ประการแรก ผู้สร้างเหรียญ TON ก็คือ Telegram ซึ่งเป็นแอปแชทที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 900 ล้านคน และยังเป็นแอปที่นักลงทุนคริปโตส่วนใหญ่ใช้ในการสื่อสารอีกด้วย เรียกได้ว่าทันทีที่สร้างเหรียญขึ้นมาก็มีผู้ที่รอจะใช้งานทันที
นอกจากนี้ Telegram ยังได้พัฒนาบล็อกเชนของตัวเองขึ้นมาในชื่อ TON Chain เพื่อรองรับการใช้งาน Dapps ต่างๆที่จะมีขึ้นใน Ecosystem ทำให้ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีการถือครองเหรียญ TON เพื่อใช้งานแอปพลิเคชั่น โดยในระบบนิเวศน์ของ TON มีโปรดักต์มากมายที่ดึงดูดผู้ใช้งาน
หัวใจสำคัญที่ทำให้ TON Chain เกิดการใช้งานในวงกว้างคือแอปประเภทเกมส์โดยเฉพาะเกมส์แนว Tap To Earn โดยผู้เล่นสามารถที่จะเข้าถึงได้ง่ายเพียงแต่เปิดผ่านแอป Telegram เท่านั้น โดยแรงจูงใจที่ทำให้มีผู้เล่นเข้ามาเพราะการเข้ามาเล่นเกมส์จะทำให้ได้รับแต้มสะสมเพื่อที่จะไปรับเหรียญ TON มาและนำไปขายเป็นเงินได้ตามแนวทางของ GameFi ที่สามารถสร้างรายได้จากกิจกรรมในบล็อกเชน
ไม่เพียงแต่เกมส์ TON Chain ยังมีโปรเจกต์ทางด้านบล็อกเชนอื่นๆ ด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็น DeFi และ NFT ล่าสุดมีเม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนใน DeFi ภายใต้เชนของ TON กว่า 600 ล้านดอลลาร์และมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
การเติบโตที่โดดเด่นของ TON Chain ยังทำให้ได้รับเงินทุนจากวีซีรายใหญ่ในโลกคริปโตอย่าง Pantera Capital ภายใต้ชื่อ Pantera TON Investment Opportunity” โดยเปิดให้นักลงทุนทั่วไปสามารถร่วมลงทุนได้ โดยมีการลงทุนขั้นต่ำต่อผู้สนับสนุนคือ 250,000 ดอลลาร์
จากปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งเสริมให้ TON เป็นบล็อกเชนและเหรียญที่โดดเด่นที่สุด นับตั้งแต่ต้นปีนี้และถูดคาดหมายว่าจะเติบโตได้เป็นอันดับต้นๆในตลาดขาขึ้นของคริปโตรอบนี้
ไม่ว่าจะอย่างไร TON ถือเป็นเหรียญที่น่าจับตาด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน และยังต้องติดตามพัฒนาการของเทคโนโลยีว่าจะสร้างนวัตรกรรมใหม่ในโลกบล็อกเชนอีกหรือไม่