11 ก.ค. เวลา 02:58 • ข่าว

การคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและท้าทายมาก การคัดเลือกครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมถึง 3,000 คน แต่จะถูกคัดเลือกให้เหลือเพียง 200 คน
ในวันเดียวกันนี้มีการแบ่งการคัดเลือกเป็นสองช่วง ช่วงเช้าคัดเลือกจาก 20 สาขาอาชีพที่มีผู้สมัครประมาณ 154 คนต่อสาขา ให้เหลือเพียง 40 คน และช่วงบ่ายคัดเลือกไขว้กันจนได้ 10 คนต่อสาขาอาชีพ
การเตรียมการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับการดำเนินการอย่างดี ผู้สมัครทุกคนต้องส่งมอบโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสาร ทำให้การคัดเลือกเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม ผู้สมัครมีอายุเฉลี่ยประมาณ 50-80 ปี โดยกลุ่มอายุ 40-50 ปีมีไม่มากนัก
เมื่อถึงช่วงเวลาคัดเลือก ทาง กกต.ได้ให้หนังสือ สว.3 แก่ผู้สมัคร ซึ่งมีรายละเอียดข้อมูลและประวัติของผู้สมัครแต่ละคน ผู้สมัครใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจเลือกผู้สมัครที่เหมาะสม
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้เขียนบทความนี้ เล่าถึงประสบการณ์ของเขาในการสมัคร สว.จากกลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ไม่ผ่านการคัดเลือกในช่วงเช้า เขาพบว่าหลายคนมีธงในใจที่จะเลือกใครไว้แล้ว ทำให้การแนะนำตัวอาจไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง อีกทั้งการเลือกตั้งนี้ยังมีการกระจายอำนาจให้กับผู้สมัครจากต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงมักเป็นคนที่มีชื่อเสียงหรือเครือข่ายสนับสนุนที่แข็งแกร่งในท้องถิ่น
บทเรียนจากการคัดเลือกนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบประวัติความเป็นมาของ สว. เราควรรู้ว่าสมาชิกวุฒิสภาแต่ละคนมาจากที่ใดและมีบทบาทอย่างไรในชุมชนของตน เนื่องจาก สว.มีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกองค์กรอิสระที่มีผลต่อการกำกับ ดูแล และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานรัฐ การคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความยุติธรรมและความโปร่งใสในระบบการเมืองของประเทศ
โฆษณา