11 ก.ค. เวลา 01:10 • ประวัติศาสตร์

Ghent Altarpiece งานศิลปะที่ถูกขโมยบ่อยครั้งมากที่สุดในโลก

Ghent Altarpiece หรือ Het Lam Gods ฉากประดับแท่นบูชาเกนต์ หรือที่เรียกว่า “ลูกแกะของพระเจ้า” เป็นบานพับภาพวาดสีน้ำมันที่วาดโดย 2 พี่น้อง Jan Van Eyck และ Hubert วาดเสร็จในปี 1432 ใช้เวลานานรวมกันถึง 10 ปี เนื้อหาของภาพบรรยายให้เห็นถึงความเชื่อเรื่องลึกลับเกี่ยวกับศาสนาคริสต์
4
ตั้งแต่ The Annunciation คำประกาศของเทวทูตต่อพระแมรี่ว่าเธอจะตั้งครรภ์พระเยซูคริสต์ จนถึงการเสียสละของพระเยซูคริสต์ ซึ่งใช้สัญลักษณ์เป็นลูกแกะกำลังหลั่งเลือดลงไปในแก้วเหล้า เนื้อหาเหล่านี้ถูกวาดลงบนแผ่นไม้โอ๊กน้ำหนักสองตัน ซึ่งแต่เดิมมันเคยถูกตั้งอยู่ที่โบสถ์น้อย โยสต์ ไฟต์ ในมหาวิหารเซนต์บาโวที่เมืองเกนต์ในประเทศเบลเยียม แต่ต่อมาย้ายไปอยู่อีกส่วนหนึ่งของมหาวิหารเพื่อความปลอดภัย อันเนื่องมาจาก Het Lam Gods เป็นงานที่ถูกขโมยบ่อยครั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
4
ภาพ Ghent Altarpiece เป็นภาพวาดที่สวยงามมีดีเทลรายละเอียดที่ดูสมจริง และเป็นสัญลักษณ์ของการวาดภาพแบบใหม่ในสมัยนั้นที่นิยมความเป็นธรรมชาติแทนที่จะเป็นการวาดภาพตามจินตนาการเหมือนศิลปะคลาสสิก ด้วยเหตุนี้งาน Ghent Altarpiece จึงเป็นงานศิลปะ Masterpiece ของโลก
4
งาน Ghent Altarpiece ตัวบานพับภาพจะประกอบด้วยฉากทั้งหมด 24 ฉาก ซึ่งมองได้เป็น 2 ชุด
ชุดแรกเมื่อเปิดบานพับออกจะเห็นแถวบนของบานพับตรงกลางเป็นภาพพระคริสตราชา ทางซ้ายเป็นรูปพระนางมารีย์พรหมจารี ทางด้านขวาเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา บานพับถัดไปจากพระแม่มารีและนักบุญยอห์นผู้ให้บัพติศมาเป็นภาพทูตสวรรค์ร้องเพลงสรรเสริญและเล่นดนตรี ด้านนอกสุดจากทูตสวรรค์เป็นอาดัมและอีฟ แถวที่ 2
2
ตรงกลางเป็นภาพการชื่นชมของ “ลูกแกะของพระเจ้า” ซึ่งมีผู้ร่วมชื่นชมหลั่งไหลกันมามากมายภายใต้นกพิราบที่เป็นสัญลักษณ์ของพระวิญญาณบริสุทธ์ ถัดไปทางด้านข้าง ทางซ้ายจะเป็นภาพ “Just Judges” และทางขวาจะเป็น “Knights of Christ”
3
ชุดสอง จะเป็นภาพเมื่อบานพับปิด จะเห็นเป็นภาพแม่พระรับสารตลอดทั้ง 4 แผง ในลักษณะที่เรียกว่าจิตรกรรมเอกรงค์ ทางด้านซ้ายเป็นคำประกาศของกาเบรียล ทางด้านขวาเป็นคำตอบของพระแม่มารีย์ที่เหมือนกับงานแม่พระรับสารอีกชิ้นหนึ่ง
3
งาน Ghent Altarpiece ต้องผ่านมรสุมต่างๆ มากมาย ทั้งถูกไฟไหม้ ถูกระเบิด ถูกโยนทิ้ง แผ่นไม้พังแยกออกมา จากบันทึกประวัติของภาพชิ้นนี้เผยให้เห็นว่ามันถูกโจรกรรม ถูกภัยสงคราม ถูกขโมยแล้วเรียกค่าไถ่ รวมกันทั้งหมด 13 ครั้งด้วยกัน
2
ทั้งถูกนโปเลียนขโมย 4 ภาพนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ของนโปเลียนในกรุงปารีส ต่อมาทั้ง 4 ภาพนี้ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ก่อนจะถูกจัดส่งกลับคืนในปี 1815
1
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 งานชิ้นนี้ก็ถูกขโมยโดยทหารเยอรมัน ต่อมาเสร็จสิ้นสงครามโลกในสนธิสัญญาแวร์ซายได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเยอรมันจะต้องส่งงานชิ้นนี้กลับคืนมาให้ที่เบลเยียม
2
หลังจากนั้นงานชิ้นนี้ก็ผ่านมือขโมยอีกหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังสามารถตามเจอนำกลับมาคืนได้ ยกเว้นมีชิ้นส่วนหนึ่ง คือ “The Just Judges” เป็นชิ้นส่วนที่อยู่ตรงมุมซ้ายล่างของชิ้นงาน ที่ยังตามหาไม่เจอ ที่เห็นในปัจจุบันเป็นภาพวาดลอกเลียนแบบประกอบขึ้นใหม่ เพื่อให้งาน Ghent Altarpiece สมบูรณ์
3
ด้วยเหตุนี้งานชิ้นส่วน The Just Judges จึงยังเป็นคดีที่ยังปิดไม่ได้ และกลายเป็นคดีทางงานศิลปะที่ยังคงค้างยาวนานที่สุด ซึ่งก็มีข่าวลือต่างๆ นานาว่ามันถูกซ่อนอยู่ในสถานที่ที่คนรู้จักกันดี บางกระแสก็บอกว่ามันถูกทำลายไปแล้ว
4
งาน Het Lam Gods จึงนับเป็นมรดกล้ำค่าทางด้านศิลปะที่ผ่านกาลเวลามา 600 กว่าปี ซึ่งมันก็มี Story เรื่องราวที่มากมายไม่แพ้ภาพโมนาลิซาอันโด่งดัง งาน Ghent Altarpiece จึงเป็นที่หมายตาของใครต่อใครจนถูกขโมยเคลื่อนย้ายหลายครั้งหลายครา จนทำให้งานชิ้นนี้กลายเป็น งานศิลปะที่ถูกขโมยบ่อยครั้งมากที่สุดในโลก และยังเป็นผลงานที่มีชิ้นส่วนบางส่วนกลายเป็นคดีความที่ยังคงค้างยาวนานที่สุดด้วยเช่นกัน
3
ซึ่งหากใครไปเที่ยวเบลเยี่ยมอย่าลืมแวะไปชมผลงาน Masterpiece ชิ้นนี้กันนะครับ
2
อ้างอิง
หนังสือ We did that? เขียนโดย โซฟี สเตอร์ลิง
โฆษณา