มันน์พูดก่อนเกมว่า "ยามาลเป็นนักเตะที่ดี เขาเลี้ยงบอลเก่ง ใช้เท้าซ้ายยอดเยี่ยม แต่เท้าขวาก็เก่งไม่แพ้กัน แต่อย่าลืมว่าเขาเพิ่งจะอายุ 16 ดังนั้นผู้เล่นของเราอาจใช้ข้อได้เปรียบตรงนี้ในการเล่นงานเขา แล้วเรามาดูกันว่า เมื่อต้องเจอสถานการณ์ที่ยากขึ้นเมื่อไหร่ เขาจะตอบสนองกับมันได้ดีแค่ไหน"
ฟังดูเผินๆ ก็เป็นคำวิจารณ์ทั่วไป แต่เมื่อมันออกมาจากปากของผู้จัดการทีมคู่แข่งโดยตรง มันก็มีนัยยะของ Mind Game แฝงอยู่
ปรากฏว่า ยามาล พิสูจน์ให้นาเกลส์มันน์ได้เห็นว่า เขารับมือกับเกมใหญ่ๆ ได้เป็นอย่างดี เมื่อแอสซิสต์ ให้ดานี่ โอลโม่ ยิงขึ้นนำทีมอินทรีเหล็ก 1-0 ก่อนจะเอาชนะไปใน 120 นาทีด้วยสกอร์ 2-1
คนแรกผ่านไป มาสู่คนที่สอง นั่นคือ อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางของทีมชาติฝรั่งเศส
หนึ่งวันก่อนเกมรอบรอง ระหว่างสเปน กับ ฝรั่งเศส ราบิโอต์ ให้สัมภาษณ์ว่า "ยามาลดูจะรับแรงกดดันได้ไม่เลวนะ เขาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพ แต่อย่างที่เราทราบกัน เมื่อเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์ระดับนี้ มันจะยากขึ้นเสมอ ดังนั้นฝรั่งเศสของเราจะกดดันหนักเขาเรื่อยๆ ให้เขาเล่นอย่างอึดอัดที่สุด และทำให้เขาเห็นว่า การจะผ่านเข้าสู่รอบชิงของยูโรได้นั้น เขาต้องเล่นให้ดีขึ้นกว่าที่ทำในรอบที่ผ่านๆ มา"
ประโยคของราบิโอต์ ก็เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ในความหมายที่ซ่อนอยู่คือ 'รอบที่แล้ว ยังไม่เจอของแข็ง เล่นได้แค่นี้ เจอกันในรอบรอง แกไม่รอดหรอก' มันเป็นการข่มขู่อ้อมๆ นั่นแหละ
หลังจากราบิโอต์สัมภาษณ์ได้ไม่นาน ยามาล โพสต์รูปลงสตอรี่ในอินสตาแกรม โดยมีเนื้อความว่า "ทำตัวนิ่งๆ เงียบๆ เข้าไว้ เก็บปากเอาไว้พูดทีเดียว ตอนพูดคำว่า 'รุกฆาต' ก็พอ"
ยามาลลงสตอรี่แค่นี้ แต่ไม่ตอบโต้อะไรอย่างอื่นกับราบิโอต์ผ่านสื่อ รอไว้ชนะในเกมฟุตบอลแล้วค่อยพูดทีเดียวละกัน
คืนวันที่ 9 กรกฎาคม เกมการแข่งขันระหว่างสเปน กับ ฝรั่งเศส เริ่มต้นขึ้น ฝรั่งเศสออกสตาร์ตได้ดีกว่า เมื่อเอ็มบัปเป้ครอสให้โคโล มูอานี่ โหม่งเข้าประตูไป ขึ้นนำ 1-0
แต่สเปนมาตีเสมอได้ 1-1 จากประตูมหัศจรรย์ของยามาล ในจังหวะนี้ถ้าเราสังเกตคือ ตอนยามาลได้บอล คนประกบคือราบิโอต์ คนที่วิจารณ์เขานั่นแหละ
ราบิโอต์ รอจังหวะ ไม่ยอมบุกเข้าไปแย่งบอล แต่ทิ้งระยะไว้ 2-3 เมตร เหมือนเป็นการท้าทายให้ลองยิงไกลได้เลย
ยามาลรับคำท้า เขาสเต็ปออกขวาหนึ่งครั้ง แล้วโยกเข้าซ้ายจนราบิโอต์เสียหลัก ก่อนตะบันไกลด้วยซ้ายถนัดจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งโค้งชนเสาเข้าประตูแบบสวยงามที่สุด สามารถส่งประกวดลูกยิงยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ได้เลย
เมื่อสเปนตีเสมอได้ โมเมนตั้มก็พลิกกลับมา อีก 4 นาทีต่อมา ดานี่ โอลโม่ ยิงให้สเปนขึ้นนำ 2-1 และเป็นสกอร์สุดท้ายในเกมนี้ จบเกม สเปนเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
แน่นอนว่า ยามาล คว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองอย่างสวยงาม ไม่มีพลิกโผ คือไม่ใช่แค่จังหวะยิงประตู แต่เขามีส่วนร่วมกับเกมตลอด แม้กระทั่งยอมโดนใบเหลืองท้ายเกมเพื่อช่วยทีมไม่ให้โดนฝรั่งเศสบุก นี่เป็นผู้เล่นที่มีประโยชน์กับทีมอย่างมากจริงๆ
ประเด็นคือ พอจบเกมปั๊บ กล้องจับภาพยามาล พูดภาษาสเปนว่า Habla, Habla แปลว่า "พูดดิวะ พูดอีกดิวะ!" ทุกสื่อก็เข้าใจตรงกันว่า มันเป็นข้อความที่ยามาลส่งตรงไปถึงราบิโอต์นั่นเอง ว่า "เล่นแบบนี้ดีพอหรือยังที่จะผ่านเข้าชิง"
ยามาลเก็บความแค้นในใจที่โดนวิจารณ์ มาระเบิดทีเดียวตอนจบเกม เหมือนอย่างที่เขาลงสตอรี่นั่นแหละ ว่าไม่ขอพูดอะไรทั้งนั้น รอเก็บไว้พูดคำว่า "รุกฆาต" รอบเดียวพอ
นั่นคือเหตุผลที่มาร์ก้า พาดหัวข่าวว่า "สวัสดี ราบิโอต์ ผมชื่อลามีน ยามาล ผมอายุ 16 ปี และคุณรู้ไหม ว่าผมไม่กลัวคุณหรอก" เป็นการบอกว่า แม้จะโดนพูดจาอย่างไร ไซโคแค่ไหน แต่เด็กวัยรุ่นคนนี้จะตอบโต้ แล้วเอาคืนในสนามแน่นอน
หลังจากผ่านไป 6 เกม ในยูโร ยามาล สร้างสถิติบางอย่างขึ้นมา เช่น
- เป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุด ที่ทำประตูได้ในยูโร ด้วยวัย 16 ปี กับ 352 วัน แซงหน้าสถิติของโยฮัน ฟอนลันเทน ของสวิส ที่ทำได้ด้วยอายุ 18 ปี กับ 141 วัน
- เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ได้ลงเล่น ในรอบรองชนะเลิศของเมเจอร์ทัวร์นาเมนต์ โดยเจ้าของสถิติเดิมคือ เปเล่ ในฟุตบอลโลก 1958 ด้วยอายุ 17 ปีกับอีก 244 วัน
- เป็นนักเตะที่ทำแอสซิสต์ให้สเปน ได้สูงสุดตลอดกาลในยูโร (3 ครั้ง) เทียบเคียงกับ เชส ฟาเบรกาส ในปี 2008, ดาบิด ซิลบา ในปี 2012 และ ดานี่ โอลโม่ ในปี 2020 ถ้ายามาลทำแอสซิสต์ได้อีกครั้งในนัดชิงก็จะเป็นผู้นำเดี่ยวทันที
คือปกติเด็กอายุ 16-17 ติดทีมชาติชุดใหญ่มาทัวร์นาเมนต์ระดับยูโรแบบนี้ ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย หรือถ้าติดมาก็มักจะเป็นแค่อะไหล่ ที่ใส่มาเฉยๆ ให้มาเก็บบรรยากาศ แต่ไม่ค่อยใช้งานจริง
โรนัลโด้ กองหน้าชาวบราซิล ติดทีมชาติไปลุยบอลโลก 1994 ด้วยวัย 17 ปี แต่เขาไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว หรือ ธีโอ วัลคอตต์ เคยติดทีมชาติอังกฤษไปลุยฟุตบอลโลก 2006 ด้วยวัย 17 ปีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ลงสนามเลยสักนาที
แต่เคสของยามาล ไม่ใช่แค่ติดทีมมา แต่เขายังลงเป็นตัวจริงเกือบทุกนัด (ตัวจริง 5 สำรอง 1) เขาเป็นแกนหลักที่ทีมขาดไม่ได้ ซึ่งนี่เป็นปรากฏการณ์ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ว่าทำไมคุณกล้าไว้ใจเด็กดาวรุ่งได้มากขนาดนี้
สำหรับในยูโร 2024 นั้น รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ ไม่ต้องห่วง ยามาล ได้แน่นอน ขณะที่รางวัล MVP ของทัวร์นาเมนต์ ตอนนี้เขาก็เป็นเต็งหนึ่งที่จะได้รางวัล จากผลงาน 1 ประตู 3 แอสซิสต์ เป็นผู้นำแอสซิสต์ของทัวร์นาเมนต์อยู่ตอนนี้
สำหรับการพุ่งทะยานของของยามาล มีหลายคนที่ควรได้รับเครดิต คนแรกคือ ชาบี เอร์นันเดซ เฮดโค้ชของบาร์เซโลน่า ที่ให้โอกาสยามาล ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในฤดูกาล 2023-24 ทำให้เขาพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
คนที่สอง คือ สหพันธ์ฟุตบอลสเปน ที่เข้าใจสถานการณ์ดี รีบทาบทามนักเตะมาติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่ ตั้งแต่อายุ 16 เนื่องจากยามาล สามารถเลือกเล่นได้กับ สามชาติ ได้แก่ โมร็อคโก, อีควาตอเรียล กินี และ สเปน ถ้าหากสหพันธ์ฯ มัวแต่คอยโอ้เอ้ อาจจะเสร็จให้ชาติอื่นก็ได้ โดยเฉพาะโมร็อคโก ที่เป็นทีมแข็งแกร่ง และบอลโลกคราวที่แล้วก็เข้ารอบลึกกว่าสเปนเสียอีก
คนที่สาม คือ หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ เฮดโค้ชของทีมชาติ ที่เชื่อในหลักการว่า ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ เขาส่งยามาลลงเล่นทีมชาติชุดใหญ่ ตั้งแต่อายุ 16 ปีกับอีก 57 วัน และสร้างความเชื่อใจกันมาเรื่อยๆ เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม
เหตุผลทุกอย่างหลอมรวมกัน ทำให้ยามาล มาเปล่งประกายในยูโรครั้งนี้ และอีกแค่ก้าวเดียว เขาก็จะกลายเป็นแชมป์ยูโร ที่อายุน้อยที่สุดตลอดกาล
ในวันเสาร์นี้ ยามาล จะอายุครบ 17 ปี เขาบอกว่า เกมนัดชิงวันอาทิตย์ อยากจะคว้าแชมป์เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเอง มาลองดูกันว่า จะทำได้อย่างที่คิดหรือเปล่า
สุดท้ายนี้ รู้สึกดีใจกับสเปนจริงๆ ที่ค้นพบเพชรเม็ดงามได้เร็วขนาดนี้ สามารถเก็บยามาลไว้ใช้งานให้ทีมชาติได้อีก 15 ปี สบายๆ
แล้วลองคิดดูว่า อายุ 16-17 ยามาลยังเก่งขนาดนี้ ถ้าหากได้ประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กับเวทีลาลีกา และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จนกระดูกแข็งขึ้น เขาจะไปได้ไกลขนาดไหน อาจไปถึงระดับบัลลงดอร์เลยก็ได้ในอนาคต ใครจะไปรู้
#AMAZINGYAMAL
- 42
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
